กระดังงาลนไฟ บทที่1 คนใหม่...ที่ยังไม่ใช่ในเวลานี้

กระทู้สนทนา
กระดังงาลนไฟ

แม้เธอจะผ่านผู้ชายร้อยคน แต่ฉันจะทนรักษาหัวใจเธอ


บทที่1 คนใหม่...ที่ยังไม่ใช่ในเวาลนี้


            กินรีลุกขึ้นยืนแล้วมองไปยังโกศของชาติชาย น้ำตาไหลไปทาง เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาจากกระเป๋าใบงานแล้วซับลงตรงใบหน้าของตนเอง กินรีหันหลังกลับมาแต่ไม่ทันสังเกต เกิดพลาดชนกับผู้ชายคนหนึ่งแล้วล้มขมัมลงกับพื้น

            "ขอโทษครับคุณ........."   ชายหนุ่มหยุดนิ่งไปซักพักแล้วเอยชื่อของกินรีขึ้นมา  "อ้าวริน" กินรีทำหน้าสงใสเล็กน้อยแล้วเอยชื่อของชายหนุ่มที่กำลังพยุงตนเองอยู่

            "อ้าวกรนั่นเอง"  'กรวิชญ์' เพื่อนของกินรีตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน ทั้งสองไม่ได้สนิทกันมากเท่าไหร่ แต่ก็เคยได้ทำความรู้จักกันบ้างเป็นบางครั้ง  กรวิชญ์ดึงตัวของกินรีขึ้นมาแล้วพยุงพาไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วไถ่ถามด้วยความที่ว่าไม่ได้เจอกันนาน

            "นั่งก่อนนะริน เป็นยังไงบ้างรินไม่ได้เจอกันซะนาน"  

            "ก็ตามที่เห็นนี้แหละ กำลังทำใจเรื่องชายอยู่ แล้วก็เรื่องธุรกิจจิวเวลรี่ของคุณพ่อที่ต้องดูแล เลยไม่มีเวลาซักเท่าไหร่ ว่าแต่นายกลับมาจากสวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่ได้ยินข่าวบ้างเลย"  กินรีเล่าเรื่องราวต่างๆให้กรวิชญ์ฟังพร้อมกับเอยถามชายหนุ่มกลับไป

            "ฉันก็กลับมาจากสวิตได้ซักสองสามอาทิตย์แล้วแหละ ก็เลยว่าจะมาหาไอ้ชายมันหน่อย เรื่องไอ้ชายฉันเสียใจด้วยนะ เธอคงทำงานหนักมากสิท่า ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะ"   กรวิชญ์ตอบคำถามกินรีแล้วเล่าเหตุผลที่ตนเองกลับมาเมืองไทย พร้อมกับเอยเตือนกินรีด้วยความเป็นห่วง

            "ขอบใจมากนะกร ฉันก็ไม่รู้ว่าจะฝืนตัวเองได้อีกนานเท่าไหร่ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ สิ่งที่ฉันต้องรับผิดชอบมันก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของตัวเองทั้งนั้นเลย"  กินรีกล่าวขอบคุณกรวิชญ์ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าต้องไปหาคุณแม่ที่ร้านสปาก็รีบขอตัวกลับทันที "ฉันลืมไปว่ามีนัดกับคุณแม่ไว้ที่ร้านสปา ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ แล้วค่อยเจอกันนะกร"  กินรีกล่าวลาเพื่อนชาย แล้วลุกขึ้นกำลังจะเดินไปเรียกรถแท็กซี่ แต่ทันใดนั้นกรวิชญ์ก็ยื่นมือไปคว้าแขนของกินรีเอาไว้

            "เดี่ยวก่อนสิริน"   กินรีหันกลับมามองหน้าของกรวิชญ์แล้วก้มลงมองที่มือของตนเองที่ในตอนนี้ชายหนุ่มกำลังกุมไว้อยู่  "คือ..ให้ฉันไปส่งได้มั้ย เราจะได้คุยกันไปด้วยไง"  กรวิชญ์บ่ายเบี่ยงประเด็นไปเป็นการพูดคุย แต่ใครจะรู้ละว่าเค้าเองก็เคยมีใจให้กับกินรีตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน แต่เค้าก็ไม่สามารถที่จะทำลายจิตใจเพื่อนรักอย่างชาติชายได้ เค้าจึงตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกินรีอีกถึงแม้นมันจะยากเย็นแสนเข็ญก็ตาม  

            "ก็ได้"  กินรีตอบตกลง

            "ถ้าอย่างนั้นก็ เชิญเสด็จเลยครับองค์หญิง เดี่ยวข้ากระหม่อมจะคอยระวังภัยอันตรายให้เองขอรับ"  กรวิชญ์ทำเสียงให้เหมือนกับองค์รักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงเพราะเค้าไม่อยากเห็นคนที่ 'เค้ารัก' ต้องเศร้าหมอง เพราะในเวลานี้เค้าได้ตกหลุมรักกินรีเข้าอีกครั้ง เค้าไม่รู้หรอกว่ามันเป็นไปได้ยังไงเค้ารู้เพียงว่าเมื่อไหร่ที่เค้าได้มองหน้าของกินรีมันเหมือนมีมนต์สะกดที่ทำให้เค้าเคลิบเคลิ้มและมีความสุขไปในเวลาเดียวกัน

>>>>>>>>>>>>>>>>>>


             "ถึงแล้ว"  เสียงของกรวิชญ์ดังขึ้นอีกครั้งหลังจากหยุดเงียบไปซักพัก

            "ขอบใจมากนะกร แล้ววันหลังเจอกันนะ"  กินรีกล่าวขอบคุณกรวิชญ์ที่ขับรถมาส่ง พร้อมกับบอกลา

            "เดี่ยวสิริน"  กินรีหันหน้ากลับมาแล้วเอยถามกลับไป พร้อมกับยิ้มให้อย่างมีไมตรีและนั้นยิ่งทำให้กรวิชญ์ตกหลุมรักเธอมากขึ้น

            "มีอะไรหรอกร"

            "คือ...ฉันขอเบอร์โทรศัพท์เธอหน่อยได้มั้ย จะได้โทรปรึกษาเรื่องต่างกันบ้างไง"  กรวิชญ์พยายามรวบรวมความกล้าของตนเองแล้วเอ่ยปากขอเบอร์โทรของกินรี

            "ได้สิ เอาโทรศัพท์มาเดี่ยวกดเบอร์ให้"  กินรีรับโทรศัพท์มาจากกรวิชญ์แล้วกดเบอร์ของตนเองลงไปแล้วส่งคืนเจ้าของพร้อมกับโบกมือลาชายหนุ่มแล้วรีบวิ่งเข้าร้านสปาไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รอรับคำขอบคุณและคำลาของกรวิชญ์เลย

             เหตุที่เธอทำเช่นนั้นเพราะเธอรู้ว่าในเวลานี้กรวิชญ์กำลังคิดยังไงกับเธออยู่ และเธอก็ให้สัญญากับชาติชายไว้แล้วว่าจะไม่รักใครอีกนอกจากเค้าคนเดียว

              

                    http://ppantip.com/topic/31833803  กระดังงาลนไฟ บทนำ ความเสียใจที่ไม่อาจลืมเลือน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่