กีฬาเกือบทุกชนิดสามารถใช้ประโยชน์จากHeart rate monitor(HRM) ทั้งในการtraining ซึ่งจะทำให้ทราบถึงระดับความหนักในการฝึกซ้อม การสร้างแรงจูงใจที่ดี เมื่อเราสามารถประเมินการ และปรับแต่งการฝึกนั้น อย่างถูกต้อง สำหรับมือสมัครเล่นหรือมือใหม่ จะทำให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นๆ สำหรับมืออาชีพ หรือ ระดับแข่งขัน จะเป็นผู้ช่วยที่คอยควบคุมไม่ให้การฝึกซ้อมนั้นเกินระดับที่มันควรจะเป็น รวมถึง ในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งจะมีสภาวะต่างๆที่มาเกี่ยวข้องมากมาย เช่น สภาพอากาศ อารมณ์ การใช้HMR จะทำให้นักกีฬาประเมินสถานการณ์ ปรับกลยุทธ์ เพื่อให้ชนะ หรืออย่างน้อยก็ประคองตัวเองจนจบการแข่งขันนั้นได้
HRM เปรียบเสมือนโค้ชอิเลคโทรนิค ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องในอนาคตแต่ตอนนี้เราสามารถเรียกหามาใช้กันได้แล้ว การฝึกซ้อมจะมีเรื่อง ระยะทาง เวลา งานที่ร่างกายเราต้องทำ เราอยากรู้ไหมครับว่า ร่างกายมันต้องออกแรงแค่ไหน เราขาดน้ำหรือไม่ เราจะต้องพักนานเท่าไหร่ สิ่งต่างๆเหล่านี้สามารถตรวจวัดได้จาก สัญญานชีพ อันหนึ่ง คือ อัตราการเต้นของชีพจร นี่เองครับ และถ้าเราเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้ว มันจะบอกได้ทั้งปริมาณ และคุณภาพในการฝึกหรือการแข่งขันนั้นๆ
มันทำงานอย่างไร
HMR รุ่นใหม่ๆที่พวกเราใช้กันนี่แหละครับของดี ราคาไม่แพงเลยถ้าจะเทียบกับคุณค่าของมัน ความแม่นยำเคยมีการทดสอบแล้วเมื่อนำมาเทียบกับเครื่องมาตรฐานที่ใช้ในห้องปฏิบัติการหรือในการแพทย์ พบว่ามีความผิดพลาดหรือเพี้ยนต่ำมาก แต่เนื่องจากการฝึกซ้อม หรือการแข่งขัน ไม่เพียงแต่งานที่ร่างกายเราต้องทำ หัวใจ ปอด เลือด ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่างที่จะเข้ามามีผลต่อ การเต้นของหัวใจ เช่น ชนิดของกีฬาที่เล่น สิ่งแวดล้อมต่างๆ เรามาเรียนรู้ธรรมชาติของมันกันดีกว่าครับ
หัวใจ คือก้อนกล้ามเนื้อก้อนหนึ่ง มันคือกล้ามเนื้อครับ มันมีหน้าที่สูบและฉีดเอาเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ในขณะเดียวกัน มัน ต้องดูแลตัวมันเองด้วยด้วยเลือดที่มันบีบนี่แหละ เนื่องจากมันเป็นกล้ามเนื้อ ดังนั้นถ้ามันได้รับการออกกำลังบ้างมันก็เหมือนกล้ามเนื้ออื่นๆ คือ จะมีขนาดใหญ่ขึ้น หดและคลายตัวได้ดีขึ้น และสิ่งที่ตามมาก็คือ ความฟิตยังไงล่ะครับ จากที่กล่าวมาว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อการเต้นของหัวใจ การจะนำ อัตราการเต้นของหัวใจมาใช้เราต้องทราบเสียก่อนว่ามีอะไรบ้าง จะได้ ปรับ แก้ บวก ลบ ค่าต่างๆให้ถูกต้องและแม่นยำที่สุด
1 ชีพจรขณะพัก (resting heart rate)
