เราสมัครบัตรเครดิตกสิกรไทยไว้ ก็เซ็นเอกสารอะไรไป เซลล์ก็กล่อมให้เราทำหลายใบ เราก็ทำไปเพราะคิดว่าเป็นบัตรเครดิต
วันที่1 เมษายน เราไม่สบายมาก นอนตั้งแต่ค่ำวันที่31 สามทุ่ม จนสามโมงวันที่ 1เมษ.
เราก็ลางานเรียบร้อย แต่ด้วยงานเรา ต้องรับโทรศัพท์ตลอด
เราหลับอยู่ก็มีพนักงานกสิกรโทรมา
เราก็บ่ายเบียง บอกว่าให้โทรมาวันหลังนะ วันนี้เราไม่สบายมาก บอกว่าให้โทรไปที่ออฟฟิตนะ คือ จำได้แค่ลางๆ
แต่พนักงานก็คือบอก หนูขอแค่คำตอบเดียวคะ ว่าต้องการดอกเบี้ย กี่เปอร์เซ็น
เราจำได้ประมาณนั้น (ซึ่งมาคุยทีหลังเลยรู้ว่า มันไม่ใช่) เราไม่สบายมาก เลยบอกว่าขอต่ำสุดล่ะกัน ละก็กดวาง แล้วหลับต่อ แค่นั้นจริงๆ
วันที่ 2 เมษา ก็มียอดเงินโอนมาเข้าบัญชีเงินเดือน เราก็นึกว่าคนโอนผิด เพราะเคยมีเคสคนโอนผิด แต่เขาก็ไปจัดการกันเอง เราไม่เกี่ยว
ถึงตรงนี้เราไม่ได้เอะใจแม้แต่นิดเดียว
พอวันอังคารถัดมา วันที่8เมษา
เราก็กลับมาทำงานมีจดหมายว่า เราเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เท่านั้นและ โอเคเราก็เข้าใจแล้วว่า มีการเข้าใจผิดกัน
เราก็โทรหาคอลเซ็นเตอร์ เพื่อแจ้งว่า มีการเข้าใจผิดกันนะ แต่ว่า คอลเซ็นเตอร์บอกว่า จะรับเรื่องไว้ แล้วให้พนักงานโทรกลับ
วันนี้ 9 เมษา เราโทรไปอีก คือเดือดร้อนใจมากกับความเข้าใจผิดครั้งนี้ แต่คอลเซ็นเตอร์ บอกเขาทำอะไรไม่ได้ นอกจาก รอพนักงงานโทรกลับ
พอดีออฟฟิตเราใกล้สีลม เราก็ขึ้นไปส่วนงาน สินเชื่อส่วนบุคคลเลย ก็มีคนรับเรื่องไว้
พอตะกี้ 4 โมง เซลล์ที่ทำบัตรให้เราก็โทรมา บอกว่า เรายกเลิกไม่ได้น่ะค่ะ เพราะว่า เงินได้โอนมาให้เราเรียบร้อยแล้ว
เราก็บอกพี่คะ วันนั้น หนูไม่สบายมาก มันเป็นการเข้าใจผิดกัน เขาก็ไม่ยอมอย่างเดียว สรุปคือ จะให้เราใช้เงินนี้ให้ได้
เราบอกเราไม่ใช้นะ เราจะรีบไปคืนให้วันนี้ เซลล์ก็บอกได้ แต่รอก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปคุยกับหัวหน้าให้ เรื่องดอกเบี้ย บลาๆ
ถึงตรงนี้ คือเราเข้าใจแล้วคะ ว่าเขาตั้งใจถ่วงเวลา
จนถึงกับด่า+ตะคอกใส่ เซลล์ว่า นี้ธนาคารhereๆ ประเภทไหน จะรีบเอาเงินไปคืนให้ แล้วไม่รับคืนเนี้ย
