เคยกันไหมอยู่ๆเพื่อนที่เคยสนิทกันสมัยมัธยมไม่ได้เจอกัน 10 กว่าปีแอดเฟสเรามาพร้อมขอเบอร์
จากนั้นก็ชวนไปนั่งกินข้าวตามร้านอาหาร ตอนแรกก็รู้สึกดีใจจะได้เจอเพื่อนเก่าที่เคยสนิทกันพอจบมัธยมมา
ก็ไม่ได้เจอกันเลย ยันจบมหาลัย ทำงาน
เริ่มจากนั่งกินข้าวกันถามทุกข์สุขกันทำงานอะไรชีวิตเป็นไงบ้าง จู่ๆผมก็โดนจู่โจมด้วยคำถามนึงว่า
"นายจำได้ไหมสมัยก่อนเราอ้วนมากๆเลยสุขภาพก็ไม่ค่อยดี" ไอเราก็ตอบตามน้ำไปว่า อ่าใช่ๆๆ
"แต่เดี๋ยวนี้เราดีมากเลยเราเลยอยากแนะนำนายมากๆเลย เราใช้สินค้าอาหารเสริมของ Herbalife แถมเป็นตัวแทนด้วยนะ" ถึงจุดนี้เริ่มรู้ชะตากรรมละ
จากนั้นก็เข้าสู่ขบวนการแนะนำเดิมๆที่หลายคนคงเคยเจอโปรโมตสินค้าารรพคุณเวอร์ๆ พร้อมทั้งชวนไปอบรมร่วมให้เป็นสมาชิค
ผมก็เคยเจอมาประมาณ 2-3 รอบจากคนอื่นรอบข้างละ แล้วผมเคยเห็นคนพินาศไปกับ มาคนนึงแล้ว
สินค้าที่เขาแนะนำ(ยัดเยียด)มากก็ก็คือโปรตีนผงกระปุกละพันกว่า ผมก็เลยตอบแบบกึ่งๆเกรงใจไปว่า
"ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากสุขภาพดีนะ แต่เราอยากรู้ว่ามันดีกับร่างกายเรายังไงมันต่างกับอาหาร 5 หมู่ที่เรากินปกติตรงไหนบ้าง"
ผมเองก็เรียนสายวิทย์พอมีความรู้เรื่องโปรตีน ย่อยเป็นอะมิโน แล้วโปรตีนที่ร่างกายต้องการก็หาได้จากอาหารทั่วไป
พอเห็นว่าผมไม่สนใจแน่ๆแล้วเขาก็เลยมาบทประชดประชันตัดพ้อ
"เราขับรถมาตั้งไกล เสียทั้งค่าน้ำมันค่าอาหาร เราไม่นึกเลยนายจะเป็นคนใจแคบไม่รู้จักเปิดใจลองดู วิทยาศาสตร์มันไม่ได้พิสูจได้ทุกอย่างซะหน่อย
เรากินยังรู้สึกได้เลยว่ามันดีขึ้นจริงๆ"
ผมก็ทนรับฟังไปซักพักก็เช็คบิล ค่าอาหารผมเลยอาสาออกเองคนเดียว ถือซะว่าเลี้ยงเพื่อนเก่าไป แต่พอตอนแยกย้ายจากกันผมก็บอกตามมารยาทว่า
"โอเคเราไปก่อนนะไว้วันหลังเจอกันใหม่นะ" แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ
"คงไม่มีวันนั้นแล้วแหละเราคงทนเป็นเพื่อนกับคนใจแคบแบบนายไม่ได้หรอกจากนี้ขอให้เราไม่ต้องเจอกันอีกเลยตลอดไปนะ"
ผมติด Stun ไปหลายวิอยู่ไม่น่าเชื่อ เพื่อนที่เคยสนิทกันมันจะทำตัวเหมือนโดนล้างสมองไปได้แล้วขนาดนี้
อัพเดท วันนี้ 13/4/57 เพื่อนคนดังกล่าวลบผมไปจากเฟสบุ๊คเป็นที่เรียบร้อย แต่แอดเพื่อนในเฟสผมที่คุณเธอรู้จักไป เพื่อนผมคนนั้นมาบอกผมว่าคุณเธอแอดมาชวนไปกินข้าว ..... WTF มุขเดิมเลยเหรอฟ่ะเนี่ย
