เป็นเรื่องจริงที่เกิดจากความมักง่ายของผมเอง
ผม เป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่มีความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะต้องประสบความสำเร็จในชีวิตให้ได้ ให้พ่อแม่มีความสุขไม่ต้องอยู่อย่างลำบากอีกต่อไป แต่ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจในเป้าหมายมากสักเท่าไร ดิ้นรนส่งตัวเองเรียนด้วยเงินที่น้อยนิด พึ่งพาตัวเองซะส่วนใหญ่ ได้กำลังใจจากพ่อแม่ จนวันหนึ่งหลังจากเรียนจบก็ได้มาทำงานที่ผมไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย และผมไม่ได้คิด ทุกอย่างเป็นชื่อของผมแต่มีคนคิดให้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้เงินมาหมุนในธุรกิจ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาโดยการนี้โดยเฉพาะ จนวันหนึ่งเริ่มจะสู้ไม่ไหว จากหนี้สิน หนึ่งพัน เป็นหนึ่งหมื่น หนึ่งแสน หนึ่งล้าน สิบล้าน สี่สิบล้าน และในที่สุด ทุกอย่างก็พังทลายลงมาในวันเกิดครบเบญจเพศพอดี จากต่ำสุด ขึ้นไปสูงสุดด้วยการยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ จากที่ไส้ข้างในกลวง ด้วยฐานรากที่เป็นของคนอื่น ที่ไม่มั่นคง ก็ตกลงมาอย่างน่าใจหาย หนี้สินที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ทั้งในระบบและนอกระบบ
ผมเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่ง ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ได้ในระดับหนึ่ง ผมได้รู้จักกับคนๆหนึ่ง ซึ่งเขาทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าของเขา ผมได้ไปช่วยงานเขาโดยมีหน้าที่จัดเตรียมข้อมูลให้ลูกค้าและอัปโหลดข้อมูลของเขาขึ้นบนเว็บไซด์ หลังจากจบการศึกษาแล้ว เขาชักชวนให้เปิดบริษัททำเกี่ยวกับงานอสังหาริมทรัพย์ ครบวงจร และเปิดบริษัทขึ้นมาอีก หลายบริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีผมเป็นกรรมการผู้จัดการ มีหน้าที่ทำงานคือเดินบัญชีเพื่อกู้เงิน โดยธุรกิจที่ทำอยู่มีหลายบริษัทนั้นจะเป็นการกู้เงินระหว่างผมและลูกค้าของเขา ซึ่งเป็นการกู้นอกระบบมาทำธุรกิจจึงมีดอกเบี้ยที่สูงกว่ากฏหมายมาก ธุรกิจที่ทำมีกำไรไม่พอกับดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบที่กู้มา เมื่อเดินบัญชีได้ในระดับหนึ่งก็กู้ SME ของธนาคารแห่งหนึ่งผ่าน และนำเงินนั้นไปปิดบัญชีเงินกู้นอกระบบ แต่ก็สายไปเสียแล้ว ดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบมันกัดกินเงินกู้ SME จนหมดสิ้น หมุนเงินยืมนั่นโป๊ะนี่ ยืมนี่โป๊ะนั่น มันไม่ทัน อีกทั้งทรัพย์สินที่มีก็ได้มาจากการกู้เท่านั้น ทำให้ไม่สามารถขายมาใช้หนี้ได้ และ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการกู้เงินที่มีมูลค่ามากกว่าทรัพย์สินที่ค้ำประกันด้วย
