เมื่อคืนวันที่ 18 เม.ย. 57 เวลาประมาณ 5 ทุ่มผู้ประกอบการรถตู้โดยสารรวมตัวกัน ปิดถนนสายแม่สอด-ตาก บริเวณจุดตรวจดอยมูเซอ ถนนสายแม่สอด-ตากที่ตำรวจ นปพ.ภูธรภาค 6 มาตั้งจุดตรวจ(รีดไถ)มานานกว่า 5 ปี
สาเหตุมาจากกลุ่มรถตู้โดยสารรับ-ส่งแรงงานชาวพม่าที่ผ่านจุดตรวจนี้ ต้องจอดให้แรงงานชาวพม่าลงไปให้ตำรวจ นปพ.ภาค 6 ตรวจหนังสือเดินทาง
ใบอนุญาตทำงาน ฯลฯ(ที่อยากจะตรวจ)
กรณีแรงงานพม่ามีหนังสือเดินทาง(ถูกต้อง)แต่ไม่มีใบอนุญาตทำงานแสดง(ไม่จำเป็นเพราะขณะนั้นไม่ได้ทำงาน) นปพ.ภาค6 เรียกเก็บรายละ 200-300 บาทต่อคน แต่เมื่อคืนนี้เกิดผีเข้ามีการเรียกเก็บคนละ 1,000 บาท
เมื่อแรงงานพม่าไม่มีจ่ายตำรวจ นปพ.ภ.6จุดตรวจดอยมูเซอกักตัวไม่ยอมให้แรงงานพม่าเดินทาง ทำให้ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารไม่พอใจ รวมตัวกันปิดถนนช่วงดอยมูเซอทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้เกือบ 2 ชม.
ทั้งที่จริงชาวพม่าเหล่านี้ผ่านการตรวจจากจุดตรวจร่วมบ้านห้วยหินฝนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(หน่วยงานโดยตรง) ทหาร ตำรวจภูธร อ.แม่สอด และ ตชด.มาก่อนแล้ว และหลังจากผ่านจุดตรวจร่วมบ้านห้วยหินฝนแล้วต้องเจอกับด่านตรวจห้วยยะอุของตำรวจภูธรจังหวัดตากอีกครั้ง
ความเป็นจริงการรีดไถแรงงานชาวพม่าที่จดทะเบียนถูกต้องมีหนังสือเดินมานานนับหลายปี ทั้งขาไปและกลับแม่สอดตามจุดตรวจของตำรวจภูธรต่างๆ เช่น
-จุดตรวจบ้านปากดง สภ.เมือง กำแพงเพชร ขาขึ้นมีการตั้งด่าน เรียกเก็บคนละ 100-200 บาท(ตั้งเป็นครั้งคราว)
-จุดตรวจ สภ.ทรงธรรม กำแพงเพชร ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง เรียกเก็บคนละ 200-300 บาท(ประจำ)
-จุดตรวจ สภ.โกสัมพี กำแพงเพชร ขาขึ้น เรียกเก็บคนละ 200 บาท(ประจำ)
-จุดตรวจ สภ.วังเจ้า กำแพงเพชร เรียกเก็บคนละ 100 บาท (ตั้งเป็นครั้งคราว)
-ตู้ตำรวจทางหลวงถนนงาม อ.คลองขลุง กำแพงเพชร เรียกเก็บคนละ 100 บาท(ตั้งเป็นครั้งคราว)
-จุดตรวจบ้านห้วยยะอุ ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง เรียกเก็บคนละ 200 บาท (ประจำ)
-จุดตรวจ สภ.พะวอ ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง เรียกเก็บคนละ 100-200 บาท (เป็นครั้งคราว)
-จุดตรวจดอยมูเซอ(เจ้าปัญหา) ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง เรียกเก็บคนละ 200-300 บาท จุดตรวจนี้จะโหดและหนักหน่อยกรณีเมื่อตรวจรถโดยสารพบพม่าคนไหนไม่มีหนังสือเดินทางจะเรียกเก็บคนละ 2,000-3,000 บาท คนไหนมีจ่ายก็จะปล่อย ถ้าคนไหนไม่มีก็จะส่งให้ดำเนินคดี
