http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1395908594
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
อยู่ยั้งยืนยงในวงการมานานกว่า 10 ปี สำหรับ "นาซ่าโฟน" ร้านขายโทรศัพท์มือถือร้านเล็ก ๆ แต่ยอดขายไม่เล็กที่ "มาบุญครอง" แหล่งรวมสารพัดอุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ยุคแรก ๆ จนถึงปัจจุบัน แม้วันนี้มาบุญครองจะไม่เฟื่องฟูเหมือนก่อน แต่ภาพลักษณ์เดิม ๆ ก็ยังไม่จางหายไป
"ประชาชาติธุรกิจ" ฉบับนี้มีโอกาสพูดคุยกับ "วิเชียร สหพัฒนประเสริฐ" เจ้าของร้าน "นาซ่าโฟน" ร้านขายโทรศัพท์มือถือที่อยู่มาตั้งแต่ระบบโทรศัพท์มือถือในบ้านเรายังเป็นระบบแอนะล็อกโน่นเลย และยังคงจุดเด่นดั้งเดิม "ราคาถูกและไม่ง้อลูกค้า"
ลูกค้าก็มีตั้งแต่ผู้บริโภคทั่วไป จนถึงร้านค้าที่วิ่งมาซื้อไปขายต่อทั้งในมาบุญครองและต่างจังหวัด
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของตลาดโทรศัพท์มือถือ และพฤติกรรมผู้บริโภคอะไรทำให้ "นาซ่า" ผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้ถึงวันนี้
- เปิดร้านมานานแค่ไหนแล้ว
มากกว่า 10 ปีแล้ว เวลาที่แน่นอนจำไม่ได้จริง ๆ น่าจะถัดจากช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์เมื่อปี 2541 ไม่นานนัก และเป็นช่วงเริ่มต้นของโทรศัพท์มือถือ ทำให้ตัดสินใจเปิดร้านนี้ และอยู่ที่
มาบุญครองมาตั้งแต่แรก จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ไม่มีการขยายสาขา หรือขายอย่างอื่นตั้งแต่วันแรกจนวันนี้
- วันนี้กับ 10 ปีที่แล้วมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
เปิดร้านแรก ๆ ตรงกับช่วงที่ระบบโทรศัพท์มือถือ 2G เพิ่งมาทำให้หลายคนอยากใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ราคาเครื่องที่ถือว่าสูงมาก (เครื่องละ 2-3 หมื่นบาท) ทำให้ไม่ได้คึกคักมากนัก ต่างจากตอนนี้มากที่เป็น 3G ทำให้ลูกค้าอยากเปลี่ยนเครื่อง ขณะที่ราคาเครื่องถูกลงเยอะมาก ตลาดในตอนนี้น่าจะคึกคักขึ้นกว่าเดิม
แต่มาบุญครองเองที่เปลี่ยนไป เมื่อก่อนถือเป็นศูนย์รวมโทรศัพท์มือถือจริง ๆ เพราะไม่ค่อยมีที่ไหนขาย ปัจจุบันมีการขายโทรศัพท์มือถือกระจายทั่วประเทศ มีร้านตู้กระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่มาบุญครองก็ยังคงเป็นศูนย์รวมอยู่ เพราะมาที่นี่มีทุกรุ่นทุกแบรนด์ให้เลือก
- ทำไมไม่ขยายสาขา
ผมพอใจแค่สาขาเดียว ถ้าเพิ่มสาขาการบริหารสต๊อกจะยากขึ้น ร้านอื่นที่เปิดในช่วงเดียวกันขยายสาขาไปนอกมาบุญครองหมดแล้ว แต่เราอยู่ที่นี่ที่เดียว และก็ยังอยู่ได้ขายได้ตลอด เพราะมีจุดยืนชัดเจน คือ ร้านเรามีทุกรุ่นทุกแบรนด์ และราคาถูกกว่าร้านอื่นเล็กน้อย
ดังนั้น ถ้าลูกค้ามาที่ร้านต้องได้เครื่องกลับไป ไม่มีมาแล้วเราบอกว่าเครื่องหมด ไม่มี
