คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
เอ่อ ...ยังไม่ได้เล่าเรื่องที่ก่อไว้น่ะครับ
ผมคิดวนไปวนมาเรื่องพวกนี้จนมาวันนี้ ผมไปขอกุญแจล็อคประตูธนาคาร
(หน้าที่อีกอย่างนึงคือยามต้องปิดประตูกุญแจ ตอนธนาคารเลิก แล้วคอยไขเปิดประตูให้ลูกค้าที่ทำธุรกรรมค้างอยู่ในธนาคารกลับออกไป)
พอผมไปขอกุญแจ ผจก.ไม่มองหน้า หยิบกุญแจแล้วทำเหมือนเขวี้ยงลงโต๊ะมาทางผม ซึ่งผมคิดว่ากิริยาอย่างนี้ มันเหมือนไม่ให้เกียรติคนอื่น ผมเองก็ไม่เคยทำแบบนี้กับคนอื่นนอกจากหมาที่บ้าน ผมเลยอารมณ์ขึ้นมาก แต่ก็ยืนรอว่าจะให้ลูกค้าคนสุดท้ายกลับซะก่อน แล้วจะคุยกับเค้าว่าจะเอายังไง ก็ยืนรอไปเกือบครึ่งชั่วโมง เค้าถึงทำเหมือนสงสัยว่าผมกลับไปรึยัง เดินออกมาบอกให้ผมกลับได้เลย(คือผมไม่ได้สังเกตลูกค้าเลย ได้ยินเค้าคุยกันไกลๆเรื่องกู้ๆดอกๆอะไรกับพวกพนง. มารู้ทีหลังว่าลูกค้าคนนั้นน่าจะเป็นสามีของพนง.ในนั้น และมารอแฟนกลับไปด้วย) พอผมถูกปฎิบัติเหมือนกับไม่มีตัวตนยังงี้ยิ่งขึ้นเลย คือมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะทิ้งลูกค้าเอาไว้และกลับออกไปเพราะปกติถ้าผมจะกลับ ผมจะบอกเสมอ ผมรีบวิ่งออกไปข้างนอก แบบไม่ไหวแล้ว จะไปสงบสติอารมณ์ อยากจะกลับบ้านสุดๆ แต่ใจนึงก็แค้นมาก ความรู้สึกมันตีกันมั่วไปหมด สุดท้ายผมวิ่งกลับไป กะจะเอาอิฐบล็อคทุบประตูธนาคาร
ผมคิดวนไปวนมาเรื่องพวกนี้จนมาวันนี้ ผมไปขอกุญแจล็อคประตูธนาคาร
(หน้าที่อีกอย่างนึงคือยามต้องปิดประตูกุญแจ ตอนธนาคารเลิก แล้วคอยไขเปิดประตูให้ลูกค้าที่ทำธุรกรรมค้างอยู่ในธนาคารกลับออกไป)
พอผมไปขอกุญแจ ผจก.ไม่มองหน้า หยิบกุญแจแล้วทำเหมือนเขวี้ยงลงโต๊ะมาทางผม ซึ่งผมคิดว่ากิริยาอย่างนี้ มันเหมือนไม่ให้เกียรติคนอื่น ผมเองก็ไม่เคยทำแบบนี้กับคนอื่นนอกจากหมาที่บ้าน ผมเลยอารมณ์ขึ้นมาก แต่ก็ยืนรอว่าจะให้ลูกค้าคนสุดท้ายกลับซะก่อน แล้วจะคุยกับเค้าว่าจะเอายังไง ก็ยืนรอไปเกือบครึ่งชั่วโมง เค้าถึงทำเหมือนสงสัยว่าผมกลับไปรึยัง เดินออกมาบอกให้ผมกลับได้เลย(คือผมไม่ได้สังเกตลูกค้าเลย ได้ยินเค้าคุยกันไกลๆเรื่องกู้ๆดอกๆอะไรกับพวกพนง. มารู้ทีหลังว่าลูกค้าคนนั้นน่าจะเป็นสามีของพนง.