เลือกหุ้นเข้าพอร์ตก่อนหยุดพักสงกรานต์
ท่ามกลางกระแสความร้อนแรงด้านการเมือง และภาวะเศรษฐกิจขาลง การเลือกลงทุนควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้น ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนในทิศทางขาขึ้น ดัชนีใกล้ระดับ 1400 จุด ซึ่งถือเป็นจุดที่มีความเสี่ยง ที่นักลงทุนอาจต้องผจญกับแรงเทขายทำกำไรในระยะนี้
ทั้งนี้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส ได้แนะนำการลงทุนก่อนหยุดพักเทศกาลสงกรานต์ไว้อย่างน่าสนใจ และถ้าหากจะนำมาพิจารณาเป็นข้อมูล เพื่อใช้ตัดสินใจในการเลือกหุ้นเข้าพอร์ต ก่อนไปพักผ่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย
เขาบอกว่าในช่วงเดือน เม.ย. ของทุก ปี จะเป็นช่วงที่มีเทศกาลวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ 13-15 เม.ย.ของทุกปี จะเป็นวันหยุดต่อเนื่องอย่างน้อย 3 วัน อาจทําให้ความรู้สึกของนักลงทุนไม่ค่อยอยากถือหุ้นข้ามวันหยุดยาว ส่งผลให้การซื้อขายในตลาดน่าจะเงียบเหงา
แต่จากการศึกษากลยุทธ์เชิงปริมาณในช่วง 10 ปีหลังสุด (2547-2556) กลับพบว่า ตลาดหุ้นไทยมักปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นสมํ่าเสมอ ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง 70% หรือเกิดขึ้น 7 ใน 10 ปีหลังสุด ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยราว 2.3% ขณะที่ถ้าซื้อก่อนเทศกาลสงกรานต์ราว 3 สัปดาห์ จะให้ผลตอบแทนที่น้อยกว่า
อย่างไรก็ตามที่น่าสังเกตว่า หลังจากตลาดเปิดทําการเมื่อผ่านพ้นช่วงวันหยุดสงกรานต์ไปแล้ว พบว่า ตลาดก็ยังคงสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ โดยให้ผลตอบแทนสูงสุดในช่วงหลังเปิดทําการสงกรานต์ได้ราว 3 สัปดาห์ ดังนั้นในกรณีที่นักลงทุนขายหุ้นทํากําไรไปตั้งแต่ก่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์ ยังสามารถกลับมาซื้อหุ้นรอบใหม่ได้
โดยให้ซื้อในวันแรกที่ตลาดกลับมาเปิดทําการ และหากถือนาน 3 สัปดาห์หลังจากนั้น น่าจะให้ผลตอบแทนราว 2.3% ด้วยความน่าจะเป็น 80% แต่หากนักลงทุนที่สามารถถือหุ้นยาวตั้งแต่ก่อนสงกรานต์และข้ามยาวเลยช่วงสงกรานต์มาได้ ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน
หากศึกษาเพิ่มเติมรายบริษัทจะพบว่าในรอบ 10 ปีหลังสุด มีหุ้น 104 บริษัทจากทั้งหมด 134 บริษัท ที่ศึกษามักปรับตัวขึ้น หากซื้อหุ้นในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ราว 2 สัปดาห์ และขายในวันสุดท้ายก่อนหยุดเทศกาล จะให้ผลตอบแทนดีที่สุด ซึ่ง SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 2.3% ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง70% ซึ่งหากคัดเลือกเป็นหุ้นที่มีความน่าจะเป็นสูงเท่ากับหรือมากกว่า SET จะมีเพียง 27 หุ้นเท่านั้น
ถ้าพิจารณา เฉพาะหุ้นที่ฝ่ายวิจัยดูแลมาพิจารณาร่วมกับการวิเคราะห์เชิงปริมาณ และประยุกต์กับการ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เพื่อเลือกหุ้นที่น่าสนใจลงทุนที่สุด ได้แก่ หุ้นปตท.(PTT) หากนักลงทุนซื้อก่อนสงกรานต์ 2 สัปดาห์ และขายก่อนวันหยุดยาวจะให้ผลตอบแทนที่ 4.3% แต่หากถือยาวไปจนถึงหลังสงกรานต์ไปอีก 3 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนราว 3.2%
หุ้นปตท.สผ. (PTTEP) หากนักลงทุนซื้อก่อนสงกรานต์ 2 สัปดาห์ และขายก่อนวันหยุดยาวจะให้ผลตอบแทน 4.3% แต่หากถือยาวไปจนถึงหลังสงกรานต์ไปอีก 3 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนราว 4.7%
หุ้นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) หากนักลงทุนซื้อก่อนสงกรานต์ 2 สัปดาห์ และขายก่อนวันหยุดยาวจะให้ผลตอบแทน 4.3% แต่หาก ถือยาวไปจนถึงหลังสงกรานต์ไปอีก 3 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนราว 3.1%
จากข้อมูลดังกล่าว หากผู้อ่านเชื่อว่าสถิติในอดีตบ่งชี้ถึงอนาคต สามารถเลือกช้อปได้ตามใจชอบ แต่ถ้าใครไม่เชื่อ ลองปล่อยเวลาให้ทดสอบอดีตอีกครั้ง แต่อาจจะต้องรู้สึกเสียดายในภายหลัง
Tags : เลือกหุ้นก่อนสงกรานต์ • การลงทุนในตลาดหุ้น
