ขอยกข้อความออกมาให้เห็นชัดเจนดังนี้ :
1. ให้สำนักวิปัสสนา วัดมหาธาตุไว้
"เป็นที่ระลึก"
2. ในโอกาสที่ฉันได้
"เข้าปฏิบัติ" วิปัสสนาตามแบบแผน ที่วัดมหาธาตุสอนอยู่
"ในปัจจุบันนี้แล้ว"
3. ยืนยันได้ว่า
"การปฏิบัติแบบนี้" ถูกต้องร่องรอยในมหาสติปัฏฐานสูตร
"ทุกประการ"
ก่อนที่จะ
"ตีความ" ข้อความดังกล่าว เราควรจะทราบเหตุการณ์ประกอบกันก่อน
ถ้าไม่ทราบเหตุการณ์ในช่วงนั้น ก็จะไม่เข้าใจข้อความดังกล่าว
ก่อนที่มหาโชดกจะไปเรียนยุบหนอพองหนอที่พม่านั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำไปสอนวิชาธรรมกายที่วัดมหาธาตุเป็นประจำ
เจ้าอาวาสของวัดมหาธาตุองค์ก่อนมหาอาจ (พระพิมลธรรม) เป็นผู้นิมนต์ไป
จะเห็นได้ว่า ความโด่งดังของหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น มหาโชดกไม่สามารถเทียบได้เลย
มหาโชดกไปเรียนที่พม่าในปี พ.ศ. 2495 กลับมาประมาณปลายปี และมีการตั้งสำนักวิปัสสนาของวัดมหาธาตุในปี พ.ศ. 2496
มหาโชดกมาบังคับให้หลวงพ่อวัดปากน้ำเข้าอบรมยุบหนอพองหนอในปี พ.ศ. 2498 บางคนบอกว่า 2499
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นปีไหน ไม่ใช่สาระสำคัญ
สาระสำคัญก็คือ ในปี พ.ศ. 2498 นั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำใกล้มรณภาพ ซึ่งก็หมายความว่า
"วิชชาธรรมกาย" ของหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น หลวงพ่อพัฒนาจนถึงขีดสุดแล้ว
พูดตามหลักวิชาการก็คือ เป็นทฤษฎี หรือเป็นสาขาวิชาขึ้นมาแล้ว
มหาโชดกไปเรียนยุบหนอพองหนอเพียง 1 ปี ก็ร้องขอกลับแล้ว ความรู้ของมหาโชดกจะไปเทียบความรู้ของหลวงพ่อวัดปากน้ำได้อย่างไร
เมื่อมหาโชดกสร้างเรื่องโกหกอันยิ่งใหญ่ และเผยแพร่เรื่องโกหกนี้ออกไป เหล่าสาวกไปขยายความกันใหญ่โต เรียกว่า โกหกจนเพลิน
ดูตัวอย่างการโกหกที่นี่ (อย่างเช่น : มักกะลีผล
http://makkaliphol.blogspot.com/ นารีผล
http://nareephon.blogspot.com/ )
แล้วเอาภาพนี้ ไปเผยแพร่เพื่อยืนยันว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกสอนวิชาธรรมกายแล้ว และไปนับถือมหาโชดก
เหล่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็เริ่มจับผิดเรื่อง พ.ศ. ขึ้นมา เพราะ เรื่องที่โกหกทั้งหลายทั้งปวงนั้น ไม่สอดคล้องกับ พ.ศ. 2498
นั่นจึงเป็นสาเเหตุในเกิดการลบ พ.ศ. ขึ้น
ท่านผู้อ่านลองคิดดู นักปฏิบัติธรรมสมควรทำเช่นนี้หรือ....