ในนั้น และมารอแฟนกลับไปด้วย) พอผมถูกปฎิบัติเหมือนกับไม่มีตัวตนยังงี้ยิ่งขึ้นเลย คือมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะทิ้งลูกค้าเอาไว้และกลับออกไปเพราะปกติถ้าผมจะกลับ ผมจะบอกเสมอ ผมรีบวิ่งออกไปข้างนอก แบบไม่ไหวแล้ว จะไปสงบสติอารมณ์ อยากจะกลับบ้านสุดๆ แต่ใจนึงก็แค้นมาก ความรู้สึกมันตีกันมั่วไปหมด สุดท้ายผมวิ่งกลับไป กะจะเอาอิฐบล็อคทุบประตูธนาคาร
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 35
คุณจขกทคะ เราเข้าใจคุณนะคะ คุณเก่งมากๆแล้วค่ะที่ทำงานได้ พยายามที่จะช่วยแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ ควบคุมอารมย์ให้ได้ต่อไปนะคะ
เสียงคนอื่นๆ ไม่ต้องฟังมากค่ะ เสียงนกเสียงกาน่ะค่ะ พยายามอย่าดูถูกตัวเองเป็นพอค่ะ คิดบวกต่อตนเองเยอะๆค่ะ
ขอยกตัวอย่างตัวเราเองนะคะ เราไม่สวย อ้วน เตี้ย ไม่เก่ง หัวไม่ดี อันนี้เรารู้ตัวตลอด แต่เราไม่เคยเอาสิ่งเหล่านี้มาบันทอนชีวิตลยค่ะ
ตั้งแต่ตื่นเช้าเลยค่ะ ขอบคุณร่างกายที่แข็งแรง ที่ทำให้ฉันตื่นมาได้อีกครั้ง
ลุกไปปิดแอร์ ทำไมฉันโชคดีอย่างนี้ได้นอนแอร์ด้วย ขณะที่อีกหลายๆคนนอนพัดลม หรือบางคนไม่มีที่นอน
อาบน้ำอุ่น นี่ฉันได้อาบน้ำอุ่น ช่างสบายตัวเยี่ยงนี้
แต่งตัวเสร็จ ทำไมวันนี้ฉันสวยกว่าทุกวัน เหมือนดาราขึ้นทุกวันเลยนะเรา
ทานข้าว อร่อยจัง คุณพ่อคุณแม่ คุณพี่ ครอบครัวอยู่ครบ ทำไมฉันเป็นคน ช่างโชคดีเช่นนี้
ขับรถไปทำงาน ฉันขับรถเก่งจัง แอบปาดได้ด้วย อิอิ
เรียกว่าตัวเองทำอะไรก็ตามเป็นข้อดีหมดค่ะ มีความสุขกับชีวิตมากๆ ทั้งๆที่บางครั้งปล้ําๆ เป๋อๆ ยังแอบคิดเลย นี่ฉันเป็นนางเอกป่ะเนี่ย ทำไมทำตัวน่ารักเยี่ยงนี้
การคิดมีผลกับชีวิตมากนะคะ คิดบวกจะดึงดูดสิ่งที่บวกๆเข้ามาหาเราค่ะ
ถ้าคราวต่อไปคุณได้ยินเสียงนินทา ให้คิดเลยคนนินทากำลังเม้าท์เรื่องความหล่อของคุณอยู่ นี่แหละทำไงได้เกิดมาหน้าตาดีอ่ะ
คนที่โดนกุญแจใส่คุณ โธ่ อิจฉาคุณอ่ะเด่ หล่อกว่าหนุ่มกว่า
