“เราทำในสิ่งที่ประชาชนคนหนึ่งที่ทำตามหน้าที่ เพื่อถวายอารักขา และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้องค์กรเก็บขยะแผ่นดินเป็นองค์กรเปิดเผย ไม่ใช่องค์กรลับ จัดตั้งเป็นองค์กรมหาชน ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีวาระซ่อนเร้นหรือแอบแฝง”
เป็นถ้อยคำบางส่วนของ “พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ในฐานะแกนนำ ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ที่กล่าวระหว่างการประชุมองค์กรครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณเห็นอะไรในคำประกาศของถ้อยคำดังกล่าว ??
สำหรับผมแล้ว ขอบอกได้เลยว่าไม่ว่าอ้ายหรืออี คนไหนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองโดยมีพฤติกรรมโหนสถาบันฯ .... มันทั้งหลายเหล่านั้นล้วนมีเจตนาใช้สถาบันฯเป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ของตนให้ดูดีเท่านั้น ! ! !
การกล่าวอ้างดังกล่าวของผอ.รพ.นั้น ดูเหมือนจะมีเจตนาเพียงเพื่อผลักไสให้ฝ่ายตรงข้ามกับพวกของตนเป็นพวกที่ไม่จงรักภักดีเหมือนพวกตน( ตามที่กล่าวอ้าง ) จึงนับว่าเป็นความพยายามในการแบ่งแยกประชาชนคนไทยให้เกิดการแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง องค์กรเก็บขยะของผอ.รพ.คนนี้ จึงดูเหมือนว่าจะเป็นองค์กรสร้างขยะให้เกิดขึ้นในสังคมเสียมากกว่า
ดูๆแล้วก็ไม่ต่างจากสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เคยเคลื่อนไหวในลักษณะนี้มาแล้ว จนในที่สุดศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกอันเนื่องมาจากพฤติกรรมเดียวกันนี้
ตามนัย บางส่วนของคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.1065/2549 และ อ.1875/2549
ทางนำสืบจำเลยที่ 1 และพฤติการณ์การกล่าวปราศรับของจำเลยที่ 1 ตามวัตถุพยานของจำเลยที่ 1 ก็ดี การแต่งการของจำเลยที่ 1 ไม่ว่าสีของเสื้อที่ใช้สีเหลือง อันเป็นสีประจำพระองค์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และตัวอักษรที่หน้าอกเสื้อคำว่า“เราจะสู้เพื่อในหลวง” ก็ดี ล้วนพยายามสร้างภาพของโจทก์ และผู้สนับสนุนโจทก์ ให้มีภาพยืนอยู่ตรงข้ามกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และพยายามสร้างภาพของจำเลยกับพวกให้อิงแอบแนบชิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันสูงสุดที่ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าต้องเทิดทูล เพื่อแสดงให้เห็นว่าโจทก์กับพวก ไม่จงรักภักดี ทำตัวเสมอพระมหากษัตริย์ หรือไม่ถวายพระเกียรติพระมหากษัตริย์ เป็นการแยกประชาชนคนไทยที่จงรักภักดีบางส่วน ให้เป็นฝ่ายตรงข้ามสถาบันพระมหากษัตริย์ นับเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ
การที่จำเลยที่ 1 พยายามดึงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพ เทิดทูนสูงสุดของประชาชนทุกหมู่เหล่า มาเป็นเครื่องมือในการกำจัดโจทก์กับพวก ในทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะร้ายแรง และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคล หรือคณะบุคคลอื่นๆ อีกต่อไป
..... องค์กรเก็บขยะ หรือองค์กรสร้างขยะ ???? ......
เป็นถ้อยคำบางส่วนของ “พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ในฐานะแกนนำ ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ที่กล่าวระหว่างการประชุมองค์กรครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2557 ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณเห็นอะไรในคำประกาศของถ้อยคำดังกล่าว ??
สำหรับผมแล้ว ขอบอกได้เลยว่าไม่ว่าอ้ายหรืออี คนไหนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองโดยมีพฤติกรรมโหนสถาบันฯ .... มันทั้งหลายเหล่านั้นล้วนมีเจตนาใช้สถาบันฯเป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ของตนให้ดูดีเท่านั้น ! ! !
การกล่าวอ้างดังกล่าวของผอ.รพ.นั้น ดูเหมือนจะมีเจตนาเพียงเพื่อผลักไสให้ฝ่ายตรงข้ามกับพวกของตนเป็นพวกที่ไม่จงรักภักดีเหมือนพวกตน( ตามที่กล่าวอ้าง ) จึงนับว่าเป็นความพยายามในการแบ่งแยกประชาชนคนไทยให้เกิดการแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง องค์กรเก็บขยะของผอ.รพ.คนนี้ จึงดูเหมือนว่าจะเป็นองค์กรสร้างขยะให้เกิดขึ้นในสังคมเสียมากกว่า
ดูๆแล้วก็ไม่ต่างจากสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เคยเคลื่อนไหวในลักษณะนี้มาแล้ว จนในที่สุดศาลได้มีคำพิพากษาให้จำคุกอันเนื่องมาจากพฤติกรรมเดียวกันนี้
ตามนัย บางส่วนของคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.1065/2549 และ อ.1875/2549
ทางนำสืบจำเลยที่ 1 และพฤติการณ์การกล่าวปราศรับของจำเลยที่ 1 ตามวัตถุพยานของจำเลยที่ 1 ก็ดี การแต่งการของจำเลยที่ 1 ไม่ว่าสีของเสื้อที่ใช้สีเหลือง อันเป็นสีประจำพระองค์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และตัวอักษรที่หน้าอกเสื้อคำว่า“เราจะสู้เพื่อในหลวง” ก็ดี ล้วนพยายามสร้างภาพของโจทก์ และผู้สนับสนุนโจทก์ ให้มีภาพยืนอยู่ตรงข้ามกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และพยายามสร้างภาพของจำเลยกับพวกให้อิงแอบแนบชิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันสูงสุดที่ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าต้องเทิดทูล เพื่อแสดงให้เห็นว่าโจทก์กับพวก ไม่จงรักภักดี ทำตัวเสมอพระมหากษัตริย์ หรือไม่ถวายพระเกียรติพระมหากษัตริย์ เป็นการแยกประชาชนคนไทยที่จงรักภักดีบางส่วน ให้เป็นฝ่ายตรงข้ามสถาบันพระมหากษัตริย์ นับเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ
การที่จำเลยที่ 1 พยายามดึงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพ เทิดทูนสูงสุดของประชาชนทุกหมู่เหล่า มาเป็นเครื่องมือในการกำจัดโจทก์กับพวก ในทางการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะร้ายแรง และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคล หรือคณะบุคคลอื่นๆ อีกต่อไป