หลังจากนั้น ทุกอย่างก็พังทลายลงมา ด้วยแกนกลางที่กลวง ด้วยการยืมจมูกคนอื่นหายใจ เจ้าของจมูกเจ็บ ผมเจ็บ แต่เขาไม่เจ็บ เพราะไม่มีอะไรที่ไปผูกมัดเขา มีแต่ผูกมัดผมคนเดียวเท่านั้น 40 ล้านบาท
เอาเป็นว่าตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ 2 ปีละ ยังแก้ปัญหาอย่างไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไร แต่ก็พอถูๆไถๆไปได้บ้างตามกำลังและหนึ่งสมองของผมที่เวลาผ่านล่วงเลยมาถึงขนาดนี้ การแก้ปัญหาของผมยังไม่ค่อยคืบหน้าๆปไหนอาจจะเป็นเพราะผมยังงมเข็มในแม่น้ำ ส่องหาทางออกอาจจะเจอแล้วแต่ยังขาดอะไรบางอย่าง ก็เป็นได้
ขอบคุณ แสงสว่าง จากดวงจันทร์ในคืนเดือนแรมกับแสงระยิบระยับลางๆของหมู่ดาวต่างๆบนฟากฟ้า หากวันนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งก็ยังไม่สายสำหรับใครบางคน แต่สำหรับผมแล้วมันอาจจะสายหรือล่าช้าไปบ้าง เพราะอะไรหลายๆอย่าง ที่หาเหตุผลได้และหาเหตุผลไม่ได้
ผมมักจะคิดว่าการเริ่มต้นของผมมันยากมาก เพราะว่าผมเคยติดลบมา ซึ่งมันเป็นความคิดที่แย่มาก และมันก็ทำลายจิตใจผมมากๆ อันที่จริงแล้ว การติดลบมามันไม่ได้เป็นปัญหา หากแต่จิตใจที่คิดลบของผมเองต่างหากที่มีปัญหาของการเริ่มต้น
การเริ่มต้นของผมเป็นการเริ่มต้นด้วยความคิดแบบแคบๆว่าตัวผมติดลบทางด้านการเงินมา ทำอะไรก็ไม่สะดวก แต่ที่จริงมันไม่ใช่เลย เป็นเพียงแค่ตัวผม ติดลบทางความคิด มากกว่า และยังไม่ได้ปล่อยให้ชีวิตจิตใจนี้มีอิสระจากความกลัวที่แท้จริง หากลองเปรียบเทียบดูระหว่างตัวของผมเองในตอนนี้ กับตัวของผมในตอนนั้น ตอนที่ยังไม่มีอะไรเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่พยายามจะทำอะไรก็กลัว กลัวไปซะทุกอย่าง ตั้งแต่ครั้งที่ทำธุรกิจคนเดียวครั้งแรก ไม่กล้าที่จะลงทุนมาก แต่ก็พลาด เป็นเพราะความคิดความขี้กลัวของผมเองทำให้พลาดโอกาสดีๆครั้งนั้นไป จนมาถึงตอนนี้ตอนที่พลาดโอกาสใหญ่ครั้งที่สองเพียงเพราะความกลัว ตอนนี้ผมมองว่าการเริ่มต้นครั้งที่สามนี้จะง่ายกว่าครั้งแรกที่เริ่มต้นด้วยความกลัว ครั้งที่สองเริ่มต้นด้วยความไม่รู้ตัว และครั้งที่สามนี้เป็นการเริ่มต้นที่พยายามก้าวข้ามผ่านความกลัวด้วยความมีสติ เพื่อให้ไปถึงฝั่งฝัน ในเป้าหมายของผมให้ได้
มีหลายคนมากที่เคยทำงานให้ผม ยามมั่งมี เขาเหล่านั้นจะคอยช่วยเหลือเราอย่างดี "คุณคะ คุณขา" พอล้มมา แม้แต่ไม้กวาดกับที่ตักผงที่บ้านมันยังมาเอาไป
ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ ผมก็คงจะไม่ได้มาพิมพ์ข้อความให้ทุกๆท่านได้อ่านกัน ไม่ว่าด้วยจุดประสงค์ใดก็แล้วแต่ ผมต้องขอขอบคุณเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ทำให้ผมได้เห็นโลกใบนี้ในอีกมุมๆหนึ่ง ซึ่งได้พบเจอผู้คนมากมาย ตั้งแต่พนักงาน ยันผู้บริหารขององค์กรใหญ่ๆในระดับประเทศหลายท่าน ได้รับทราบข้อมูลแนวความคิดของแต่ละคน รวมไปถึงระบบการทำงานของแต่ละบริษัท และยังมาให้กำลังใจในการต่อสู้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย ทำให้ผมได้มีหูตาเพิ่มขึ้น สว่างมากขึ้น จากที่อยู่แต่ในกะลาครอบไว้ อยู่ในกะลาแห่งความกลัว มานาน ครับ