เค้าให้คุณไม่ต้องค่อยปิดประตู ดีจะตาย ไม่ต้องทำงานเพิ่ม แมร่งสบายฮิปๆ
พยายามคิดให้ตัวเองมีความสุขนะคะ สู้ สู้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
เสียงคนอื่นๆ ไม่ต้องฟังมากค่ะ เสียงนกเสียงกาน่ะค่ะ พยายามอย่าดูถูกตัวเองเป็นพอค่ะ คิดบวกต่อตนเองเยอะๆค่ะ
ขอยกตัวอย่างตัวเราเองนะคะ เราไม่สวย อ้วน เตี้ย ไม่เก่ง หัวไม่ดี อันนี้เรารู้ตัวตลอด แต่เราไม่เคยเอาสิ่งเหล่านี้มาบันทอนชีวิตลยค่ะ
ตั้งแต่ตื่นเช้าเลยค่ะ ขอบคุณร่างกายที่แข็งแรง ที่ทำให้ฉันตื่นมาได้อีกครั้ง
ลุกไปปิดแอร์ ทำไมฉันโชคดีอย่างนี้ได้นอนแอร์ด้วย ขณะที่อีกหลายๆคนนอนพัดลม หรือบางคนไม่มีที่นอน
อาบน้ำอุ่น นี่ฉันได้อาบน้ำอุ่น ช่างสบายตัวเยี่ยงนี้
แต่งตัวเสร็จ ทำไมวันนี้ฉันสวยกว่าทุกวัน เหมือนดาราขึ้นทุกวันเลยนะเรา
ทานข้าว อร่อยจัง คุณพ่อคุณแม่ คุณพี่ ครอบครัวอยู่ครบ ทำไมฉันเป็นคน ช่างโชคดีเช่นนี้
ขับรถไปทำงาน ฉันขับรถเก่งจัง แอบปาดได้ด้วย อิอิ
เรียกว่าตัวเองทำอะไรก็ตามเป็นข้อดีหมดค่ะ มีความสุขกับชีวิตมากๆ ทั้งๆที่บางครั้งปล้ําๆ เป๋อๆ ยังแอบคิดเลย นี่ฉันเป็นนางเอกป่ะเนี่ย ทำไมทำตัวน่ารักเยี่ยงนี้
การคิดมีผลกับชีวิตมากนะคะ คิดบวกจะดึงดูดสิ่งที่บวกๆเข้ามาหาเราค่ะ
ถ้าคราวต่อไปคุณได้ยินเสียงนินทา ให้คิดเลยคนนินทากำลังเม้าท์เรื่องความหล่อของคุณอยู่ นี่แหละทำไงได้เกิดมาหน้าตาดีอ่ะ
คนที่โดนกุญแจใส่คุณ โธ่ อิจฉาคุณอ่ะเด่ หล่อกว่าหนุ่มกว่า
เค้าให้คุณไม่ต้องค่อยปิดประตู ดีจะตาย ไม่ต้องทำงานเพิ่ม แมร่งสบายฮิปๆ
พยายามคิดให้ตัวเองมีความสุขนะคะ สู้ สู้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ความคิดเห็นที่ 12
เฮียเองก็มีปัญหาทางสมองเป็นโรคเงิบๆเหมือนกันครับ
สมัยทำงานก็มีปัญหาคล้ายๆกันคือทำอะไรต๊องๆจนคนดูถูก
ขนาดตอนเรียนมหาลัยลืมวันสอบก็เคย
อยากจะบอกว่าอย่าดูถูกตัวเองครับ
คนเราขาดอะไรก็มักมีอะไร้กินคนอื่นแฝงอยู่
จงหามันให้เจอและใช้สิ่งนั้นให้ได้เปรียบครับ
เรื่องคนอื่นรังเกลียดเราไม่ต้องสนใจมันหรอกครับ
มันก็แค่พวกมนุษย์ธรรมดาๆที่น่าเบื่อ
แนะนำให้ฝึกสมาธิทุกเช้าก่อนเข้างานดูครับ