กรณีไม่มีใบอนุญาตทำงานแสดง 1,000 บาท มีแต่สำเนา 300-500 บาท
ไม่มีใบแจ้ง 90 วัน 300-500 บาท
ไม่มี ทร.38 1,000 บาท
-จุดตรวจ(ด่านลอย) สภ.แม่สอด บริเวณใกล้ปั๊ม ป.ต.ท. ขาไปพม่าจะตั้งเช้าตั้งแต่ 04.00 น.- 09.00 น. ขาจะเข้า กทม.จะตั้งแต่เวลา 15.00-22.00 น.จะเรียกตรวจ(เก็บ)เหมือนจุดตรวจดอยมูเซอ จุดนี้มีการร้องเรียนบ่อยๆ เมื่อมีการร้องเรียนจะหยุด
วิธีการของจุดตรวจ(รีดไถ)พวกนี้จะไม่เรียกเก็บเงินบนรถโดยสาร จะให้แรงงานชาวพม่าลงจากรถโดยสาร พาเดินแถวไปที่ลับตาให้แรงงานพาเอาเงินใส่กล่องที่เตรียมไว้ บางที่ถึงกับลงทุนสร้างโรงเรือนทำม่านบังตาด้วยสแลนสีดำ(เห็นได้ที่ด่านตรวจห้วยยะอุ)
เหตุการณ์ที่กล่าวมามีการร้องเรียนผ่าน สตช.สถานฑูตไทยและพม่า และองค์กรสิทธิหลายๆที่..แต่ก็เงียบ
ในช่วงบ้านเมืองกำลังวุ่นวายชุลมุนตำรวจพวกนี้เริ่มเรียกหนักขึ้นทุกวันๆ
มีข้อมูลเบื้องลึกว่ามีนายตำรวจระดับ บช. ที่กำลังจะเกษียณอายุในปีนี้เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร.เป็นผู้สั่งไฟเขียว โดยมี รอง ผบก.ใหม่เอี่ยมเป็นตัวดำเนินการ....จริงหรือไม่ครับท่าน?
ปล.ตำรวจตามจุดตรวจ สภ.ต่างๆจะเรียกตรวจรถตู้โดยสาร รถโดยสารสาย กทม.-แม่สอดทุกคัน และไม่ค่อยเรียกตรวจรถโดยสารปรับอากาศ วีไอพี.ชั้น 1 (ยกเว้นจุดตรวจ นปพ.ดอยมูเซอ) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนไทยรู้เห็นพฤติการณ์
เหตุการณ์รถตู้โดยสารปิดถนน
จุดตรวจ นปพ.ภูธร 6 ที่เกิดเหตุ
โรงเรือนใช้ตรวจ(รีด)แรงงานพม่าใช้สแลนสีดำล้อมบังตา
จุดตรวจ สภ.โกสัมพี
รถตู้โดยสารแม่สอดปิดถนนประท้วงตำรวจ..รีดไถแรงงานพม่า
สาเหตุมาจากกลุ่มรถตู้โดยสารรับ-ส่งแรงงานชาวพม่าที่ผ่านจุดตรวจนี้ ต้องจอดให้แรงงานชาวพม่าลงไปให้ตำรวจ นปพ.ภาค 6 ตรวจหนังสือเดินทาง
ใบอนุญาตทำงาน ฯลฯ(ที่อยากจะตรวจ)
กรณีแรงงานพม่ามีหนังสือเดินทาง(ถูกต้อง)แต่ไม่มีใบอนุญาตทำงานแสดง(ไม่จำเป็นเพราะขณะนั้นไม่ได้ทำงาน) นปพ.ภาค6 เรียกเก็บรายละ 200-300 บาทต่อคน แต่เมื่อคืนนี้เกิดผีเข้ามีการเรียกเก็บคนละ 1,000 บาท
เมื่อแรงงานพม่าไม่มีจ่ายตำรวจ นปพ.ภ.6จุดตรวจดอยมูเซอกักตัวไม่ยอมให้แรงงานพม่าเดินทาง ทำให้ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารไม่พอใจ รวมตัวกันปิดถนนช่วงดอยมูเซอทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้เกือบ 2 ชม.