หัวใจของเราจะเต้นตลอดเวลา ค่าน้อยที่สุดคือการเต้นขณะพัก โดยการสั่งงานจากสมองผ่านระบบประสาทอัตโนมัติที่เราเรียกว่า Parasympathetic การออกกำลังที่สม่ำเสมอ จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทนี่ส่วนส่วนนี้ รวมถึงผลมาจากการที่หัวใจบีบตัวได้แรงขึ้น(stroke volumn) จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักช้าลงเรื่อยๆ นักกีฬาที่เน้นการฝึกแบบความทนทาน อาจจะมีอัตราการเต้นที่ระดับ30-50ครั้ง ต่อนาที(ปีที่แล้วใน TDF Lance มีอัตราการเต้นหัวใจขณะพักประมาณ 31-32 ครั้งต่อนาที ) หรือจะกล่าวได้ว่า Endurance มีความสัมพันธ์ โดยตรงกับ Resting heart rate แต่พบว่ามันยังมีปัจจัยอื่นที่มามีผลต่อResting heart rate เช่น
1 อายุ อายุยิ่งมากขึ้น ตั้งแต่20ปี ขึ้นไป มันจะช้าลงประมาณปีละ 1 ตุ้บ ต่อนาที เพราะว่า คลื่นไฟฟ้าจากหัวใจที่มีแหล่งกำเนิดที่หัวใจห้องบน(SA node) จะส่งคลื่นไฟฟ้ามากระตุ้นให้หัวใจห้องล่างบีบตัวได้ไม่หมด
2 ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันกลุ่ม Beta blocker เช่น propanolol ทำให้ชีพจรช้าลง พวกนี้จัดเป็นสารต้องห้ามสำหรับกีฬาบางประเภท เช่น ยิงปืน บางทีก็นำมาใช้ระงับความตื่นเต้น เช่น ต้องไปพูดในที่สาธารณะ นี่ทานซัก ครึ่ง ชม ก่อนพูด จะนิ่งสนิทเลย
3อารมณ์ ความหงุดหงิด ข้อนี้ไม่ต้องอธิบาย เพิ่มขึ้นแน่นอน
4 สารกระตุ้นต่างๆ คาเฟอิน นิโคติน ทำให้เร็วขึ้น
ดังนั้นการจะนำresting heart rate มาประเมิน จะต้องพิจรณาปัจจัยเหล่านี้ รวมถึงการวัดด้วยครับว่า วัดได้อย่างถูกต้องหรือไม่ วิธีที่ดีที่สุด คือ วัดหลังจากตื่นนอนตอนเช้าหลังคืนที่หลับสนิท หลังตื่นนอนให้อยู่ในท่าที่นิ่งๆเช่นนั่ง หรือนอน ประมาณ5นาที และต้องวัดที่ท่าเดียวตลอด ไม่ใช่เมื่อวานนั่งวัด วันนี้ นอนวัด และถ้าจะให้ได้ค่าที่แน่นอนที่สุดให้วัด5-7ครั้ง และนำมาเฉลี่ย
ค่าที่ได้นี้สามารถนำมาประเมินสภาวะต่างๆเหล่านี้ได้คือ
1 ความฟิต
2 ภาวะที่ซ้อมหนักเกินไป , การขาดน้ำ, พักผ่อนไม่พอ , ขาดสารอาหาร หรือ
สรุปว่า resting heart rate มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ endurance แต่ราไม่สามารถนำมาประเมิน aerobic fitnessได้ เรื่องยังมีอีกยาวไว้ติดตามกันต่อไปครับ
credit: 100 rpm Classroom by เป้ มหาชัย
ที่มา
thairoadbike.com/index.php?topic=1124.0
ต่อไปเป็นช่วงบริหารสายตาครับ
ภาพยังมีอีกเยอะนะครับแต่โพสต์ไม่ไหว ตามไปดูต่อได้ที่
fb.com/thairoadbike.community
ปล.เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าทุกท่านเข้ามาชมแต่ภาพจักรยาน ขอถามว่ารถจักรยานในภาพแรกสีอะไร ถ้าท่านตอบได้โดยไม่ต้องเลื่อนขึ้นไปดูใหม่อีกรอบ แสดงว่าท่านดูแต่เฉพาะรูปจักรยานจริงๆ