พวกเราต้องใช้สมาธิมากหน่อยก็แค่นั้น
เชื่อเฮียแล้วจะดีเอง
รักและหวังดี,
สมัยทำงานก็มีปัญหาคล้ายๆกันคือทำอะไรต๊องๆจนคนดูถูก
ขนาดตอนเรียนมหาลัยลืมวันสอบก็เคย
อยากจะบอกว่าอย่าดูถูกตัวเองครับ
คนเราขาดอะไรก็มักมีอะไร้กินคนอื่นแฝงอยู่
จงหามันให้เจอและใช้สิ่งนั้นให้ได้เปรียบครับ
เรื่องคนอื่นรังเกลียดเราไม่ต้องสนใจมันหรอกครับ
มันก็แค่พวกมนุษย์ธรรมดาๆที่น่าเบื่อ
แนะนำให้ฝึกสมาธิทุกเช้าก่อนเข้างานดูครับ
พวกเราต้องใช้สมาธิมากหน่อยก็แค่นั้น
เชื่อเฮียแล้วจะดีเอง
รักและหวังดี,
ความคิดเห็นที่ 19
มาอ่านครั้งที่ 2
เราว่าสิ่งที่คุณเจอนั้นเรื่องเล็กน้อยมาก ใครก็เคยเจอ เพื่อนร่วมงานแย่ๆน่ะ เราบอกแล้วคนเรามันร้อยพ่อพันแม่นิสัยไม่เหมือนกัน
เขาทำแบบนั้นอาจทำโดยไม่คิดอะไรเลยก็ได้แต่คุณเก็บมาคิดมาเป็นอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจ
เราว่าปัญหาคุณคือคุณผิดหวังในตัวเอง มองว่าตัวเองเรียนไม่จบไม่ประสบความสำเร็จ
คุณทำอาชีพที่คุณคิดว่าต่ำต้อยด้อยค่า คุณไม่พอใจในทางที่ตัวเองเลือก แต่ทำเพราะไม่อยากให้คนมองว่าไร้ค่า
คุณเครียดเหมือนภูเขาไฟที่รอการประทุ อะไรมากระทบคุณจะเก็บเป็นอารมณ์เสมอ คุณไม่ผ่านไม่ปล่อยวาง
คิดว่าคนที่ทำงานดูถูกในพฤติกรรมของคุณ ด้วยวาจาและการกระทำ
รู้มั้ยถ้าเพียงแต่ คุณคิดว่าอาชีพยามคืออาชีพที่ดีและน่ายกย่องเช่นกัน เป็นอาชีพสุจริตไม่ใช่อาชีพต่ำต้อย คุณจะโอเคกว่านี้
ไม่มีใครมองว่าคุณไร้ค่านอกจากตัวคุณเอง
ไม่มีใครดูถูกคุณได้ถ้าเพียงแต่คุณทำตัวเข้มแข็งให้ใครดูถูกไม่ได้
เป็นยามก็เป็นยาม ยามที่มีเกียรติ ประตูด่านแรกของคนที่มาใช้บริการธนาคาร
เราเจอยามหน้าธนาคาร เรามองเขาด้วยความนับถือในอาชีพ ชื่นชมเหมือนมองอาชีพอื่นๆในสังคม
ทุกคนมีคุณค่า อะไรต่างๆที่เกี่ยวกับอารมณ์กระทบกระทั่งกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้า ปล่อยวางและให้อภัยเขา
เขาทำไปเพราะไม่รู้ว่าคุณมีปัญหาอะไรเท่านั้นเองค่ะ
ให้อภัยตัวเองนะคะ อย่าร้องไห้ สิ่งที่มันผิดพลาดไปแล้วก็แค่จำไว้เป็นบทเรียน ...