ทั้งที่จริงชาวพม่าเหล่านี้ผ่านการตรวจจากจุดตรวจร่วมบ้านห้วยหินฝนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(หน่วยงานโดยตรง) ทหาร ตำรวจภูธร อ.แม่สอด และ ตชด.มาก่อนแล้ว และหลังจากผ่านจุดตรวจร่วมบ้านห้วยหินฝนแล้วต้องเจอกับด่านตรวจห้วยยะอุของตำรวจภูธรจังหวัดตากอีกครั้ง
ความเป็นจริงการรีดไถแรงงานชาวพม่าที่จดทะเบียนถูกต้องมีหนังสือเดินมานานนับหลายปี ทั้งขาไปและกลับแม่สอดตามจุดตรวจของตำรวจภูธรต่างๆ เช่น
-จุดตรวจบ้านปากดง สภ.เมือง กำแพงเพชร ขาขึ้นมีการตั้งด่าน เรียกเก็บคนละ 100-200 บาท(ตั้งเป็นครั้งคราว)
-จุดตรวจ สภ.ทรงธรรม กำแพงเพชร ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง เรียกเก็บคนละ 200-300 บาท(ประจำ)
-จุดตรวจ สภ.โกสัมพี กำแพงเพชร ขาขึ้น เรียกเก็บคนละ 200 บาท(ประจำ)
-จุดตรวจ สภ.วังเจ้า กำแพงเพชร เรียกเก็บคนละ 100 บาท (ตั้งเป็นครั้งคราว)
-ตู้ตำรวจทางหลวงถนนงาม อ.คลองขลุง กำแพงเพชร เรียกเก็บคนละ 100 บาท(ตั้งเป็นครั้งคราว)
-จุดตรวจบ้านห้วยยะอุ ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง เรียกเก็บคนละ 200 บาท (ประจำ)
-จุดตรวจ สภ.พะวอ ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง เรียกเก็บคนละ 100-200 บาท (เป็นครั้งคราว)
-จุดตรวจดอยมูเซอ(เจ้าปัญหา) ทั้งขาขึ้น-ขาล่อง เรียกเก็บคนละ 200-300 บาท จุดตรวจนี้จะโหดและหนักหน่อยกรณีเมื่อตรวจรถโดยสารพบพม่าคนไหนไม่มีหนังสือเดินทางจะเรียกเก็บคนละ 2,000-3,000 บาท คนไหนมีจ่ายก็จะปล่อย ถ้าคนไหนไม่มีก็จะส่งให้ดำเนินคดี
กรณีไม่มีใบอนุญาตทำงานแสดง 1,000 บาท มีแต่สำเนา 300-500 บาท
ไม่มีใบแจ้ง 90 วัน 300-500 บาท
ไม่มี ทร.38 1,000 บาท
-จุดตรวจ(ด่านลอย) สภ.แม่สอด บริเวณใกล้ปั๊ม ป.ต.ท. ขาไปพม่าจะตั้งเช้าตั้งแต่ 04.00 น.- 09.00 น. ขาจะเข้า กทม.จะตั้งแต่เวลา 15.00-22.00 น.จะเรียกตรวจ(เก็บ)เหมือนจุดตรวจดอยมูเซอ จุดนี้มีการร้องเรียนบ่อยๆ เมื่อมีการร้องเรียนจะหยุด
วิธีการของจุดตรวจ(รีดไถ)พวกนี้จะไม่เรียกเก็บเงินบนรถโดยสาร จะให้แรงงานชาวพม่าลงจากรถโดยสาร พาเดินแถวไปที่ลับตาให้แรงงานพาเอาเงินใส่กล่องที่เตรียมไว้ บางที่ถึงกับลงทุนสร้างโรงเรือนทำม่านบังตาด้วยสแลนสีดำ(เห็นได้ที่ด่านตรวจห้วยยะอุ)
เหตุการณ์ที่กล่าวมามีการร้องเรียนผ่าน สตช.สถานฑูตไทยและพม่า และองค์กรสิทธิหลายๆที่..แต่ก็เงียบ
ในช่วงบ้านเมืองกำลังวุ่นวายชุลมุนตำรวจพวกนี้เริ่มเรียกหนักขึ้นทุกวันๆ
มีข้อมูลเบื้องลึกว่ามีนายตำรวจระดับ บช. ที่กำลังจะเกษียณอายุในปีนี้เป็นเพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร.เป็นผู้สั่งไฟเขียว โดยมี รอง ผบก.ใหม่เอี่ยมเป็นตัวดำเนินการ....จริงหรือไม่ครับท่าน?
ปล.ตำรวจตามจุดตรวจ สภ.ต่างๆจะเรียกตรวจรถตู้โดยสาร รถโดยสารสาย กทม.-แม่สอดทุกคัน และไม่ค่อยเรียกตรวจรถโดยสารปรับอากาศ วีไอพี.ชั้น 1 (ยกเว้นจุดตรวจ นปพ.ดอยมูเซอ) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนไทยรู้เห็นพฤติการณ์
เหตุการณ์รถตู้โดยสารปิดถนน
จุดตรวจ นปพ.ภูธร 6 ที่เกิดเหตุ
โรงเรือนใช้ตรวจ(รีด)แรงงานพม่าใช้สแลนสีดำล้อมบังตา
จุดตรวจ สภ.โกสัมพี