คือโกรธมากที่สุด ... ใจเย็นไม่ไหวแล้ว เพราะ ฉันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย โอเค ฉันเข้าใจผิด แต่พอฉันแก้ มันกลับเห็นแก่ตัวบล็อกฉันไว้ซ่ะงั้น
เขาก็ยืนยันคำเดิม ให้เรารอคำตอบเขา เราก็บอกเอิ่มๆ แต่พอวางหูปั๊บ เราก็รีบโทรหาคอลเซ็นเตอร์ แจ้งเขาทันที
กลายเป็นว่า ปิดได้เลยคะ แต่โดนค่าปรับ 1% เป็นค่าปรับกรณีปิดบัญชีก่อนกำหนดภายใน 24 เดือน คิดที่ 1% ของวงเงิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(http://www.kasikornbank.com/TH/Personal/Loans/KPersonalCredit/Pages/KPersonalLoan.aspx)
ถึงจุดนี้ๆ งงมากคะ
เราผิดอะไรคะ ที่รีบเอาเงินไปคืนคุณเนี้ยยยยยยยยยยยยยย ธนาคารกสิกร
เราก็ถามคอลเซ็นเตอร์ตรงๆ นะ ว่า พี่คะ หนูเข้าใจผิด หนูเอาเงินพี่มา หนูจ่ายดอกให้ โอเคหนูจ่ายให้ หนูสมควรโดนแล้ว
แต่ค่าปรับ1% ที่หนูต้องโดนเพราะรีบเอาเงินมาคืนธนาคาร ทำไมหนูต้องโดนคะ ทำไมคะ หนูมันเลวมากที่เอาเงินมาคืนพี่เหรอคะ
กสิกรไทยคะ หนูบอกเลยน่ะค่ะ ใครบอกกสิกรไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้ หนูไม่เคยเชื่อคะ
แต่ตอนนี้หนูเชื่อล่ะว่า
ธนาคารกสิกร โคตรหน้าเลือดเลยอ่ะค่ะ คืนช้าก็โดนพี่กดขี่ คืนเร็วพี่ก็ปรับ
คอลเซ็นเตอร์ก็คงจุก เขาก็เลยได้แต่ตอบว่า รีบไปติดต่อปิดธนาคารนะ วันพรุ่งนี้เพราะ ระบบวันนี้ปิดแล้ว ผมส่งเรื่องให้แล้ว มีคำถามอื่นไหมครับ
เราก็บอกไม่มีคะ ขอบคุณคะ
เท่าคำนวณนะ อยู่เฉยๆ เป็นหนี้ ค่าอากร 20บาท ดอกเบี้ย 256 บาท ค่าปรับอีก 400 รวมเป็น 676 บาท ...
จนถึงตอนนี้ เซลล์ที่เคยพูดจาดิบดี พอโทรไปก็ให้คนรับ บ่ายเบี่ยง ... เฮ่อ..
ทุกคน ก็โยนความผิดมาที่เราหมด
เพียงเพราะ เราพูดคำว่า ต่ำสุด และไม่อยากเป็นหนี้ เลยทำให้ต้องเสียเงินไป 676 บาท (และยังไม่รวมเสียเวลา เสียความรู้สึกอีก เอิ่ม.. สุดยอดเลย
เรื่องที่โกรธ ธนาคารนะ มี3เรื่อง
1. ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย แกเอาคำว่าต่ำสุดฉัน ไปตีความว่าฉันตกลงซ่ะงั้น
2. คอลเซ้นเตอร์คนแรก คนที่สองรู้เรื่องทั้งหมด แต่ไม่ช่วยเหลือ ให้เรารอจนท.ติดต่อกลับอย่างเดียว แทนที่จะแนะนำให้เราไปปิดบัญชีเหมือนคนที่สาม
3. ทำไมเราต้องจ่ายค่าปรับด้วยเนี้ย ..
