เรื่องมันเป็นแบบนี้น่ะครับ
เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาผมเดินทางไปเที่ยวที่จ.ภูเก็ต(ผมเป็นคนจ.ตรัง)ได้เกิดอุบัติเหตุขับรถยนต์ชนกับรถมอร์ไซค์ที่จ.ภูเก็ตบริเวณสี่แยกไฟแดงภายในตัวเมือง ชนไปโดยความไม่รู้ครับ(ผมไม่ทราบเลยว่าสี่แยกไฟแดงจังหวัดภูเก็ตนั่นเวลาเขียวมันเขียวสองฝั่งพร้อมกัน) ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ชนแรงเลยครับ คู่กรณีบาดเจ็บทั้งคนขับและคนซ้อนเป็นผู้หญิงทั่งคู่ คนขับเจ็บไม่มากครับ แต่คนซ้อนนั้นค่อนข้างสาหัสเลยเพราะน้องหัวฟาดขอบฟุตบาทหน้าผากเปิดจมูกกับปากก็แหก ประเด็นคำถามของผมอยู่ที่น้องคนซ้อนนีแหล่ะครับ หลังเกิดเหตุเรียกประกันเสร็จเรื่องที่สน.ก็ไปเยี่ยมคนเจ็บเลย เห็นสภาพน้องแล้วรู้สึกผิดมาก ไหว้ขอโทษคนในครอบครัวเค้าสงสารน้องเค้ามาก เยี่ยมเสร็จก็เดินทางกลับตรังเลยส่วนรถก็เอาไปซ่อมร้านที่เคลมกับประกัน ตัวเองนั่งรถทัวร์กลับ แจ้งชื่อบริษัทเลยน่ะครับบริษัททิพยประกันภัย ประกันชั้น1 วงเงินประกันที่อ่านคร่าวๆมาคือไม่เกิน500000บาท กลับมาตรังแล้วก็ยังโทรสอบถามอาการน้องเค้าตลอด จนวันที่น้องเค้าใกล้จะออกจากโรงบาล สอบถามเบื้องต้นค่ารักษา100000กว่าบาท ผมโทรไปที่ตัวแทนประกันเค้าบอกยังดำเนินการยื่นเรื่องเข้าบริษัท น้องเขาก็เลยยืมเงินญาติมาจ่ายก่อน แล้วก็ออกจากโรงบาลมารักษาตัวต่อที่บ้านน้องเค้าทำงานโฮมโปรต้องหยุดงานไปเดือนนึงรักษาตัว ตลอดระยะเวลาที่น้องคนเจ็บอยู่โรงบาลตัวแทนประกันไม่เคยโผล่มาเลยเวลาผ่านไปนัดไกล่เกรี่ยครั้งแรก น้องเค้าเรียกมา400000บาทตัวแทนประกันรับทราบพร้อมกันกับผม ตัวแทนประกันรับเรื่องส่งบริษัท ร้อยเวรลงบันทึกแล้วนัดกันใหม่ ผ่านไปอีกสองเดือนเรื่องไม่คืบหน้าเปลี่ยนตัวแทนมาคุยถึงสามคนตัวน้องเค้าก็โทรตามเรื่องตลอดรวมทั้งผมด้วยตัวแทนก็อ้างว่าบริษัทยังไม่ออกตัวเลขมาให้ทั้งที่ตัวน้องเขาก็ยื่นเอกสารค่ารักษานู้นนี่นั่นใบรับรองรายได้อะไรต่อมิอะไรให้จนครบ นัดไกล่เกลี่ยครั้งที่สองตัวแทนประกันมาแจ้งว่าได้ยอดมา60000โดนด่าสิครับน้องเค้ารักษาไป130000ไปยื่นเรื่องบริษัทใหม่เลยผมเลยคุยกับน้องเค้าด้วยความที่เราเห็นใจกันทั้งคู่น้องเขาก็ลดยอดให้เหลือ250000แล้วจบกันตัวแทนประกันรับทราบผมก็รับทราบวันนั้นช่วยเหลือค่าใช่จ่ายน้องเค้าไป8000บาท(ตัวผมเองก็ไม่ได้ร่ำรวยหาเช้ากินค่ำเหมือนน้องเขา)ร้อยเวรรับรู้ลงบันทึกไว้ให้ เอาผ่านไปอีกสองเดือนนัดไกล่เกลี่ยครั้งที่สามตั้งแต่เกิดเหตุเวลาผ่านมาครึ่งปีแล้วครั้งนี้ได้ตัวเลขมา120000บาท เฮ้อ.....ผมท้อใจกับประกันมากรถทำประกันชั้น1น่ะเว้ยไอ