http://bit.ly/PXuTEj 
เลือกหุ้นเข้าพอร์ตก่อนหยุดพักสงกรานต์
ท่ามกลางกระแสความร้อนแรงด้านการเมือง และภาวะเศรษฐกิจขาลง การเลือกลงทุนควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้น ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนในทิศทางขาขึ้น ดัชนีใกล้ระดับ 1400 จุด ซึ่งถือเป็นจุดที่มีความเสี่ยง ที่นักลงทุนอาจต้องผจญกับแรงเทขายทำกำไรในระยะนี้
ทั้งนี้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส ได้แนะนำการลงทุนก่อนหยุดพักเทศกาลสงกรานต์ไว้อย่างน่าสนใจ และถ้าหากจะนำมาพิจารณาเป็นข้อมูล เพื่อใช้ตัดสินใจในการเลือกหุ้นเข้าพอร์ต ก่อนไปพักผ่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย
เขาบอกว่าในช่วงเดือน เม.ย. ของทุก ปี จะเป็นช่วงที่มีเทศกาลวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ 13-15 เม.ย.ของทุกปี จะเป็นวันหยุดต่อเนื่องอย่างน้อย 3 วัน อาจทําให้ความรู้สึกของนักลงทุนไม่ค่อยอยากถือหุ้นข้ามวันหยุดยาว ส่งผลให้การซื้อขายในตลาดน่าจะเงียบเหงา
แต่จากการศึกษากลยุทธ์เชิงปริมาณในช่วง 10 ปีหลังสุด (2547-2556) กลับพบว่า ตลาดหุ้นไทยมักปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นสมํ่าเสมอ ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง 70% หรือเกิดขึ้น 7 ใน 10 ปีหลังสุด ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยราว 2.3% ขณะที่ถ้าซื้อก่อนเทศกาลสงกรานต์ราว 3 สัปดาห์ จะให้ผลตอบแทนที่น้อยกว่า
อย่างไรก็ตามที่น่าสังเกตว่า หลังจากตลาดเปิดทําการเมื่อผ่านพ้นช่วงวันหยุดสงกรานต์ไปแล้ว พบว่า ตลาดก็ยังคงสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ โดยให้ผลตอบแทนสูงสุดในช่วงหลังเปิดทําการสงกรานต์ได้ราว 3 สัปดาห์ ดังนั้นในกรณีที่นักลงทุนขายหุ้นทํากําไรไปตั้งแต่ก่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์ ยังสามารถกลับมาซื้อหุ้นรอบใหม่ได้
โดยให้ซื้อในวันแรกที่ตลาดกลับมาเปิดทําการ และหากถือนาน 3 สัปดาห์หลังจากนั้น น่าจะให้ผลตอบแทนราว 2.3% ด้วยความน่าจะเป็น 80% แต่หากนักลงทุนที่สามารถถือหุ้นยาวตั้งแต่ก่อนสงกรานต์และข้ามยาวเลยช่วงสงกรานต์มาได้ ก็สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน
หากศึกษาเพิ่มเติมรายบริษัทจะพบว่าในรอบ 10 ปีหลังสุด มีหุ้น 104 บริษัทจากทั้งหมด 134 บริษัท ที่ศึกษามักปรับตัวขึ้น หากซื้อหุ้นในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ราว 2 สัปดาห์ และขายในวันสุดท้ายก่อนหยุดเทศกาล จะให้ผลตอบแทนดีที่สุด ซึ่ง SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 2.3% ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง70% ซึ่งหากคัดเลือกเป็นหุ้นที่มีความน่าจะเป็นสูงเท่ากับหรือมากกว่า SET จะมีเพียง 27 หุ้นเท่านั้น
ถ้าพิจารณา เฉพาะหุ้นที่ฝ่ายวิจัยดูแลมาพิจารณาร่วมกับการวิเคราะห์เชิงปริมาณ และประยุกต์กับการ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เพื่อเลือกหุ้นที่น่าสนใจลงทุนที่สุด ได้แก่ หุ้นปตท.(PTT) หากนักลงทุนซื้อก่อนสงกรานต์ 2 สัปดาห์ และขายก่อนวันหยุดยาวจะให้ผลตอบแทนที่ 4.3% แต่หากถือยาวไปจนถึงหลังสงกรานต์ไปอีก 3 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนราว 3.2%
หุ้นปตท.สผ. (PTTEP) หากนักลงทุนซื้อก่อนสงกรานต์ 2 สัปดาห์ และขายก่อนวันหยุดยาวจะให้ผลตอบแทน 4.3% แต่หากถือยาวไปจนถึงหลังสงกรานต์ไปอีก 3 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนราว 4.7%
หุ้นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) หากนักลงทุนซื้อก่อนสงกรานต์ 2 สัปดาห์ และขายก่อนวันหยุดยาวจะให้ผลตอบแทน 4.3% แต่หาก ถือยาวไปจนถึงหลังสงกรานต์ไปอีก 3 สัปดาห์จะให้ผลตอบแทนราว 3.1%
จากข้อมูลดังกล่าว หากผู้อ่านเชื่อว่าสถิติในอดีตบ่งชี้ถึงอนาคต สามารถเลือกช้อปได้ตามใจชอบ แต่ถ้าใครไม่เชื่อ ลองปล่อยเวลาให้ทดสอบอดีตอีกครั้ง แต่อาจจะต้องรู้สึกเสียดายในภายหลัง
Tags : เลือกหุ้นก่อนสงกรานต์ • การลงทุนในตลาดหุ้น
http://bit.ly/PXuTEj