- ทำไมขายถูกกว่าร้านอื่น
เราใช้ระบบซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการด้วย นอกจากจะมอนิเตอร์ยอดซื้อของเข้ามาขายจากดิสทริบิวเตอร์ และยอดสินค้าออกจากร้านทุกเช้าแล้ว ที่สำคัญราคาของร้านจะมีการอัพเดตขึ้นเฟซบุ๊กทุกวันก่อนเที่ยง เพื่อให้ราคาอัพเดตตลอดเวลา และมีการปรับทุกวัน
ดังนั้น สินค้าทุกตัวจึงมีสภาพคล่องสูง บางทีเราก็ไม่ได้ขายตามราคาที่บริษัทกำหนด ตัวไหนขายดีก็อาจบวกเพิ่มหน่อย ขายไม่ดีก็บวกน้อยหน่อยแต่โดยรวมแล้วถูกกว่า และถึงจะขายถูกก็เป็นเครื่องใหม่ทั้งหมด มีประกัน 100% มีปัญหาซ่อมที่ศูนย์ได้
- ถือเป็นขาใหญ่ที่มาบุญครอง
ก็ใช่ เพราะผมให้ความสนใจกับเรื่องโทรศัพท์มาก แต่ถนัดขายมือหนึ่งนะ มือสองผมไม่ขาย ทำให้ร้านตู้ต่าง ๆ ใช้วิธีวิ่งมาซื้อกับเราแล้วเอาไปขายต่อ ไม่ต้องสต๊อกสินค้า เพราะร้านตู้จะถนัดขายเครื่องมือสองมากกว่า
พวกพ่อค้าหน้าใหม่ แค่มาดูราคาหน้าร้านก็นำไปตั้งเป็นราคาขายได้ด้วย เพราะวิเคราะห์มาแล้วว่ารุ่นนี้ต้องตั้งราคาอย่างไรถึงจะขายออก
- ส่งไปขายในต่างจังหวัดด้วย
ใช่ยอดสั่งซื้อก็พอ ๆ กับในกรุงเทพฯ เพราะร้านต่างจังหวัดสั่งของค่อนข้างยาก บางทีต้องขับรถมาซื้อในเมืองก็เสียเวลา พอราคาของร้านเราถูกกว่าที่อื่นก็เลยมาสั่งจากเราเยอะ ผมจะใช้บริษัทขนส่งในการจัดส่งสินค้า ไม่ว่าจะสั่งตัวเดียวหรือเป็นสิบตัวก็ส่ง
ที่สำคัญคือ สั่งวันนี้ ได้ของพรุ่งนี้เช้าเลยราคาที่ตั้งก็ใช้อันเดียวกับที่ขึ้นในเฟซบุ๊ก และไม่มีส่วนลดใด ๆ ทั้งสิ้นหากสั่งจำนวนมาก เพราะไม่อยากให้ร้านตู้เอาของไปดองเยอะ เสี่ยงต่อการขาดทุน ทยอยซื้อไม่เกิน 10 ตัวน่าจะดีกว่า และจำนวนนี้ถือเป็นยอดขายที่ออกไปจากร้านมากที่สุด
- ขายแต่มือถือ
แท็บเลตก็มี ตอนนี้รุ่นราคาถูกจากจีนเริ่มหมดกระแสแล้ว จึงหันมาขายแท็บเลตที่มีแบรนด์มากขึ้น รวมถึงบัตรเติมเงิน แต่ตอนนี้ยอดขายตกลงเรื่อย ๆ เพราะคนหันไปเติมเงินผ่านระบบออนไลน์กันหมดแล้ว ที่ขายได้ก็แค่ตามจังหวัดไกล ๆ
พวกซิมการ์ด เมโมรี่การ์ด และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเคสมือถือที่ฮิต ๆ กันเราไม่ขาย เพราะไม่ถนัดจริง ๆ พวกนี้ค่อนข้างเสี่ยงที่จะค้างสต๊อก เพราะต้องอย่าลืมว่ามือถือแต่ละแบรนด์เปิดตัวถี่แค่ไหน มีกี่รุ่นต่อกี่รุ่น
- ได้รับผลกระทบจากการเมือง
ไม่กระทบช่วงที่มีม็อบแม้ลูกค้าจะเดินทางมาซื้อที่มาบุญครองลำบาก แต่เราก็ส่งสินค้าให้ลูกค้าที่สั่งจากต่างจังหวัดได้ นอกจากนี้ ร้านตู้ในมาบุญครองก็ยังคงวิ่งมาซื้อที่เรา เพราะราคาที่ถูกกว่าในภาพรวมจึงไม่สะดุด
- ลูกค้าทั่วไปที่มาซื้อที่ร้านเป็นกลุ่มไหน