..(ขออภัยที่หยาบคายน่ะครับมันออกมาจากอารมณ์เลย)ถามน้องเค้าว่ารับได้มั้ยเป็นตัวผมๆก็ไม่รับครับ น้องเค้าเสียโฉม(ก่อนเกิดเหตุน้องเค้าหน้าตาดีครับ)สามีต้องโดนออกจากงานเพราะช่วงรักษาตัวขาดงานมาดูแลภรรยา ลูกสาวตัวเล็กต้องส่งให้ตากับยายเลี้ยงชีวิตเค้าแย่เลยครับหลังจากเกิดอุบัติเหตุ(ที่ผมทราบเพราะตลอดมาตั้งแต่เกิดเหตุผมโทรคุยสอบถามอาการกับน้องเค้าตลอด) พอได้ยินมาว่าประกันจ่ายแค่120000ก็ไม่โอเคสิครับผมเลยเดินไปคุยกับน้องให้น้องลดยอดให้อีกเพราะทั้งผมทั้งน้องเค้าก็อยากจะจบเรื่องนี้ซักทีน้องเค้าจึงลดให้เหลือ200000ถ้วน ผมเลยเอาว่ะเด๋วกูช่วยจ่าย30000บาท(ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากไหนเลย)ให้ยอดมันขึ้นเป็น150000ขยับยอดให้กูหน่อยเถอะจะได้จบซักทีครึ่งปีแล้วน่ะครับตัวแทนก็เริ่มโทรหานู่นนี่นั่นสรุปก็ไม่ได้อะไรยอดก็เช่นเดิมคือ120000 ผมเลยบอกตัวแทนประกันให้ไปยื่นเรื่องใหม่พร้อมกับให้น้องเขาทนรออีกนิดร้อยเวรรับทราบลงบันทึกไว้ แต่น้องเค้าพูดกับผมก่อนกลับว่ารอบหน้าถ้าไม่ได้เงินตามที่เรียกร้องไว้พ่อน้องเค้าจะไม่ยอมแล้วน่ะจะแจ้งความเอาเรื่องฟ้องศาลผมแล้วผมรับทราบแล้วก็แยกย้ายกันกลับ
มาถึงเรื่องที่อยากให้พี่ๆน้องๆทุกท่านช่วยเหลือแล้วครับอยากถามว่า
**ผมต้องทำอย่างไร ต้องเข้าไปคุยกับใคร ต้องไปดำเนินการอย่างไรบ้างครับ
รบกวนจริงๆครับตอนนี้เครียดไม่รู้จะทำยังไงดีช่วยผมทีครับ
ประกันรถยนต์ไม่ยอมจ่ายเงินตามที่ผู้เสียหายเรียกร้อง ผมต้องทำไงดีครับ
เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาผมเดินทางไปเที่ยวที่จ.ภูเก็ต(ผมเป็นคนจ.ตรัง)ได้เกิดอุบัติเหตุขับรถยนต์ชนกับรถมอร์ไซค์ที่จ.ภูเก็ตบริเวณสี่แยกไฟแดงภายในตัวเมือง ชนไปโดยความไม่รู้ครับ(ผมไม่ทราบเลยว่าสี่แยกไฟแดงจังหวัดภูเก็ตนั่นเวลาเขียวมันเขียวสองฝั่งพร้อมกัน) ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ชนแรงเลยครับ คู่กรณีบาดเจ็บทั้งคนขับและคนซ้อนเป็นผู้หญิงทั่งคู่ คนขับเจ็บไม่มากครับ แต่คนซ้อนนั้นค่อนข้างสาหัสเลยเพราะน้องหัวฟาดขอบฟุตบาทหน้าผากเปิดจมูกกับปากก็แหก ประเด็นคำถามของผมอยู่ที่น้องคนซ้อนนีแหล่ะครับ หลังเกิดเหตุเรียกประกันเสร็จเรื่องที่สน.ก็ไปเยี่ยมคนเจ็บเลย เห็นสภาพน้องแล้วรู้สึกผิดมาก ไหว้ขอโทษคนในครอบครัวเค้าสงสารน้องเค้ามาก เยี่ยมเสร็จก็เดินทางกลับตรังเลยส่วนรถก็เอาไปซ่อมร้านที่เคลมกับประกัน ตัวเองนั่งรถทัวร์กลับ แจ้งชื่อบริษัทเลยน่ะครับบริษัททิพยประกันภัย ประกันชั้น1 วงเงินประกันที่อ่านคร่าวๆมาคือไม่เกิน500000บาท กลับมาตรังแล้วก็ยังโทรสอบถามอาการน้องเค้าตลอด จนวันที่น้องเค้าใกล้จะออกจากโรงบาล สอบถามเบื้องต้นค่ารักษา100000กว่าบาท ผมโทรไปที่ตัวแทนประกันเค้าบอกยังดำเนินการยื่นเรื่องเข้าบริษัท น้องเขาก็เลยยืมเงินญาติมาจ่ายก่อน