เตือนโพสต์ภาพ-ข้อมูลผู้ป่วยเสี่ยงถูกฟ้อง ละเมิดสิทธิ-ขัดพ.ร.บ.สุขภาพฯ

วันที่ 31 มีนาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อส่งเสริมการใช้สิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพ ของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(คสช.) พิจารณาเรื่อง ปัญหาการละเมิดสิทธิผู้ป่วย ว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลของผู้ป่วย ทั้งอาการเจ็บป่วย รูปภาพผู้ป่วยผ่านโลกอินเตอร์เน็ต อาจมาจากประชาชนทั่วไปหรือบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งเจตนาหรือไม่ก็ตาม แต่ทั้งหมดสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และขัดต่อพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ตามมาตรา 7 ที่ระบุว่าข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยและอาจทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากบุคคลนั้นโดยตรง และไม่ว่าในกรณีใดๆ ผู้ใดจะอาศัยอำนาจหรือสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ เพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลสุขภาพของบุคคลไม่ได้

นพ.อำพล กล่าวอีกว่า ถึงแม้จะมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้ป่วย แต่สถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาจะพบว่ามีการโพสต์รูปภาพ อาการ ข้อมูลของผู้บาดเจ็บจำนวนมาก บ้างก็มีการโพสต์ฟิล์มเอ็กซเรย์ผ่านสังคมออนไลน์ ซึ่งทั้งหมดล้วนไม่สมควร ที่ประชุมเห็นว่า สช.ควรทำหน้าที่ในการเผยแพร่ความรู้ในเรื่องสิทธิผู้ป่วยมากขึ้น ผ่านสื่อสาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะการเผยแพร่มาตรา 7 ตามพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติฯ ให้กับสื่อมวลชนทราบเพื่อเป็นการป้องกันการกระจายข่าวหรือข้อมูลของผู้ป่วยโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ ยอมรับว่าการจะไปควบคุมคงยาก แต่ จะเร่งสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจและระมัดระวังในการโพสภาพผู้ป่วย หรือข้อมูลผู้ป่วยผ่านสื่อมวลชนต่างๆ รวมทั้งเวทีวิชาการที่สช.จะจัดก็จะแทรกข้อมูลดังกล่าวเพื่อย้ำให้ทราบอีก

"หากมีการโพสรูปภาพ หรือข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย เช่น ผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นเอดส์ ขาดแคลนเลือด ต้องการรับบริจาคด่วน หากไปโพสลักษณะนี้ ถือว่าไม่เหมาะสมในการระบุโรค เข้าข่ายผิดมาตรา 7 ซึ่งหากญาติผู้ป่วย หรือผู้ป่วยต้องการฟ้องร้อง สามารถดำเนินการได้ โดยผู้ละเมิดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สิ่งสำคัญคือ การโพสต์ข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย หรือญาติ และการนำข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยมาเผยแพร่ต้องไม่ทำให้เกิดความเสียหาย ถูกดูถูกเกลียดชัง มิเช่นนั้นจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทอีก"

ไทยรัฐ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่