ผลของการกระทำนั้น จึงส่งผลให้มหาโชดกไปรับกรรมในอบายภูมิ อย่างแสนสาหัส อยากรู้ว่าหนักอย่างไร ให้มาถามเป็นการส่วนตัว
มหาโชดกโกหกเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ - [19] "ข้อความในภาพถ่าย"
ขอยกข้อความออกมาให้เห็นชัดเจนดังนี้ :
1. ให้สำนักวิปัสสนา วัดมหาธาตุไว้ "เป็นที่ระลึก"
2. ในโอกาสที่ฉันได้ "เข้าปฏิบัติ" วิปัสสนาตามแบบแผน ที่วัดมหาธาตุสอนอยู่ "ในปัจจุบันนี้แล้ว"
3. ยืนยันได้ว่า "การปฏิบัติแบบนี้" ถูกต้องร่องรอยในมหาสติปัฏฐานสูตร "ทุกประการ"
ก่อนที่จะ "ตีความ" ข้อความดังกล่าว เราควรจะทราบเหตุการณ์ประกอบกันก่อน
ถ้าไม่ทราบเหตุการณ์ในช่วงนั้น ก็จะไม่เข้าใจข้อความดังกล่าว
ก่อนที่มหาโชดกจะไปเรียนยุบหนอพองหนอที่พม่านั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำไปสอนวิชาธรรมกายที่วัดมหาธาตุเป็นประจำ
เจ้าอาวาสของวัดมหาธาตุองค์ก่อนมหาอาจ (พระพิมลธรรม) เป็นผู้นิมนต์ไป
จะเห็นได้ว่า ความโด่งดังของหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น มหาโชดกไม่สามารถเทียบได้เลย
มหาโชดกไปเรียนที่พม่าในปี พ.ศ. 2495 กลับมาประมาณปลายปี และมีการตั้งสำนักวิปัสสนาของวัดมหาธาตุในปี พ.ศ. 2496
มหาโชดกมาบังคับให้หลวงพ่อวัดปากน้ำเข้าอบรมยุบหนอพองหนอในปี พ.ศ. 2498 บางคนบอกว่า 2499
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นปีไหน ไม่ใช่สาระสำคัญ
สาระสำคัญก็คือ ในปี พ.ศ. 2498 นั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำใกล้มรณภาพ ซึ่งก็หมายความว่า "วิชชาธรรมกาย" ของหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น หลวงพ่อพัฒนาจนถึงขีดสุดแล้ว
พูดตามหลักวิชาการก็คือ เป็นทฤษฎี หรือเป็นสาขาวิชาขึ้นมาแล้ว
มหาโชดกไปเรียนยุบหนอพองหนอเพียง 1 ปี ก็ร้องขอกลับแล้ว ความรู้ของมหาโชดกจะไปเทียบความรู้ของหลวงพ่อวัดปากน้ำได้อย่างไร
เมื่อมหาโชดกสร้างเรื่องโกหกอันยิ่งใหญ่ และเผยแพร่เรื่องโกหกนี้ออกไป เหล่าสาวกไปขยายความกันใหญ่โต เรียกว่า โกหกจนเพลิน
ดูตัวอย่างการโกหกที่นี่ (อย่างเช่น : มักกะลีผล http://makkaliphol.blogspot.com/ นารีผล http://nareephon.blogspot.com/ )
แล้วเอาภาพนี้ ไปเผยแพร่เพื่อยืนยันว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกสอนวิชาธรรมกายแล้ว และไปนับถือมหาโชดก
เหล่าลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็เริ่มจับผิดเรื่อง พ.ศ. ขึ้นมา เพราะ เรื่องที่โกหกทั้งหลายทั้งปวงนั้น ไม่สอดคล้องกับ พ.ศ. 2498
นั่นจึงเป็นสาเเหตุในเกิดการลบ พ.ศ. ขึ้น
ท่านผู้อ่านลองคิดดู นักปฏิบัติธรรมสมควรทำเช่นนี้หรือ....
ผลของการกระทำนั้น จึงส่งผลให้มหาโชดกไปรับกรรมในอบายภูมิ อย่างแสนสาหัส อยากรู้ว่าหนักอย่างไร ให้มาถามเป็นการส่วนตัว