หลายคนมองว่าผม โง่ ต้องขอขอบคุณที่มองอย่างนั้น เพราะการ โง่ ของผม มันคือการได้รับรู้ถึงสัจจธรรมของมนุษย์ เห็นคนที่คอยซ้ำเติมและยังจะพยายามเหยียบผมให้จมโคลน ทั้งๆที่เขาเหล่านั้นก็ได้รับประโยชน์มากมาย จากการล้มของผมในครั้งนั้น เห็นคนที่รักผมจริงๆ เขายื่นมือ หยิบยื่นเครื่องมือให้ผมแก้ปัญหาได้ในบางอย่างจริงๆ ต้องขอขอบคุณตัวเองที่ยังตั้งใจมีชีวิตอยู่เพื่อความสุขของตัวเอง ความสุขของคนที่รักเราและความสุขของคนที่เรารัก
สัญญาจากใจของเด็กบ้านนอกคนนี้
เกมส์ๆ นี้ ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วแก่ใจว่าเป็นอย่างไร หากแต่ครั้งนั้นผมคิดให้มากกว่าตอนนี้ สิ่งที่ไม่ดีก็คงจะไม่เกิดขึ้น คำมั่นสัญญาจากเด็กบ้านนอกคนนี้ คือคำสัญญาที่ออกมาจากหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ณ ตอนนี้ว่า ผมตั้งใจและมีเจตนาดีกับทุกคน ผมตั้งใจที่จะชำระหนี้สินให้ครบทุกบาททุกสตางค์ จะคืนจมูกที่ได้เคยยืมมาใช้ให้ทุกคน บนพื้นฐานของความถูกต้อง ยุติธรรม เพื่อความเป็นธรรมกับตัวผมเองและทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกัน
ฆ่าความกลัวด้วยสติ
อย่ากลัวการเริ่มต้น
เจ๊งเป็นหนี้ 40 ล้านเพราะความมักงาย ตอนวันเกิดอายุครบ 25 ปี
ผม เป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่มีความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะต้องประสบความสำเร็จในชีวิตให้ได้ ให้พ่อแม่มีความสุขไม่ต้องอยู่อย่างลำบากอีกต่อไป แต่ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจในเป้าหมายมากสักเท่าไร ดิ้นรนส่งตัวเองเรียนด้วยเงินที่น้อยนิด พึ่งพาตัวเองซะส่วนใหญ่ ได้กำลังใจจากพ่อแม่ จนวันหนึ่งหลังจากเรียนจบก็ได้มาทำงานที่ผมไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย และผมไม่ได้คิด ทุกอย่างเป็นชื่อของผมแต่มีคนคิดให้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้เงินมาหมุนในธุรกิจ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาโดยการนี้โดยเฉพาะ จนวันหนึ่งเริ่มจะสู้ไม่ไหว จากหนี้สิน หนึ่งพัน เป็นหนึ่งหมื่น หนึ่งแสน หนึ่งล้าน สิบล้าน สี่สิบล้าน และในที่สุด ทุกอย่างก็พังทลายลงมาในวันเกิดครบเบญจเพศพอดี จากต่ำสุด ขึ้นไปสูงสุดด้วยการยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ จากที่ไส้ข้างในกลวง ด้วยฐานรากที่เป็นของคนอื่น ที่ไม่มั่นคง ก็ตกลงมาอย่างน่าใจหาย หนี้สินที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ทั้งในระบบและนอกระบบ
ผมเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่ง ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แบ่งเบาภาระของพ่อแม่ได้ในระดับหนึ่ง ผมได้รู้จักกับคนๆหนึ่ง ซึ่งเขาทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้าของเขา ผมได้ไปช่วยงานเขาโดยมีหน้าที่จัดเตรียมข้อมูลให้ลูกค้าและอัปโหลดข้อมูลของเขาขึ้นบนเว็บไซด์ หลังจากจบการศึกษาแล้ว เขาชักชวนให้เปิดบริษัททำเกี่ยวกับงานอสังหาริมทรัพย์ ครบวงจร และเปิดบริษัทขึ้นมาอีก หลายบริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีผมเป็นกรรมการผู้จัดการ มีหน้าที่ทำงานคือเดินบัญชีเพื่อกู้เงิน โดยธุรกิจที่ทำอยู่มีหลายบริษัทนั้นจะเป็นการกู้เงินระหว่างผมและลูกค้าของเขา ซึ่งเป็นการกู้นอกระบบมาทำธุรกิจจึงมีดอกเบี้ยที่สูงกว่ากฏหมายมาก ธุรกิจที่ทำมีกำไรไม่พอกับดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบที่กู้มา เมื่อเดินบัญชีได้ในระดับหนึ่งก็กู้ SME ของธนาคารแห่งหนึ่งผ่าน และนำเงินนั้นไปปิดบัญชีเงินกู้นอกระบบ แต่ก็สายไปเสียแล้ว ดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบมันกัดกินเงินกู้ SME จนหมดสิ้น หมุนเงินยืมนั่นโป๊ะนี่ ยืมนี่โป๊ะนั่น มันไม่ทัน อีกทั้งทรัพย์สินที่มีก็ได้มาจากการกู้เท่านั้น ทำให้ไม่สามารถขายมาใช้หนี้ได้ และ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการกู้เงินที่มีมูลค่ามากกว่าทรัพย์สินที่ค้ำประกันด้วย
หลังจากนั้น ทุกอย่างก็พังทลายลงมา ด้วยแกนกลางที่กลวง ด้วยการยืมจมูกคนอื่นหายใจ เจ้าของจมูกเจ็บ ผมเจ็บ แต่เขาไม่เจ็บ เพราะไม่มีอะไรที่ไปผูกมัดเขา มีแต่ผูกมัดผมคนเดียวเท่านั้น 40 ล้านบาท
เอาเป็นว่าตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ 2 ปีละ ยังแก้ปัญหาอย่างไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไร แต่ก็พอถูๆไถๆไปได้บ้างตามกำลังและหนึ่งสมองของผมที่เวลาผ่านล่วงเลยมาถึงขนาดนี้ การแก้ปัญหาของผมยังไม่ค่อยคืบหน้าๆปไหนอาจจะเป็นเพราะผมยังงมเข็มในแม่น้ำ ส่องหาทางออกอาจจะเจอแล้วแต่ยังขาดอะไรบางอย่าง ก็เป็นได้
ขอบคุณ แสงสว่าง จากดวงจันทร์ในคืนเดือนแรมกับแสงระยิบระยับลางๆของหมู่ดาวต่างๆบนฟากฟ้า หากวันนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งก็ยังไม่สายสำหรับใครบางคน แต่สำหรับผมแล้วมันอาจจะสายหรือล่าช้าไปบ้าง เพราะอะไรหลายๆอย่าง ที่หาเหตุผลได้และหาเหตุผลไม่ได้
ผมมักจะคิดว่าการเริ่มต้นของผมมันยากมาก เพราะว่าผมเคยติดลบมา ซึ่งมันเป็นความคิดที่แย่มาก และมันก็ทำลายจิตใจผมมากๆ อันที่จริงแล้ว การติดลบมามันไม่ได้เป็นปัญหา หากแต่จิตใจที่คิดลบของผมเองต่างหากที่มีปัญหาของการเริ่มต้น