ต้องเป็นคนที่มีความรู้นิดหนึ่ง เพราะร้านเราไม่ให้ลองสินค้า และต้องจ่ายเงินก่อนถึงจะแกะกล่องได้ ที่เป็นแบบนี้เพราะต้องการให้ทุกเครื่องที่ถึงมือลูกค้าเป็นสินค้ามือหนึ่งจริง ๆ ดังนั้น ถ้าจะมาซื้อของที่ร้านนาซ่าต้องไปลองดูลองใช้เครื่องรุ่นที่จะซื้อจากที่อื่นมาก่อน เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าอยากซื้อยี่ห้อนี้รุ่นนี้ อยากได้ของถูกค่อยเข้ามาซื้อที่ร้านเรา ถ้าไม่สะดวกมาเองจะโทร.มาสั่งแล้วโอนเงินจ่ายก็ได้
- แบรนด์ไหนขายดีสุด
ถ้าเป็นจำนวนเครื่อง โนเกียยังขายดีสุด แต่ถ้านับเป็นจำนวนเงิน ซัมซุงมูลค่าเยอะกว่า เพราะโนเกียยังมีโทรศัพท์รุ่นที่ราคาถูกเยอะ และใช้งานง่าย ทำให้ยอดขายยังดีอยู่ ในกลุ่มโทรศัพท์แพง ๆ ถึงมีแล้วก็ยังขายไม่ดี เพราะใช้งานค่อนข้างยาก ต่างจากแบรนด์จากเกาหลี เป็นแอนดรอยด์ใช้ง่ายกว่า บางช่วงกินส่วนแบ่งยอดขายในแง่มูลค่าไปถึง 50% รองลงมาเป็นไอ-โมบายกับเลอโนโว นอกเหนือจากพวกนี้แล้วจะขายไม่ค่อยได้ ที่แบรนด์จากจีนมาแรงก็เพราะเขาต้องการบุกตลาด จึงส่งตัวราคาถูกกว่าในสเป็กเดียวกันกับคู่แข่งออกมาจึงไม่แปลกที่จะติดตลาดเร็ว ส่วนไอ-โมบายอยู่ในตลาดมานานมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึง
- มองตลาดปีนี้อย่างไร
โอกาสสดใสเพราะ 3G มาเต็มรูปแบบแล้ว โอเปอเรเตอร์ก็หันมาช่วยทำตลาดเต็มที่ ดังนั้น ยอดขายของกลุ่มค้าปลีกโทรศัพท์มือถือจะต้องเติบโตแน่นอน แต่ทุกคนคงต้องมาแข่งกับตนเองเพื่อเติมสินค้าในร้านไม่ให้ขาดมากกว่า
เจาะลึกขาใหญ่มาบุญครอง "นาซ่าโฟน" 10 ปีกับจุดยืนเดิม
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
อยู่ยั้งยืนยงในวงการมานานกว่า 10 ปี สำหรับ "นาซ่าโฟน" ร้านขายโทรศัพท์มือถือร้านเล็ก ๆ แต่ยอดขายไม่เล็กที่ "มาบุญครอง" แหล่งรวมสารพัดอุปกรณ์เกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือตั้งแต่ยุคแรก ๆ จนถึงปัจจุบัน แม้วันนี้มาบุญครองจะไม่เฟื่องฟูเหมือนก่อน แต่ภาพลักษณ์เดิม ๆ ก็ยังไม่จางหายไป
"ประชาชาติธุรกิจ" ฉบับนี้มีโอกาสพูดคุยกับ "วิเชียร สหพัฒนประเสริฐ" เจ้าของร้าน "นาซ่าโฟน" ร้านขายโทรศัพท์มือถือที่อยู่มาตั้งแต่ระบบโทรศัพท์มือถือในบ้านเรายังเป็นระบบแอนะล็อกโน่นเลย และยังคงจุดเด่นดั้งเดิม "ราคาถูกและไม่ง้อลูกค้า"
ลูกค้าก็มีตั้งแต่ผู้บริโภคทั่วไป จนถึงร้านค้าที่วิ่งมาซื้อไปขายต่อทั้งในมาบุญครองและต่างจังหวัด
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของตลาดโทรศัพท์มือถือ และพฤติกรรมผู้บริโภคอะไรทำให้ "นาซ่า" ผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้ถึงวันนี้
- เปิดร้านมานานแค่ไหนแล้ว
มากกว่า 10 ปีแล้ว เวลาที่แน่นอนจำไม่ได้จริง ๆ น่าจะถัดจากช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์เมื่อปี 2541 ไม่นานนัก และเป็นช่วงเริ่มต้นของโทรศัพท์มือถือ ทำให้ตัดสินใจเปิดร้านนี้ และอยู่ที่