และ4. ซึ่งเข้าใจว่า มันอาจจะเป็นนิสัยแย่ๆ ของเซลล์ จนปกติล่ะ ที่ไม่มีความจริงใจต่อลูกค้าเลย ... เฮ่อ
ขอเพิ่ม เพราะคนเข้าใจผิดเยอะ ว่าเราสักแต่ต่อว่า แต่ที่เราต่อว่า เพราะเราล้วนแต่เจอพนักงานปัดความรับผิดชอบทั้งนั้น
เราลืมเล่า ข้ามไป ก่อนหน้าเราจะรู้เรื่องนี้ เราก็ฝ่าด่านเยอะมากน่ะค่ะ
1.คอลเซ็นเตอร์ 2 คน ให้รอพนักงานติดต่อกลับ ใจเย็นมาก นับถือเลย อาจเพราะไม่ได้เดือนร้อนอะไร ชิวชิว
2.พนง.แบงค์ ไม่เข้าใจเคส บอกให้เราไปถามฝ่ายสินเชื่อ
3.ฝ่ายสินเชื่อ รับเรื่อง และให้เรากลับไป
4.เซลล์ขายเงิน บอกจะคุยกับหัวหน้า อย่าพึ่งโทรหาคอลเซ็นเตอร์
นี้โทรหาตอนห้าโมง คนอื่นรับ เขาไม่คุยกับเรา ให้คนอื่นบอกจะโทรกลับ .. ใจเย็นมาก
คนที่น่าชื่นชม คงเป็น คอลเซ็นเตอร์ตอนบ่าย ที่โดนเราบ่น ว่าทำไมต้องเสียค่าปรับด้วยฟ่ะ
และไปถอดเทปได้เลยคะ เรารู้ว่า คนอื่นนะ ใช้ข้ออ้างไม่สบายมาเยอะ แต่วันนั้น เราไม่สบายหนักมาก
เราไล่พนักงานให้โทรกลับมาวันหลังแน่ๆ เราจำได้ เพราะเราไม่มีเสียง แทบตะโกน แต่เสียงก็ออกมาเบา
จนนางไม่ยอม จะเค้นเอาคำตอบจากเราให้ได้ เราก็บอกให้โทรไปหาเพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิต ตัดสินใจแทนเราไปเลย
แต่พนักงานก็ไม่ยอม ขอแค่คำตอบเดียวคะ บลาๆ
เราอ่ะ ไม่สบายหนักขนาดนั้น เราก็ฝืนใจยังมีมารยาทพอที่จะไม่วางหูนะ .. เพราะเรารู้ว่า เขาก็ทำงานของเขา
เราไม่เคยรังเกียจพวกเซลล์ทางโทรศัพท์ของธนาคารน่ะค่ะ เราบอกเลย ไม่ใช่อคติส่วนตัว
ที่เราขอตำหนิ เพราะเหตุผล 3 ข้อ แต่เราก็จ่ายดอกเบี้ย ค่าปรับให้
เพราะเรารู้ว่าความเข้าใจผิดมันเกิดขึ้นได้
แต่ยอมรับคะ ว่า
ต้องขอต่อว่า ธนาคารกสิกรไทยหน่อย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้เข้าใจได้จริงๆ ว่า ช่าง หน้าเลือด และ ใจดำมากจริงๆ
อัพเดทล่าสุด 10 เมษายน เราตั้งใจไปปิดบัญชี จ่ายดอกกับค่าปรับไป
แต่ว่าพนักงานแบงค์บอกว่าคีย์ไม่เจอ พออัพเดทสมุด เงินโดนดึงคืนกลับไปแล้วคะ
และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครโทรหาเรานะ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงไม่โดนดอกเบี้ยและค่าปรับ
รอว่างแล้วเดี๋ยวโทรหาคอลเซ็นเตอร์อีกทีว่าต้องทำอะไรไหม
ขอบคุณมากนะ ที่แนะนำ เรื่องเซ็นไม่ดูให้ จริงๆ เราก็ไม่ใช่คนติ๊งต๊องขนาดนั้นอ่ะน่ะ
เรื่องแบบนี้เราก็เคยอ่านมาก่อน ว่าธนาคารชอบสอดไส้
จริงๆ เราก็เป็นคนขี้กลัวโดนหลอก + เราเองก็อยากนั่งกรอกเองเหมือนกันแหละ
แต่พอเซลล์บอก เซ็นตรงนี้ และบอกว่าจะช่วยเรากรอกงี้ เราก็เชื่อใจเขาอ่ะน่ะ .... แถมยังให้เบอร์เขากับลูกค้าคนอื่นๆด้วยซ้ำ
พลาดไปเพราะเชื่อใจคนอื่นมากกว่าตัวเองล้วนๆ
เราก็ผิดน่ะ เรายอมรับ เราถึงไปเสียดอกเบี้ยกับค่าปรับให้
แต่ที่โกรธคือบอกไปแล้ว ว่าทุกคนต่างปัดความรับผิดชอบกันไปกันมา และเจ็บใจตรงที่ว่า พอเรารีบไปคืนเงิน ยังมาปรับเราอีก
แต่ตอนนี้เราไม่ติดใจอะไร เพราะว่าไม่โดนดอกเบี้ย และ ค่าปรับ
เราก็ทราบดีคะ ธนาคารเขาทำธุรกิจ ไม่ใช่องค์กรการกุศล แต่ก็นะ แหม่
พึ่งเข้าใจว่า ธนาคารกสิกรไทยหน้าเลือดได้ขนาดนี้
วันที่1 เมษายน เราไม่สบายมาก นอนตั้งแต่ค่ำวันที่31 สามทุ่ม จนสามโมงวันที่ 1เมษ.