วันนี้เสียเพื่อนเพราะ Herbalife
จากนั้นก็ชวนไปนั่งกินข้าวตามร้านอาหาร ตอนแรกก็รู้สึกดีใจจะได้เจอเพื่อนเก่าที่เคยสนิทกันพอจบมัธยมมา
ก็ไม่ได้เจอกันเลย ยันจบมหาลัย ทำงาน
เริ่มจากนั่งกินข้าวกันถามทุกข์สุขกันทำงานอะไรชีวิตเป็นไงบ้าง จู่ๆผมก็โดนจู่โจมด้วยคำถามนึงว่า
"นายจำได้ไหมสมัยก่อนเราอ้วนมากๆเลยสุขภาพก็ไม่ค่อยดี" ไอเราก็ตอบตามน้ำไปว่า อ่าใช่ๆๆ
"แต่เดี๋ยวนี้เราดีมากเลยเราเลยอยากแนะนำนายมากๆเลย เราใช้สินค้าอาหารเสริมของ Herbalife แถมเป็นตัวแทนด้วยนะ" ถึงจุดนี้เริ่มรู้ชะตากรรมละ
จากนั้นก็เข้าสู่ขบวนการแนะนำเดิมๆที่หลายคนคงเคยเจอโปรโมตสินค้าารรพคุณเวอร์ๆ พร้อมทั้งชวนไปอบรมร่วมให้เป็นสมาชิค
ผมก็เคยเจอมาประมาณ 2-3 รอบจากคนอื่นรอบข้างละ แล้วผมเคยเห็นคนพินาศไปกับ มาคนนึงแล้ว
สินค้าที่เขาแนะนำ(ยัดเยียด)มากก็ก็คือโปรตีนผงกระปุกละพันกว่า ผมก็เลยตอบแบบกึ่งๆเกรงใจไปว่า
"ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากสุขภาพดีนะ แต่เราอยากรู้ว่ามันดีกับร่างกายเรายังไงมันต่างกับอาหาร 5 หมู่ที่เรากินปกติตรงไหนบ้าง"
ผมเองก็เรียนสายวิทย์พอมีความรู้เรื่องโปรตีน ย่อยเป็นอะมิโน แล้วโปรตีนที่ร่างกายต้องการก็หาได้จากอาหารทั่วไป
พอเห็นว่าผมไม่สนใจแน่ๆแล้วเขาก็เลยมาบทประชดประชันตัดพ้อ
"เราขับรถมาตั้งไกล เสียทั้งค่าน้ำมันค่าอาหาร เราไม่นึกเลยนายจะเป็นคนใจแคบไม่รู้จักเปิดใจลองดู วิทยาศาสตร์มันไม่ได้พิสูจได้ทุกอย่างซะหน่อย
เรากินยังรู้สึกได้เลยว่ามันดีขึ้นจริงๆ"
ผมก็ทนรับฟังไปซักพักก็เช็คบิล ค่าอาหารผมเลยอาสาออกเองคนเดียว ถือซะว่าเลี้ยงเพื่อนเก่าไป แต่พอตอนแยกย้ายจากกันผมก็บอกตามมารยาทว่า
"โอเคเราไปก่อนนะไว้วันหลังเจอกันใหม่นะ" แต่คำตอบที่ผมได้รับคือ
"คงไม่มีวันนั้นแล้วแหละเราคงทนเป็นเพื่อนกับคนใจแคบแบบนายไม่ได้หรอกจากนี้ขอให้เราไม่ต้องเจอกันอีกเลยตลอดไปนะ"
ผมติด Stun ไปหลายวิอยู่ไม่น่าเชื่อ เพื่อนที่เคยสนิทกันมันจะทำตัวเหมือนโดนล้างสมองไปได้แล้วขนาดนี้
อัพเดท วันนี้ 13/4/57 เพื่อนคนดังกล่าวลบผมไปจากเฟสบุ๊คเป็นที่เรียบร้อย แต่แอดเพื่อนในเฟสผมที่คุณเธอรู้จักไป เพื่อนผมคนนั้นมาบอกผมว่าคุณเธอแอดมาชวนไปกินข้าว ..... WTF มุขเดิมเลยเหรอฟ่ะเนี่ย