มาบุญครองมาตั้งแต่แรก จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ไม่มีการขยายสาขา หรือขายอย่างอื่นตั้งแต่วันแรกจนวันนี้
- วันนี้กับ 10 ปีที่แล้วมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
เปิดร้านแรก ๆ ตรงกับช่วงที่ระบบโทรศัพท์มือถือ 2G เพิ่งมาทำให้หลายคนอยากใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ราคาเครื่องที่ถือว่าสูงมาก (เครื่องละ 2-3 หมื่นบาท) ทำให้ไม่ได้คึกคักมากนัก ต่างจากตอนนี้มากที่เป็น 3G ทำให้ลูกค้าอยากเปลี่ยนเครื่อง ขณะที่ราคาเครื่องถูกลงเยอะมาก ตลาดในตอนนี้น่าจะคึกคักขึ้นกว่าเดิม
แต่มาบุญครองเองที่เปลี่ยนไป เมื่อก่อนถือเป็นศูนย์รวมโทรศัพท์มือถือจริง ๆ เพราะไม่ค่อยมีที่ไหนขาย ปัจจุบันมีการขายโทรศัพท์มือถือกระจายทั่วประเทศ มีร้านตู้กระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่มาบุญครองก็ยังคงเป็นศูนย์รวมอยู่ เพราะมาที่นี่มีทุกรุ่นทุกแบรนด์ให้เลือก
- ทำไมไม่ขยายสาขา
ผมพอใจแค่สาขาเดียว ถ้าเพิ่มสาขาการบริหารสต๊อกจะยากขึ้น ร้านอื่นที่เปิดในช่วงเดียวกันขยายสาขาไปนอกมาบุญครองหมดแล้ว แต่เราอยู่ที่นี่ที่เดียว และก็ยังอยู่ได้ขายได้ตลอด เพราะมีจุดยืนชัดเจน คือ ร้านเรามีทุกรุ่นทุกแบรนด์ และราคาถูกกว่าร้านอื่นเล็กน้อย
ดังนั้น ถ้าลูกค้ามาที่ร้านต้องได้เครื่องกลับไป ไม่มีมาแล้วเราบอกว่าเครื่องหมด ไม่มี
- ทำไมขายถูกกว่าร้านอื่น
เราใช้ระบบซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการด้วย นอกจากจะมอนิเตอร์ยอดซื้อของเข้ามาขายจากดิสทริบิวเตอร์ และยอดสินค้าออกจากร้านทุกเช้าแล้ว ที่สำคัญราคาของร้านจะมีการอัพเดตขึ้นเฟซบุ๊กทุกวันก่อนเที่ยง เพื่อให้ราคาอัพเดตตลอดเวลา และมีการปรับทุกวัน
ดังนั้น สินค้าทุกตัวจึงมีสภาพคล่องสูง บางทีเราก็ไม่ได้ขายตามราคาที่บริษัทกำหนด ตัวไหนขายดีก็อาจบวกเพิ่มหน่อย ขายไม่ดีก็บวกน้อยหน่อยแต่โดยรวมแล้วถูกกว่า และถึงจะขายถูกก็เป็นเครื่องใหม่ทั้งหมด มีประกัน 100% มีปัญหาซ่อมที่ศูนย์ได้
- ถือเป็นขาใหญ่ที่มาบุญครอง
ก็ใช่ เพราะผมให้ความสนใจกับเรื่องโทรศัพท์มาก แต่ถนัดขายมือหนึ่งนะ มือสองผมไม่ขาย ทำให้ร้านตู้ต่าง ๆ ใช้วิธีวิ่งมาซื้อกับเราแล้วเอาไปขายต่อ ไม่ต้องสต๊อกสินค้า เพราะร้านตู้จะถนัดขายเครื่องมือสองมากกว่า
พวกพ่อค้าหน้าใหม่ แค่มาดูราคาหน้าร้านก็นำไปตั้งเป็นราคาขายได้ด้วย เพราะวิเคราะห์มาแล้วว่ารุ่นนี้ต้องตั้งราคาอย่างไรถึงจะขายออก
- ส่งไปขายในต่างจังหวัดด้วย
ใช่ยอดสั่งซื้อก็พอ ๆ กับในกรุงเทพฯ เพราะร้านต่างจังหวัดสั่งของค่อนข้างยาก บางทีต้องขับรถมาซื้อในเมืองก็เสียเวลา พอราคาของร้านเราถูกกว่าที่อื่นก็เลยมาสั่งจากเราเยอะ ผมจะใช้บริษัทขนส่งในการจัดส่งสินค้า ไม่ว่าจะสั่งตัวเดียวหรือเป็นสิบตัวก็ส่ง
