จขกท. มีอาการตาเขออกตั้งแต่เด็กค่ะ ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ เรื่องความมั่นใจไม่ต้องพูดถึง รู้สึกติดลบกับตัวเองจนไม่รู้จะพูดยังไงเพราะโดนเพื่อนและคนรอบข้างล้อมาตลอด แต่ถึงอย่างนั้น จขกท. ก็ไม่ได้ทำอะไรกับมัน จนกระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิต ความสามารถในการมองเห็นของตาทั้งสองข้างเมื่อใช้ร่วมกันลดลงอย่างเห็นได้ชัด ที่ผ่านมาเราใช้งานตาข้างซ้ายเป็นหลักจนพอคิดที่จะดึงกลับมา ภาพที่เห็นมันก็เบลอไปหมดแล้ว อารมณ์เหมือนคนสายตาสั้นที่ยังไม่ได้ใส่แว่น (ทั้งที่เราก็ใส่แว่น ตอนตัดแว่น ปิดตาข้างใดข้างหนึ่งเห็นชัด แต่พอเปิดตามาสองข้างกลับมองไม่เห็นซะงั้น ทำเอาคนที่ร้านแว่นงงกันไป) นั่นคือจุดที่ทำให้เรารู้สึกตัวว่า ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง ฉันไม่สามารถมองสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยตาเพียงข้างเดียวไปได้ตลอดชีวิตหรอกนะ

เราโทรนัดคุณหมอเฉพาะทางกล้ามเนื้อตาที่โรงพยาบาลจักษุ รัตนินค่ะ ที่บ้านเคยพาเราไปตรวจที่นี่ตอนเด็กๆ แต่ไม่ได้ทำการรักษาอย่างจริงจังจนบัดนี้กำลังจะก้าวเข้าสู่ชีวิตปีที่ 23 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ระหว่างการตรวจ คุณหมอส่ายหน้าพร้อมบอกว่า ตาแย่มาก ไม่น่าทิ้งไว้นานขนาดนี้ ถ้าจำไม่ผิด วันนั้นที่ไปตรวจเป็นวันอังคารค่ะ เราบอกคุณหมอว่าเราอยากผ่าตัดให้เร็วที่สุด คุยเรื่องรายละเอียดกันเสร็จสรรพก็ได้คิวผ่าเป็นจันทร์ที่กำลังจะถึงซึ่งก็คือจันทร์ที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมานี้เอง สรุปผลการตรวจเราต้องผ่าทั้งสองข้างค่ะ ซ้าย 2 มัด  ขวา 1 มัด ประเมินค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 50000-55000 บวกค่าห้องเข้าไปอีก 4500 (เราเลือกห้องเดี่ยวมาตรฐานค่ะ)

ราคาเบ็ดเสร็จอยู่ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้66xxx บาท ถูกกว่าที่คิดไว้เยอะเลย

มีต่อนะคะ