เราก็ลางานเรียบร้อย แต่ด้วยงานเรา ต้องรับโทรศัพท์ตลอด
เราหลับอยู่ก็มีพนักงานกสิกรโทรมา
เราก็บ่ายเบียง บอกว่าให้โทรมาวันหลังนะ วันนี้เราไม่สบายมาก บอกว่าให้โทรไปที่ออฟฟิตนะ คือ จำได้แค่ลางๆ
แต่พนักงานก็คือบอก หนูขอแค่คำตอบเดียวคะ ว่าต้องการดอกเบี้ย กี่เปอร์เซ็น
เราจำได้ประมาณนั้น (ซึ่งมาคุยทีหลังเลยรู้ว่า มันไม่ใช่) เราไม่สบายมาก เลยบอกว่าขอต่ำสุดล่ะกัน ละก็กดวาง แล้วหลับต่อ แค่นั้นจริงๆ
วันที่ 2 เมษา ก็มียอดเงินโอนมาเข้าบัญชีเงินเดือน เราก็นึกว่าคนโอนผิด เพราะเคยมีเคสคนโอนผิด แต่เขาก็ไปจัดการกันเอง เราไม่เกี่ยว
ถึงตรงนี้เราไม่ได้เอะใจแม้แต่นิดเดียว
พอวันอังคารถัดมา วันที่8เมษา เราก็กลับมาทำงานมีจดหมายว่า เราเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เท่านั้นและ โอเคเราก็เข้าใจแล้วว่า มีการเข้าใจผิดกัน
เราก็โทรหาคอลเซ็นเตอร์ เพื่อแจ้งว่า มีการเข้าใจผิดกันนะ แต่ว่า คอลเซ็นเตอร์บอกว่า จะรับเรื่องไว้ แล้วให้พนักงานโทรกลับ
วันนี้ 9 เมษา เราโทรไปอีก คือเดือดร้อนใจมากกับความเข้าใจผิดครั้งนี้ แต่คอลเซ็นเตอร์ บอกเขาทำอะไรไม่ได้ นอกจาก รอพนักงงานโทรกลับ
พอดีออฟฟิตเราใกล้สีลม เราก็ขึ้นไปส่วนงาน สินเชื่อส่วนบุคคลเลย ก็มีคนรับเรื่องไว้
พอตะกี้ 4 โมง เซลล์ที่ทำบัตรให้เราก็โทรมา บอกว่า เรายกเลิกไม่ได้น่ะค่ะ เพราะว่า เงินได้โอนมาให้เราเรียบร้อยแล้ว
เราก็บอกพี่คะ วันนั้น หนูไม่สบายมาก มันเป็นการเข้าใจผิดกัน เขาก็ไม่ยอมอย่างเดียว สรุปคือ จะให้เราใช้เงินนี้ให้ได้
เราบอกเราไม่ใช้นะ เราจะรีบไปคืนให้วันนี้ เซลล์ก็บอกได้ แต่รอก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปคุยกับหัวหน้าให้ เรื่องดอกเบี้ย บลาๆ
ถึงตรงนี้ คือเราเข้าใจแล้วคะ ว่าเขาตั้งใจถ่วงเวลา จนถึงกับด่า+ตะคอกใส่ เซลล์ว่า นี้ธนาคารhereๆ ประเภทไหน จะรีบเอาเงินไปคืนให้ แล้วไม่รับคืนเนี้ย
คือโกรธมากที่สุด ... ใจเย็นไม่ไหวแล้ว เพราะ ฉันไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย โอเค ฉันเข้าใจผิด แต่พอฉันแก้ มันกลับเห็นแก่ตัวบล็อกฉันไว้ซ่ะงั้น