แล้วก็ออกจากโรงบาลมารักษาตัวต่อที่บ้านน้องเค้าทำงานโฮมโปรต้องหยุดงานไปเดือนนึงรักษาตัว ตลอดระยะเวลาที่น้องคนเจ็บอยู่โรงบาลตัวแทนประกันไม่เคยโผล่มาเลยเวลาผ่านไปนัดไกล่เกรี่ยครั้งแรก น้องเค้าเรียกมา400000บาทตัวแทนประกันรับทราบพร้อมกันกับผม ตัวแทนประกันรับเรื่องส่งบริษัท ร้อยเวรลงบันทึกแล้วนัดกันใหม่ ผ่านไปอีกสองเดือนเรื่องไม่คืบหน้าเปลี่ยนตัวแทนมาคุยถึงสามคนตัวน้องเค้าก็โทรตามเรื่องตลอดรวมทั้งผมด้วยตัวแทนก็อ้างว่าบริษัทยังไม่ออกตัวเลขมาให้ทั้งที่ตัวน้องเขาก็ยื่นเอกสารค่ารักษานู้นนี่นั่นใบรับรองรายได้อะไรต่อมิอะไรให้จนครบ นัดไกล่เกลี่ยครั้งที่สองตัวแทนประกันมาแจ้งว่าได้ยอดมา60000โดนด่าสิครับน้องเค้ารักษาไป130000ไปยื่นเรื่องบริษัทใหม่เลยผมเลยคุยกับน้องเค้าด้วยความที่เราเห็นใจกันทั้งคู่น้องเขาก็ลดยอดให้เหลือ250000แล้วจบกันตัวแทนประกันรับทราบผมก็รับทราบวันนั้นช่วยเหลือค่าใช่จ่ายน้องเค้าไป8000บาท(ตัวผมเองก็ไม่ได้ร่ำรวยหาเช้ากินค่ำเหมือนน้องเขา)ร้อยเวรรับรู้ลงบันทึกไว้ให้ เอาผ่านไปอีกสองเดือนนัดไกล่เกลี่ยครั้งที่สามตั้งแต่เกิดเหตุเวลาผ่านมาครึ่งปีแล้วครั้งนี้ได้ตัวเลขมา120000บาท เฮ้อ.....ผมท้อใจกับประกันมากรถทำประกันชั้น1น่ะเว้ยไอ ..(ขออภัยที่หยาบคายน่ะครับมันออกมาจากอารมณ์เลย)ถามน้องเค้าว่ารับได้มั้ยเป็นตัวผมๆก็ไม่รับครับ น้องเค้าเสียโฉม(ก่อนเกิดเหตุน้องเค้าหน้าตาดีครับ)สามีต้องโดนออกจากงานเพราะช่วงรักษาตัวขาดงานมาดูแลภรรยา ลูกสาวตัวเล็กต้องส่งให้ตากับยายเลี้ยงชีวิตเค้าแย่เลยครับหลังจากเกิดอุบัติเหตุ(ที่ผมทราบเพราะตลอดมาตั้งแต่เกิดเหตุผมโทรคุยสอบถามอาการกับน้องเค้าตลอด) พอได้ยินมาว่าประกันจ่ายแค่120000ก็ไม่โอเคสิครับผมเลยเดินไปคุยกับน้องให้น้องลดยอดให้อีกเพราะทั้งผมทั้งน้องเค้าก็อยากจะจบเรื่องนี้ซักทีน้องเค้าจึงลดให้เหลือ200000ถ้วน ผมเลยเอาว่ะเด๋วกูช่วยจ่าย30000บาท(ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากไหนเลย)ให้ยอดมันขึ้นเป็น150000ขยับยอดให้กูหน่อยเถอะจะได้จบซักทีครึ่งปีแล้วน่ะครับตัวแทนก็เริ่มโทรหานู่นนี่นั่นสรุปก็ไม่ได้อะไรยอดก็เช่นเดิมคือ120000 ผมเลยบอกตัวแทนประกันให้ไปยื่นเรื่องใหม่พร้อมกับให้น้องเขาทนรออีกนิดร้อยเวรรับทราบลงบันทึกไว้ แต่น้องเค้าพูดกับผมก่อนกลับว่ารอบหน้าถ้าไม่ได้เงินตามที่เรียกร้องไว้พ่อน้องเค้าจะไม่ยอมแล้วน่ะจะแจ้งความเอาเรื่องฟ้องศาลผมแล้วผมรับทราบแล้วก็แยกย้ายกันกลับ
มาถึงเรื่องที่อยากให้พี่ๆน้องๆทุกท่านช่วยเหลือแล้วครับอยากถามว่า
**ผมต้องทำอย่างไร ต้องเข้าไปคุยกับใคร ต้องไปดำเนินการอย่างไรบ้างครับ
รบกวนจริงๆครับตอนนี้เครียดไม่รู้จะทำยังไงดีช่วยผมทีครับ