ได้ทำประกันแบบชดเชยรายวันกับ บริษัทซิกน่า ประกันภัย แต่ได้ทำผ่านโบรกเกอร์ เทสโก้ โลตัส ค่ะ ในวันที่เขียนใบคำขอ ตัวเองได้กรอกแต่เลขบัตรประจำตัวประชาชน นอกนั้นโบรกเกอร์อำนวยความสะดวก กรอกรายละเอียดให้ทั้งหมด แต่ยังไม่ได้สอบถามประวัติสุขภาพแต่อย่างใด แล้วส่งเอกสารมาให้เราเซ็นต์ เราก็คิดแต่ว่าไม่น่าจะมีคำถามอะไรที่แปลก และไม่มีข้อมูลอะไรที่จะต้องปกปิดเพราะตัวเองไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรง หรือโรคเรื้อรังอะไร ซึ่งโดยปกติคำถามในใบคำขอเอาประกันก็จะไม่พ้นคำถามเรื่องโรค ก็เลยไม่ได้อ่าน(ขาดความรอบคอบไปนิดค่ะ) แล้วโบรกเกอร์ก็เอาเอกสารไปเช็คประวัติเอง ซึ่งตัวเองได้อ่านคำถามในใบคำขอที่ก่อปัญหาก็ในวันที่เกิดเรื่อง คือ บริษัทบอกล้างสัญญาและเรียกคืนเงินสินไหมที่ได้จ่ายมาให้แล้วก่อนหน้านี้คืน โดยแจ้งเป็นหนังสือบอกมาว่า มีข้อบ่งชี้ว่าปกปิดสาระอันเป็นสำคัญในการขอทำประกัน ซึ่งคำถามเจ้าปัญหามีอยู่ว่า ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ท่านเคยเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ฯลฯ หรือไม่ ถ้าได้อ่านสักนิดคงจะไม่เกิดปัญหา และคิดว่าตัวเองไม่มีเหตุที่จะต้องปกปิดข้อมูลเพราะว่าตัวเองนั้นได้รักษาที่โรงพยาบาลเอกชนตลอด ซึ่งถ้าคิดจะปกปิดข้อมูลจริงก็ไม่ยากต่อการที่บริษัทจะตรวจสอบประวัติย้อนหลัง หรือไม่ก็คงจะเข้าไปรักษาที่โรงพยาลของรัฐประจำจังหวัด เพราะไม่เคยมีประวัติการรักษาที่นั่น อาจเป็นเพราะที่ตัวเราไม่รอบคอบและด้วยความเชื่อถือโบรกเกอร์ซึ่งจะต้องมีหน้าที่ชี้แจงและซักประวัติผู้เอาประกันก่อน (ไม่คิดว่าจะมีคำถามแบบนี้ในใบคำขอเอาประกันแบบชดเชยรายได้) หรือถ้าจะมองในอีกมุมหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่ากลัวไม่ได้ขายจึงต้องใช้วิธีอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าโดยการกรอกรายละเอียดให้ลูกค้าทั้งหมด แล้วให้ลูกค้าเซ็นต์อย่างเดียว แล้วจึงค่อยมาเช็คประวัติหรือแบบสอบถามสุขภาพทีหลัง ตอนนี้เลยยังไม่รู้ว่าจะดำเนินอย่างไรต่อ จึงนำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนเพื่อเป็นข้อควรระมัดระวังในการทำสัญญาใดๆ (หรือถ้าจะมองอีกมุมหนึ่งว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่บริษัทกับโบรกเกอร์รู้กันหรือว่าเป็นความตั้งใจของโบรกเกอร์ที่อยากจะขายอย่างเดียวโดยที่ไม่มองว่าจะเกิดผลเสียต่อผู้เอาประกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันก็คล้ายๆกัน คือ ถ้ากรมธรรม์ใหนมีเหตุต้องจ่ายค่าสินไหมเยอะก็หาเหตุยกเลิก แต่ถ้ากรมธรรม์ใหนไม่เคยเรียกร้องค่าสินไหมเลยก็แล้วไป ก็กินเปล่าเบี้ยประกันไปตลอดทั้งปี) พอเกิดปัญหาแบบนี้ก็อยากจะยกเลิกกรมธรรม์ที่เหลือแต่บริษัทดันบอกว่าถ้ากรมธรรม์ใหนที่ได้เรียกร้องค่าสินไหมไปแล้วไม่มีสิทธิบอกยกเลิกกรรธรรม์ เออนะเอากะมันสิ มีงี้ด้วยอ่ะ มันไม่พอใจเรามันบอกล้างสัญญาเราได้ แต่ถ้าเราไม่พอใจมันเราขอยกเลิกไม่ได้อีก ??? (ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ใครที่เคยเจอปัญหาแบบนี้หรือมีข้อมูลชี้แนะรบกวนแลกเปลี่ยนข้อมูลกันค่ะ ขอบคุณค่ะ
บริษัทบอกล้างสัญญาพร้อมกับเรียกคืนเงินสินไหม ควรทำอย่างไร (แบบคำขอเจ้าปัญหา)