เขาก็ยืนยันคำเดิม ให้เรารอคำตอบเขา เราก็บอกเอิ่มๆ แต่พอวางหูปั๊บ เราก็รีบโทรหาคอลเซ็นเตอร์ แจ้งเขาทันที
กลายเป็นว่า ปิดได้เลยคะ แต่โดนค่าปรับ 1% เป็นค่าปรับกรณีปิดบัญชีก่อนกำหนดภายใน 24 เดือน คิดที่ 1% ของวงเงิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึงจุดนี้ๆ งงมากคะ เราผิดอะไรคะ ที่รีบเอาเงินไปคืนคุณเนี้ยยยยยยยยยยยยยย ธนาคารกสิกร
เราก็ถามคอลเซ็นเตอร์ตรงๆ นะ ว่า พี่คะ หนูเข้าใจผิด หนูเอาเงินพี่มา หนูจ่ายดอกให้ โอเคหนูจ่ายให้ หนูสมควรโดนแล้ว
แต่ค่าปรับ1% ที่หนูต้องโดนเพราะรีบเอาเงินมาคืนธนาคาร ทำไมหนูต้องโดนคะ ทำไมคะ หนูมันเลวมากที่เอาเงินมาคืนพี่เหรอคะ
กสิกรไทยคะ หนูบอกเลยน่ะค่ะ ใครบอกกสิกรไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้ หนูไม่เคยเชื่อคะ
แต่ตอนนี้หนูเชื่อล่ะว่า ธนาคารกสิกร โคตรหน้าเลือดเลยอ่ะค่ะ คืนช้าก็โดนพี่กดขี่ คืนเร็วพี่ก็ปรับ
คอลเซ็นเตอร์ก็คงจุก เขาก็เลยได้แต่ตอบว่า รีบไปติดต่อปิดธนาคารนะ วันพรุ่งนี้เพราะ ระบบวันนี้ปิดแล้ว ผมส่งเรื่องให้แล้ว มีคำถามอื่นไหมครับ
เราก็บอกไม่มีคะ ขอบคุณคะ
เท่าคำนวณนะ อยู่เฉยๆ เป็นหนี้ ค่าอากร 20บาท ดอกเบี้ย 256 บาท ค่าปรับอีก 400 รวมเป็น 676 บาท ...
จนถึงตอนนี้ เซลล์ที่เคยพูดจาดิบดี พอโทรไปก็ให้คนรับ บ่ายเบี่ยง ... เฮ่อ..
ทุกคน ก็โยนความผิดมาที่เราหมด เพียงเพราะ เราพูดคำว่า ต่ำสุด และไม่อยากเป็นหนี้ เลยทำให้ต้องเสียเงินไป 676 บาท (และยังไม่รวมเสียเวลา เสียความรู้สึกอีก เอิ่ม.. สุดยอดเลย
เรื่องที่โกรธ ธนาคารนะ มี3เรื่อง
1. ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย แกเอาคำว่าต่ำสุดฉัน ไปตีความว่าฉันตกลงซ่ะงั้น
2. คอลเซ้นเตอร์คนแรก คนที่สองรู้เรื่องทั้งหมด แต่ไม่ช่วยเหลือ ให้เรารอจนท.ติดต่อกลับอย่างเดียว แทนที่จะแนะนำให้เราไปปิดบัญชีเหมือนคนที่สาม
3. ทำไมเราต้องจ่ายค่าปรับด้วยเนี้ย ..