Heart rate monitor and Training [and eyes exercise]
กีฬาเกือบทุกชนิดสามารถใช้ประโยชน์จากHeart rate monitor(HRM) ทั้งในการtraining ซึ่งจะทำให้ทราบถึงระดับความหนักในการฝึกซ้อม การสร้างแรงจูงใจที่ดี เมื่อเราสามารถประเมินการ และปรับแต่งการฝึกนั้น อย่างถูกต้อง สำหรับมือสมัครเล่นหรือมือใหม่ จะทำให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นๆ สำหรับมืออาชีพ หรือ ระดับแข่งขัน จะเป็นผู้ช่วยที่คอยควบคุมไม่ให้การฝึกซ้อมนั้นเกินระดับที่มันควรจะเป็น รวมถึง ในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งจะมีสภาวะต่างๆที่มาเกี่ยวข้องมากมาย เช่น สภาพอากาศ อารมณ์ การใช้HMR จะทำให้นักกีฬาประเมินสถานการณ์ ปรับกลยุทธ์ เพื่อให้ชนะ หรืออย่างน้อยก็ประคองตัวเองจนจบการแข่งขันนั้นได้
HRM เปรียบเสมือนโค้ชอิเลคโทรนิค ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องในอนาคตแต่ตอนนี้เราสามารถเรียกหามาใช้กันได้แล้ว การฝึกซ้อมจะมีเรื่อง ระยะทาง เวลา งานที่ร่างกายเราต้องทำ เราอยากรู้ไหมครับว่า ร่างกายมันต้องออกแรงแค่ไหน เราขาดน้ำหรือไม่ เราจะต้องพักนานเท่าไหร่ สิ่งต่างๆเหล่านี้สามารถตรวจวัดได้จาก สัญญานชีพ อันหนึ่ง คือ อัตราการเต้นของชีพจร นี่เองครับ และถ้าเราเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้ว มันจะบอกได้ทั้งปริมาณ และคุณภาพในการฝึกหรือการแข่งขันนั้นๆ
มันทำงานอย่างไร
HMR รุ่นใหม่ๆที่พวกเราใช้กันนี่แหละครับของดี ราคาไม่แพงเลยถ้าจะเทียบกับคุณค่าของมัน ความแม่นยำเคยมีการทดสอบแล้วเมื่อนำมาเทียบกับเครื่องมาตรฐานที่ใช้ในห้องปฏิบัติการหรือในการแพทย์ พบว่ามีความผิดพลาดหรือเพี้ยนต่ำมาก แต่เนื่องจากการฝึกซ้อม หรือการแข่งขัน ไม่เพียงแต่งานที่ร่างกายเราต้องทำ หัวใจ ปอด เลือด ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่างที่จะเข้ามามีผลต่อ การเต้นของหัวใจ เช่น ชนิดของกีฬาที่เล่น สิ่งแวดล้อมต่างๆ เรามาเรียนรู้ธรรมชาติของมันกันดีกว่าครับ
หัวใจ คือก้อนกล้ามเนื้อก้อนหนึ่ง มันคือกล้ามเนื้อครับ มันมีหน้าที่สูบและฉีดเอาเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ในขณะเดียวกัน มัน ต้องดูแลตัวมันเองด้วยด้วยเลือดที่มันบีบนี่แหละ เนื่องจากมันเป็นกล้ามเนื้อ ดังนั้นถ้ามันได้รับการออกกำลังบ้างมันก็เหมือนกล้ามเนื้ออื่นๆ คือ จะมีขนาดใหญ่ขึ้น หดและคลายตัวได้ดีขึ้น และสิ่งที่ตามมาก็คือ ความฟิตยังไงล่ะครับ จากที่กล่าวมาว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อการเต้นของหัวใจ การจะนำ อัตราการเต้นของหัวใจมาใช้เราต้องทราบเสียก่อนว่ามีอะไรบ้าง จะได้ ปรับ แก้ บวก ลบ ค่าต่างๆให้ถูกต้องและแม่นยำที่สุด
1 ชีพจรขณะพัก (resting heart rate)