ที่สำคัญคือ สั่งวันนี้ ได้ของพรุ่งนี้เช้าเลยราคาที่ตั้งก็ใช้อันเดียวกับที่ขึ้นในเฟซบุ๊ก และไม่มีส่วนลดใด ๆ ทั้งสิ้นหากสั่งจำนวนมาก เพราะไม่อยากให้ร้านตู้เอาของไปดองเยอะ เสี่ยงต่อการขาดทุน ทยอยซื้อไม่เกิน 10 ตัวน่าจะดีกว่า และจำนวนนี้ถือเป็นยอดขายที่ออกไปจากร้านมากที่สุด
- ขายแต่มือถือ
แท็บเลตก็มี ตอนนี้รุ่นราคาถูกจากจีนเริ่มหมดกระแสแล้ว จึงหันมาขายแท็บเลตที่มีแบรนด์มากขึ้น รวมถึงบัตรเติมเงิน แต่ตอนนี้ยอดขายตกลงเรื่อย ๆ เพราะคนหันไปเติมเงินผ่านระบบออนไลน์กันหมดแล้ว ที่ขายได้ก็แค่ตามจังหวัดไกล ๆ
พวกซิมการ์ด เมโมรี่การ์ด และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเคสมือถือที่ฮิต ๆ กันเราไม่ขาย เพราะไม่ถนัดจริง ๆ พวกนี้ค่อนข้างเสี่ยงที่จะค้างสต๊อก เพราะต้องอย่าลืมว่ามือถือแต่ละแบรนด์เปิดตัวถี่แค่ไหน มีกี่รุ่นต่อกี่รุ่น
- ได้รับผลกระทบจากการเมือง
ไม่กระทบช่วงที่มีม็อบแม้ลูกค้าจะเดินทางมาซื้อที่มาบุญครองลำบาก แต่เราก็ส่งสินค้าให้ลูกค้าที่สั่งจากต่างจังหวัดได้ นอกจากนี้ ร้านตู้ในมาบุญครองก็ยังคงวิ่งมาซื้อที่เรา เพราะราคาที่ถูกกว่าในภาพรวมจึงไม่สะดุด
- ลูกค้าทั่วไปที่มาซื้อที่ร้านเป็นกลุ่มไหน
ต้องเป็นคนที่มีความรู้นิดหนึ่ง เพราะร้านเราไม่ให้ลองสินค้า และต้องจ่ายเงินก่อนถึงจะแกะกล่องได้ ที่เป็นแบบนี้เพราะต้องการให้ทุกเครื่องที่ถึงมือลูกค้าเป็นสินค้ามือหนึ่งจริง ๆ ดังนั้น ถ้าจะมาซื้อของที่ร้านนาซ่าต้องไปลองดูลองใช้เครื่องรุ่นที่จะซื้อจากที่อื่นมาก่อน เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าอยากซื้อยี่ห้อนี้รุ่นนี้ อยากได้ของถูกค่อยเข้ามาซื้อที่ร้านเรา ถ้าไม่สะดวกมาเองจะโทร.มาสั่งแล้วโอนเงินจ่ายก็ได้
- แบรนด์ไหนขายดีสุด
ถ้าเป็นจำนวนเครื่อง โนเกียยังขายดีสุด แต่ถ้านับเป็นจำนวนเงิน ซัมซุงมูลค่าเยอะกว่า เพราะโนเกียยังมีโทรศัพท์รุ่นที่ราคาถูกเยอะ และใช้งานง่าย ทำให้ยอดขายยังดีอยู่ ในกลุ่มโทรศัพท์แพง ๆ ถึงมีแล้วก็ยังขายไม่ดี เพราะใช้งานค่อนข้างยาก ต่างจากแบรนด์จากเกาหลี เป็นแอนดรอยด์ใช้ง่ายกว่า บางช่วงกินส่วนแบ่งยอดขายในแง่มูลค่าไปถึง 50% รองลงมาเป็นไอ-โมบายกับเลอโนโว นอกเหนือจากพวกนี้แล้วจะขายไม่ค่อยได้ ที่แบรนด์จากจีนมาแรงก็เพราะเขาต้องการบุกตลาด จึงส่งตัวราคาถูกกว่าในสเป็กเดียวกันกับคู่แข่งออกมาจึงไม่แปลกที่จะติดตลาดเร็ว ส่วนไอ-โมบายอยู่ในตลาดมานานมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึง
- มองตลาดปีนี้อย่างไร
โอกาสสดใสเพราะ 3G มาเต็มรูปแบบแล้ว โอเปอเรเตอร์ก็หันมาช่วยทำตลาดเต็มที่ ดังนั้น ยอดขายของกลุ่มค้าปลีกโทรศัพท์มือถือจะต้องเติบโตแน่นอน แต่ทุกคนคงต้องมาแข่งกับตนเองเพื่อเติมสินค้าในร้านไม่ให้ขาดมากกว่า