และ4. ซึ่งเข้าใจว่า มันอาจจะเป็นนิสัยแย่ๆ ของเซลล์ จนปกติล่ะ ที่ไม่มีความจริงใจต่อลูกค้าเลย ... เฮ่อ
ขอเพิ่ม เพราะคนเข้าใจผิดเยอะ ว่าเราสักแต่ต่อว่า แต่ที่เราต่อว่า เพราะเราล้วนแต่เจอพนักงานปัดความรับผิดชอบทั้งนั้น
เราลืมเล่า ข้ามไป ก่อนหน้าเราจะรู้เรื่องนี้ เราก็ฝ่าด่านเยอะมากน่ะค่ะ
1.คอลเซ็นเตอร์ 2 คน ให้รอพนักงานติดต่อกลับ ใจเย็นมาก นับถือเลย อาจเพราะไม่ได้เดือนร้อนอะไร ชิวชิว
2.พนง.แบงค์ ไม่เข้าใจเคส บอกให้เราไปถามฝ่ายสินเชื่อ
3.ฝ่ายสินเชื่อ รับเรื่อง และให้เรากลับไป
4.เซลล์ขายเงิน บอกจะคุยกับหัวหน้า อย่าพึ่งโทรหาคอลเซ็นเตอร์
นี้โทรหาตอนห้าโมง คนอื่นรับ เขาไม่คุยกับเรา ให้คนอื่นบอกจะโทรกลับ .. ใจเย็นมาก
คนที่น่าชื่นชม คงเป็น คอลเซ็นเตอร์ตอนบ่าย ที่โดนเราบ่น ว่าทำไมต้องเสียค่าปรับด้วยฟ่ะ
และไปถอดเทปได้เลยคะ เรารู้ว่า คนอื่นนะ ใช้ข้ออ้างไม่สบายมาเยอะ แต่วันนั้น เราไม่สบายหนักมาก
เราไล่พนักงานให้โทรกลับมาวันหลังแน่ๆ เราจำได้ เพราะเราไม่มีเสียง แทบตะโกน แต่เสียงก็ออกมาเบา
จนนางไม่ยอม จะเค้นเอาคำตอบจากเราให้ได้ เราก็บอกให้โทรไปหาเพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิต ตัดสินใจแทนเราไปเลย
แต่พนักงานก็ไม่ยอม ขอแค่คำตอบเดียวคะ บลาๆ
เราอ่ะ ไม่สบายหนักขนาดนั้น เราก็ฝืนใจยังมีมารยาทพอที่จะไม่วางหูนะ .. เพราะเรารู้ว่า เขาก็ทำงานของเขา
เราไม่เคยรังเกียจพวกเซลล์ทางโทรศัพท์ของธนาคารน่ะค่ะ เราบอกเลย ไม่ใช่อคติส่วนตัว
ที่เราขอตำหนิ เพราะเหตุผล 3 ข้อ แต่เราก็จ่ายดอกเบี้ย ค่าปรับให้ เพราะเรารู้ว่าความเข้าใจผิดมันเกิดขึ้นได้
แต่ยอมรับคะ ว่า ต้องขอต่อว่า ธนาคารกสิกรไทยหน่อย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้เข้าใจได้จริงๆ ว่า ช่าง หน้าเลือด และ ใจดำมากจริงๆ
อัพเดทล่าสุด 10 เมษายน เราตั้งใจไปปิดบัญชี จ่ายดอกกับค่าปรับไป
แต่ว่าพนักงานแบงค์บอกว่าคีย์ไม่เจอ พออัพเดทสมุด เงินโดนดึงคืนกลับไปแล้วคะ
และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครโทรหาเรานะ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงไม่โดนดอกเบี้ยและค่าปรับ
รอว่างแล้วเดี๋ยวโทรหาคอลเซ็นเตอร์อีกทีว่าต้องทำอะไรไหม
ขอบคุณมากนะ ที่แนะนำ เรื่องเซ็นไม่ดูให้ จริงๆ เราก็ไม่ใช่คนติ๊งต๊องขนาดนั้นอ่ะน่ะ
เรื่องแบบนี้เราก็เคยอ่านมาก่อน ว่าธนาคารชอบสอดไส้
จริงๆ เราก็เป็นคนขี้กลัวโดนหลอก + เราเองก็อยากนั่งกรอกเองเหมือนกันแหละ
แต่พอเซลล์บอก เซ็นตรงนี้ และบอกว่าจะช่วยเรากรอกงี้ เราก็เชื่อใจเขาอ่ะน่ะ .... แถมยังให้เบอร์เขากับลูกค้าคนอื่นๆด้วยซ้ำ
พลาดไปเพราะเชื่อใจคนอื่นมากกว่าตัวเองล้วนๆ
เราก็ผิดน่ะ เรายอมรับ เราถึงไปเสียดอกเบี้ยกับค่าปรับให้
แต่ที่โกรธคือบอกไปแล้ว ว่าทุกคนต่างปัดความรับผิดชอบกันไปกันมา และเจ็บใจตรงที่ว่า พอเรารีบไปคืนเงิน ยังมาปรับเราอีก
แต่ตอนนี้เราไม่ติดใจอะไร เพราะว่าไม่โดนดอกเบี้ย และ ค่าปรับ
เราก็ทราบดีคะ ธนาคารเขาทำธุรกิจ ไม่ใช่องค์กรการกุศล แต่ก็นะ แหม่