อย่างหนึ่งคือเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ และเปิดเผยบอกเล่าปัญหาตัวเองให้คนอื่นรับรู้บ้างจะได้สบายใจนะคะ
เป็นกำลังใจให้ผ่าน พรุ่งนี้ไปทำงานด้วยความสดชื่น
เราว่าสิ่งที่คุณเจอนั้นเรื่องเล็กน้อยมาก ใครก็เคยเจอ เพื่อนร่วมงานแย่ๆน่ะ เราบอกแล้วคนเรามันร้อยพ่อพันแม่นิสัยไม่เหมือนกัน
เขาทำแบบนั้นอาจทำโดยไม่คิดอะไรเลยก็ได้แต่คุณเก็บมาคิดมาเป็นอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจ
เราว่าปัญหาคุณคือคุณผิดหวังในตัวเอง มองว่าตัวเองเรียนไม่จบไม่ประสบความสำเร็จ
คุณทำอาชีพที่คุณคิดว่าต่ำต้อยด้อยค่า คุณไม่พอใจในทางที่ตัวเองเลือก แต่ทำเพราะไม่อยากให้คนมองว่าไร้ค่า
คุณเครียดเหมือนภูเขาไฟที่รอการประทุ อะไรมากระทบคุณจะเก็บเป็นอารมณ์เสมอ คุณไม่ผ่านไม่ปล่อยวาง
คิดว่าคนที่ทำงานดูถูกในพฤติกรรมของคุณ ด้วยวาจาและการกระทำ
รู้มั้ยถ้าเพียงแต่ คุณคิดว่าอาชีพยามคืออาชีพที่ดีและน่ายกย่องเช่นกัน เป็นอาชีพสุจริตไม่ใช่อาชีพต่ำต้อย คุณจะโอเคกว่านี้
ไม่มีใครมองว่าคุณไร้ค่านอกจากตัวคุณเอง
ไม่มีใครดูถูกคุณได้ถ้าเพียงแต่คุณทำตัวเข้มแข็งให้ใครดูถูกไม่ได้
เป็นยามก็เป็นยาม ยามที่มีเกียรติ ประตูด่านแรกของคนที่มาใช้บริการธนาคาร
เราเจอยามหน้าธนาคาร เรามองเขาด้วยความนับถือในอาชีพ ชื่นชมเหมือนมองอาชีพอื่นๆในสังคม
ทุกคนมีคุณค่า อะไรต่างๆที่เกี่ยวกับอารมณ์กระทบกระทั่งกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้า ปล่อยวางและให้อภัยเขา
เขาทำไปเพราะไม่รู้ว่าคุณมีปัญหาอะไรเท่านั้นเองค่ะ
ให้อภัยตัวเองนะคะ อย่าร้องไห้ สิ่งที่มันผิดพลาดไปแล้วก็แค่จำไว้เป็นบทเรียน ...
อย่างหนึ่งคือเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ และเปิดเผยบอกเล่าปัญหาตัวเองให้คนอื่นรับรู้บ้างจะได้สบายใจนะคะ
เป็นกำลังใจให้ผ่าน พรุ่งนี้ไปทำงานด้วยความสดชื่น
แสดงความคิดเห็น
เครียด ไม่รู้จะทำยังไง ก่อเรื่องทำให้พ่อแม่เสียใจอีกแล้ว
จนผมตัดสินใจจะลองทำงาน ฝึกความอดทนของตัวเอง เลยคิดที่จะสมัครงาน ผมสมัครงานเป็นยามธนาคารแห่งนึง ทั้งๆที่พ่อกับแม่ก็ห้ามและไม่อยากให้ทำ ซึ่งผมก็รู้ว่าเค้าอายเพื่อน ญาติพ่อแม่พี่น้อง ถ้าจะให้ใครรู้ว่าลูกเป็นยาม และที่สำคัญ เค้ากลัวผมจะไปมีปัญหากับคนในที่ทำงาน แต่ผมก็ฝืนด้วยทิฐิของตนเอง จะทำให้ได้ เพราะอยากให้คนยอมรับในตัวเอง ไม่อยากให้ใครมองว่าตัวเราเกาะพ่อแม่กิน และคิดว่าชีวิตเราควรจะเริ่มเดินไปทางใดทางนึงซักที ถ้าผมสามารถทนเป็นยามได้ซัก6-7เดือน ผมน่าจะมีความมั่นใจพอที่จะกลับไปเรียนรามให้จบ แล้วไปสอบเป็นครู