หัวใจของเราจะเต้นตลอดเวลา ค่าน้อยที่สุดคือการเต้นขณะพัก โดยการสั่งงานจากสมองผ่านระบบประสาทอัตโนมัติที่เราเรียกว่า Parasympathetic การออกกำลังที่สม่ำเสมอ จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทนี่ส่วนส่วนนี้ รวมถึงผลมาจากการที่หัวใจบีบตัวได้แรงขึ้น(stroke volumn) จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักช้าลงเรื่อยๆ นักกีฬาที่เน้นการฝึกแบบความทนทาน อาจจะมีอัตราการเต้นที่ระดับ30-50ครั้ง ต่อนาที(ปีที่แล้วใน TDF Lance มีอัตราการเต้นหัวใจขณะพักประมาณ 31-32 ครั้งต่อนาที ) หรือจะกล่าวได้ว่า Endurance มีความสัมพันธ์ โดยตรงกับ Resting heart rate แต่พบว่ามันยังมีปัจจัยอื่นที่มามีผลต่อResting heart rate เช่น
1 อายุ อายุยิ่งมากขึ้น ตั้งแต่20ปี ขึ้นไป มันจะช้าลงประมาณปีละ 1 ตุ้บ ต่อนาที เพราะว่า คลื่นไฟฟ้าจากหัวใจที่มีแหล่งกำเนิดที่หัวใจห้องบน(SA node) จะส่งคลื่นไฟฟ้ามากระตุ้นให้หัวใจห้องล่างบีบตัวได้ไม่หมด
2 ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันกลุ่ม Beta blocker เช่น propanolol ทำให้ชีพจรช้าลง พวกนี้จัดเป็นสารต้องห้ามสำหรับกีฬาบางประเภท เช่น ยิงปืน บางทีก็นำมาใช้ระงับความตื่นเต้น เช่น ต้องไปพูดในที่สาธารณะ นี่ทานซัก ครึ่ง ชม ก่อนพูด จะนิ่งสนิทเลย
3อารมณ์ ความหงุดหงิด ข้อนี้ไม่ต้องอธิบาย เพิ่มขึ้นแน่นอน
4 สารกระตุ้นต่างๆ คาเฟอิน นิโคติน ทำให้เร็วขึ้น
ดังนั้นการจะนำresting heart rate มาประเมิน จะต้องพิจรณาปัจจัยเหล่านี้ รวมถึงการวัดด้วยครับว่า วัดได้อย่างถูกต้องหรือไม่ วิธีที่ดีที่สุด คือ วัดหลังจากตื่นนอนตอนเช้าหลังคืนที่หลับสนิท หลังตื่นนอนให้อยู่ในท่าที่นิ่งๆเช่นนั่ง หรือนอน ประมาณ5นาที และต้องวัดที่ท่าเดียวตลอด ไม่ใช่เมื่อวานนั่งวัด วันนี้ นอนวัด และถ้าจะให้ได้ค่าที่แน่นอนที่สุดให้วัด5-7ครั้ง และนำมาเฉลี่ย
ค่าที่ได้นี้สามารถนำมาประเมินสภาวะต่างๆเหล่านี้ได้คือ
1 ความฟิต
2 ภาวะที่ซ้อมหนักเกินไป , การขาดน้ำ, พักผ่อนไม่พอ , ขาดสารอาหาร หรือ
สรุปว่า resting heart rate มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ endurance แต่ราไม่สามารถนำมาประเมิน aerobic fitnessได้ เรื่องยังมีอีกยาวไว้ติดตามกันต่อไปครับ
credit: 100 rpm Classroom by เป้ มหาชัย
ที่มา thairoadbike.com/index.php?topic=1124.0
ต่อไปเป็นช่วงบริหารสายตาครับ
ภาพยังมีอีกเยอะนะครับแต่โพสต์ไม่ไหว ตามไปดูต่อได้ที่ fb.com/thairoadbike.community
ปล.เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าทุกท่านเข้ามาชมแต่ภาพจักรยาน ขอถามว่ารถจักรยานในภาพแรกสีอะไร ถ้าท่านตอบได้โดยไม่ต้องเลื่อนขึ้นไปดูใหม่อีกรอบ แสดงว่าท่านดูแต่เฉพาะรูปจักรยานจริงๆ