การเริ่มต้นของผมเป็นการเริ่มต้นด้วยความคิดแบบแคบๆว่าตัวผมติดลบทางด้านการเงินมา ทำอะไรก็ไม่สะดวก แต่ที่จริงมันไม่ใช่เลย เป็นเพียงแค่ตัวผม ติดลบทางความคิด มากกว่า และยังไม่ได้ปล่อยให้ชีวิตจิตใจนี้มีอิสระจากความกลัวที่แท้จริง หากลองเปรียบเทียบดูระหว่างตัวของผมเองในตอนนี้ กับตัวของผมในตอนนั้น ตอนที่ยังไม่มีอะไรเป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่พยายามจะทำอะไรก็กลัว กลัวไปซะทุกอย่าง ตั้งแต่ครั้งที่ทำธุรกิจคนเดียวครั้งแรก ไม่กล้าที่จะลงทุนมาก แต่ก็พลาด เป็นเพราะความคิดความขี้กลัวของผมเองทำให้พลาดโอกาสดีๆครั้งนั้นไป จนมาถึงตอนนี้ตอนที่พลาดโอกาสใหญ่ครั้งที่สองเพียงเพราะความกลัว ตอนนี้ผมมองว่าการเริ่มต้นครั้งที่สามนี้จะง่ายกว่าครั้งแรกที่เริ่มต้นด้วยความกลัว ครั้งที่สองเริ่มต้นด้วยความไม่รู้ตัว และครั้งที่สามนี้เป็นการเริ่มต้นที่พยายามก้าวข้ามผ่านความกลัวด้วยความมีสติ เพื่อให้ไปถึงฝั่งฝัน ในเป้าหมายของผมให้ได้
มีหลายคนมากที่เคยทำงานให้ผม ยามมั่งมี เขาเหล่านั้นจะคอยช่วยเหลือเราอย่างดี "คุณคะ คุณขา" พอล้มมา แม้แต่ไม้กวาดกับที่ตักผงที่บ้านมันยังมาเอาไป
ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้ ผมก็คงจะไม่ได้มาพิมพ์ข้อความให้ทุกๆท่านได้อ่านกัน ไม่ว่าด้วยจุดประสงค์ใดก็แล้วแต่ ผมต้องขอขอบคุณเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ทำให้ผมได้เห็นโลกใบนี้ในอีกมุมๆหนึ่ง ซึ่งได้พบเจอผู้คนมากมาย ตั้งแต่พนักงาน ยันผู้บริหารขององค์กรใหญ่ๆในระดับประเทศหลายท่าน ได้รับทราบข้อมูลแนวความคิดของแต่ละคน รวมไปถึงระบบการทำงานของแต่ละบริษัท และยังมาให้กำลังใจในการต่อสู้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย ทำให้ผมได้มีหูตาเพิ่มขึ้น สว่างมากขึ้น จากที่อยู่แต่ในกะลาครอบไว้ อยู่ในกะลาแห่งความกลัว มานาน ครับ
หลายคนมองว่าผม โง่ ต้องขอขอบคุณที่มองอย่างนั้น เพราะการ โง่ ของผม มันคือการได้รับรู้ถึงสัจจธรรมของมนุษย์ เห็นคนที่คอยซ้ำเติมและยังจะพยายามเหยียบผมให้จมโคลน ทั้งๆที่เขาเหล่านั้นก็ได้รับประโยชน์มากมาย จากการล้มของผมในครั้งนั้น เห็นคนที่รักผมจริงๆ เขายื่นมือ หยิบยื่นเครื่องมือให้ผมแก้ปัญหาได้ในบางอย่างจริงๆ ต้องขอขอบคุณตัวเองที่ยังตั้งใจมีชีวิตอยู่เพื่อความสุขของตัวเอง ความสุขของคนที่รักเราและความสุขของคนที่เรารัก
สัญญาจากใจของเด็กบ้านนอกคนนี้
เกมส์ๆ นี้ ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วแก่ใจว่าเป็นอย่างไร หากแต่ครั้งนั้นผมคิดให้มากกว่าตอนนี้ สิ่งที่ไม่ดีก็คงจะไม่เกิดขึ้น คำมั่นสัญญาจากเด็กบ้านนอกคนนี้ คือคำสัญญาที่ออกมาจากหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ณ ตอนนี้ว่า ผมตั้งใจและมีเจตนาดีกับทุกคน ผมตั้งใจที่จะชำระหนี้สินให้ครบทุกบาททุกสตางค์ จะคืนจมูกที่ได้เคยยืมมาใช้ให้ทุกคน บนพื้นฐานของความถูกต้อง ยุติธรรม เพื่อความเป็นธรรมกับตัวผมเองและทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกัน
ฆ่าความกลัวด้วยสติ
อย่ากลัวการเริ่มต้น