การที่ใครจะประกาศตัวเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้นั้น ต้องยึดอำนาจได้เบ็ดเสร็จก่อนครับ ต้องปราบฝ่ายต่อต้านได้ราบคาบก่อน แล้วจึงสถาปนาตัวเองหรือกลุ่มของตัวเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้ แต่สุเทพยังห่างไกลตรงนั้นมาก
การเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้ ต้อง ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญที่ใช้บังคับใช้ก่อน เพราะรัฐธรรมนูญทุกฉบับมีบทบัญญัติห้ามได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น และคงไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนในโลกที่ยอมให้ทำรัฐประหารได้ เมื่อสุเทพไม่ได้ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ ย่อมไม่สามารถประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้
เมื่อรัฐธรรมนูญถูกประกาศยกเลิกเมื่อไหร่ ณ. วินาทีนั้น ทุกองค์กรรัฐ สถาบันรัฐ ข้าราชการ ข้าราชการการเมือง กฎหมาย กฎกระทรวง ฯลฯ ทุกอย่างจะอยู่ในสถานะขาลอย ไม่เว้นแม้สถาบันพระมหากษัติย์ เพราะทุกสถาบัน องค์กรรัฐ ล้วนบัญญัติมาจากรากฐาน ยึดโยงและใช้อำนาจในการออกกฎหมาย แต่งตั้ง สถาปนา จากรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น
นั่นถึงเป็นที่มาว่าหลังทำการรัฐประหารยึดอำนาจและประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญแล้ว ตัวของรัฏฐาธิปัตย์ต้องประกาศทันทีว่ากฎหมายไหน องค์กรไหน สถาบันไหน ยังคงมีอยู่และใช้บังคับกฎหมายที่ยึดโยงอ้างอิงกับประกาศของตัวเองได้ พูดง่ายๆว่า ประกาศของรัฏฐาธิปัตย์ก็คือกฎหมายสูงสุดบังคับใช้แทนรัฐธรรมนูญนั่นเอง
และที่สำคัญเมื่อประกาศของรัฏฐาธิปัตย์มีผลบังคับใช้แล้ว ถ้าไม่ถูกยกเลิกในภายหลัง มันจะเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไปชั่วกัลปาวสาน ดังจะเห็นได้ว่ายังมีคำประกาศของคณะปฏิวัติหลายฉบับที่ยังคงบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้นการที่สุเทพประกาศจะทำเมื่อคืน มันก็เป็นแค่การฝ่าฝืนทำผิดรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายการเป็นกบฎเท่านั้น เพราะถ้าสุเทพเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้จริงก็ไม่ต้องทูลเกล้าแล้วครับ ประกาศแต่งตั้งได้เองเลย เหมือนกับที่ พล.อ.สนธิ แต่งตั้งคนองค์กรอิสระที่ผ่านมาตอนที่ตัวเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ไงครับ
เพราะความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ยิ่งใหญ่มาก มีอำนาจเหนือพระมหากษัตริย์เสียอีก เมื่อแต่งตั้งใครแล้วก็เป็นได้เลย ดังที่เห็นได้จากคนในองค์กรอิสสระหลายคนที่เข้ามาทำงานไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เพราะแต่งตั้งจากรัฏฐาธิปัตย์นั่นเอง
ประเด็นที่เขียนมายืดยาวคือ ถ้าเทพประกาศจะตั้งนายกฯเอง ทูลเกล้าเอง ได้โดยที่ตัวเองไม่ได้มีอำนาจ และไม่ได้มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าหน่วยงานรัฐทีดูแลเรื่องนี้ ทั้งตำรวจทหารนิ่งเฉยไม่ทำอะไร เดี๋ยวประชาชนคนอื่นก็จะลุกขึ้นมาแต่งตั้งนายกฯ ของตัวเองทุดคนได้เหมือนกัน
ผมว่าหลายคนเข้าใจผิดนะว่าที่สุเทพประกาศทำเมื่อวาน เป็นรัฏฐาธิปัตย์
การเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้ ต้อง ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญที่ใช้บังคับใช้ก่อน เพราะรัฐธรรมนูญทุกฉบับมีบทบัญญัติห้ามได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น และคงไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนในโลกที่ยอมให้ทำรัฐประหารได้ เมื่อสุเทพไม่ได้ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ ย่อมไม่สามารถประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้
เมื่อรัฐธรรมนูญถูกประกาศยกเลิกเมื่อไหร่ ณ. วินาทีนั้น ทุกองค์กรรัฐ สถาบันรัฐ ข้าราชการ ข้าราชการการเมือง กฎหมาย กฎกระทรวง ฯลฯ ทุกอย่างจะอยู่ในสถานะขาลอย ไม่เว้นแม้สถาบันพระมหากษัติย์ เพราะทุกสถาบัน องค์กรรัฐ ล้วนบัญญัติมาจากรากฐาน ยึดโยงและใช้อำนาจในการออกกฎหมาย แต่งตั้ง สถาปนา จากรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น
นั่นถึงเป็นที่มาว่าหลังทำการรัฐประหารยึดอำนาจและประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญแล้ว ตัวของรัฏฐาธิปัตย์ต้องประกาศทันทีว่ากฎหมายไหน องค์กรไหน สถาบันไหน ยังคงมีอยู่และใช้บังคับกฎหมายที่ยึดโยงอ้างอิงกับประกาศของตัวเองได้ พูดง่ายๆว่า ประกาศของรัฏฐาธิปัตย์ก็คือกฎหมายสูงสุดบังคับใช้แทนรัฐธรรมนูญนั่นเอง
และที่สำคัญเมื่อประกาศของรัฏฐาธิปัตย์มีผลบังคับใช้แล้ว ถ้าไม่ถูกยกเลิกในภายหลัง มันจะเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไปชั่วกัลปาวสาน ดังจะเห็นได้ว่ายังมีคำประกาศของคณะปฏิวัติหลายฉบับที่ยังคงบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้นการที่สุเทพประกาศจะทำเมื่อคืน มันก็เป็นแค่การฝ่าฝืนทำผิดรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายการเป็นกบฎเท่านั้น เพราะถ้าสุเทพเป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้จริงก็ไม่ต้องทูลเกล้าแล้วครับ ประกาศแต่งตั้งได้เองเลย เหมือนกับที่ พล.อ.สนธิ แต่งตั้งคนองค์กรอิสระที่ผ่านมาตอนที่ตัวเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ไงครับ
เพราะความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ยิ่งใหญ่มาก มีอำนาจเหนือพระมหากษัตริย์เสียอีก เมื่อแต่งตั้งใครแล้วก็เป็นได้เลย ดังที่เห็นได้จากคนในองค์กรอิสสระหลายคนที่เข้ามาทำงานไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เพราะแต่งตั้งจากรัฏฐาธิปัตย์นั่นเอง
ประเด็นที่เขียนมายืดยาวคือ ถ้าเทพประกาศจะตั้งนายกฯเอง ทูลเกล้าเอง ได้โดยที่ตัวเองไม่ได้มีอำนาจ และไม่ได้มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งถ้าหน่วยงานรัฐทีดูแลเรื่องนี้ ทั้งตำรวจทหารนิ่งเฉยไม่ทำอะไร เดี๋ยวประชาชนคนอื่นก็จะลุกขึ้นมาแต่งตั้งนายกฯ ของตัวเองทุดคนได้เหมือนกัน