กระทู้นี้ มาดูความงง ความมั่ว ความไม่เข้าใจของมหาโชดก   ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามหาโชดกไม่ได้มีภูมิความรู้พอที่จะสอนใครได้

ไปเรียนที่พม่า 9 เดือน ก็เหมือนข้าราชการถูกบังคับเข้าอบรม   เพราะมหาโชดกถูกมหาอาจบังคับไป จริงๆ ไม่รู้ ไม่เข้าใจอะไรเลย

เมื่อมาสอนในประเทศไทย ก็จำเป็นต้องสอนแบบ  "งง-มั่ว-ไม่เข้าใจ"  

เมื่อมีพวกที่รู้น้อยกว่ามาหลงคารม ก็เกิดกิเลสอยากดังขึ้นมา

ก็ต้องโกหกไปเรื่อย โดยเฉพาะเรื่องของหลวงพ่อวัดปากน้ำ


ความ "งง-มั่ว-ไม่เข้าใจ" มีหลักฐานดังภาพด้านล่าง :


เนื้อหาในภาพนั้น เป็นส่วนที่มหาโชดกกำลังอธิบาย "สมถกรรมฐาน 40" อยู่  

สังเกตดูข้อที่ 9 คือ กายคตาสติ ข้อที่ 10 คือ อานาปานสติ

ต่อจากอานาปานสติก็เป็นหมวดที่ 4 คือ หมวดพรมหวิหาร

ขอให้ผู้อ่านเริ่มสังเกตอย่างที่ผมจะชี้ให้เห็น ดังนี้

1. มหาโชดกบอกว่า อานาปานสติมี 8 นัย หัวข้อแรกเลยคือ คณนานัย "เป็นสมถะ"

ตรงนี้เริ่มแปลกแล้ว มหาโชดกจะบอกทำไม ก็เนื้อหาตรงนี้ เป็นเรื่องสมถกรรมฐาน 40 อยู่แล้ว

2. ต่อมาอนุพันธนานัย มหาโชดกก็ยังบอกซ้ำซากอีกว่า "เป็นสมถะ"

3. มาถึงตอนสำคัญ คือ ผุสนานัย  ผมคัดลอกมาใหม่ให้อ่านกันเต็มๆ

---

ผุสนานัยเป็นวิธีกำหนดที่ลมกระทบ นัยนี้ เป็นวิปัสสนา นัยนี่แหละ ที่นิยมปฏิบัติกันอยู่แพร่หลายในทุกวันนี้ ได้แก่ การกำหนดท้องพองยุบ โดยภาวนาว่า พองหนอ ยุบหนอนั่นเอง

---

ตรงนี้แหละคือ จุดที่ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า มหาโชดก "งง-มั่ว-ไม่เข้าใจ"   

ก็มหาโชดกกำลังเขียนเรื่อง "สมถกรรมฐาน 40" อยู่ไม่ใช่หรือ   แล้วมีเรื่อง "วิปัสสนา" เข้ามาได้อย่างไร

ถ้าตรงนี้เป็น "วิปัสสนา" เข้าจริงๆ   ขอบเขตระหว่างสมถะกับวิปัสสนาของมหาโชดกนั้น เป็นอย่างไร

นั่นแสดงว่า "การเดินไปเดินมา ภาวนาพองยุบ" ก็เป็นเพียงสมถะกรรมฐานเท่านั้น   ก็มหาโชดกอธิบายไว้ในหนังสือของท่านเอง

นี่คือหลักฐานชัดเจนว่า  ตั้งแต่มหาโชดกไปเรียนที่พม่ามา  ความรู้ไม่ได้พัฒนาขึ้น

ความรู้ของมหาโชดกกลับกลายเป็น "งง-มั่ว-ไม่เข้าใจ"

คนทีมีความรู้อย่างนี้นี่นะหรือ ที่จะไปสอนหลวงพ่อวัดปากน้ำได้  

การที่มหาโชดกอ้างตัวว่าเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็คือ "การโกหกคำโต" เท่านั้น