แต่สิ่งที่พ่อแม่ผมกังวลก็เป็นจริง
ผมทำงานครั้งแรกก็เครียดเลย กังวลทั้งกับสายตาของคนที่ขายของรอบๆธนาคาร ทั้งคนในธนาคาร และรู้ว่าตัวเองทำอะไรไม่เป็นเลยเมื่อออกมาสู่โลกภายนอก ทำงานวันแรกก็ทำผิดๆถูกๆ ปล่อยคนเข้าไปในธนาคารทั้งๆที่เพิ่งเป็นวันเปิดทำการวันแรก เรื่องง่ายๆก็ไม่รู้ บางทีก็ลืมล็อคประตูธนาคารตอนธนาคารปิดแล้ว มันผิดกับที่ตัวเองคิด ผมคิดว่ามันเป็นงานที่ง่ายๆแค่เปิด-ปิดประตู ใครๆก็ทำได้ ขนาดคนเรียนจบแค่ป.6ยังทำได้ แล้วเราเองเคยเรียนตั้งมหาลัยทำไมจะทำไม่ได้ แต่พอตัวเองมาทำจริงๆกลับทำพลาดง่ายๆ เพราะผมไม่ค่อยได้ปฎิสัมพันธ์กับผู้คน และเป็นคนที่ค่อนข้างช้า ทื่อเอามากๆ ด้วยสาเหตุจากโรคที่ผมเล่าตอนต้น อีกทั้งตัวเองไม่มีความมั่นใจเอามากๆ ข้อมูลง่ายๆเช่นการใช้บัตรเอทีเอ็มก็ไม่กล้าสอนลูกค้า(เพราะตัวเองก็ไม่เคยใช้) ยิ่งผิด ยิ่งพลาดเข้าตัวเองก็รู้สึกว่าทำประโยชน์ให้กับธนาคารไม่ได้เลยนอกจากยืนเปิด-ปิดประตู ผมเลยคิดที่จะทำอย่างอื่นแทน เพราะคิดว่าจะชดเชยความด้อย และอยากทำประโยชน์ให้ธนาคารบ้าง แต่ก็เหมือนอยู่ผิดที่ผิดทาง ทำอะไรก็โดนผจก.เตือนตลอด
และที่ทำให้ผมคิดมากที่สุดคือ หลังธนาคารเลิก ธนาคารจะต้องทำการเคลียร์บัญชี และเอาเงินลงตู้(จะตู้บ้าอะไรก็ช่างมันเถอะ ผมก็ไม่รู้) ซึ่งยามจะต้องคอยจนกว่าจะทำสิ่งนี้เสร็จ แล้วจึงจะกลับได้ หรือบางที่อาจจะให้ยามรอล็อคประตูกลับพร้อมกับพนักงานเลย ซึ่งเค้าไม่ให้ผมทำหน้าที่นี้ ทำให้ผมคิดว่ามันเป็นการดูถูกผมมากๆ เหมือนกับไม่อยากจะให้ผมอยู่ พอเลิกงานเสร็จปุ๊บก็จะทำเป็นคุยกับพนง.คนอื่น(ในธนาคารผมจะมีประมาณ5คน) เหมือนว่าผมอยู่ไปก็เกะกะ พูดกระแนะกระแหน ซึ่งผมก็รู้ว่าอยู่เฝ้าไปผมก็คงช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าเกิดเหตุ แต่ด้วยความที่เค้าเป็นผู้ใหญ่ ถึงผมจะทำอะไรไม่เป็นเลยเค้าก็น่าจะให้เกียรติผมบ้าง อย่างน้อยก็ให้เอาเงินลงตู้ก่อนแล้วค่อยให้ผมกลับก็ยังดี มันทำให้ผมคิดมากจนเครียด แค่อาทิตย์แรก ผมก็ต้องไปหาหมอจิตเวชถึง2ครั้ง