การปฏิบัติตามซุนนะห์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งอื่นใดนอกจากอัลกุรอานเท่านั้นในการเป็นมุสลิมผู้ศรัทธา

กระทู้สนทนา
เราลองนึกภาพของคนสมัยก่อนที่นั่งมอง หินกลิ้งตกจากเนินเขา เขาสังเกตุว่าหินที่ตกไปได้ไกลและกลิ้งได้ไกลที่สุดคือ หินก้อนที่ไม่มีเหลี่ยม ก้อนหินยิ่งกลมเท่าใดก็ยิ่งกลิ้งไปไกลมากขึ้น เขาก็เกิดความคิดในการ สร้างลูกล้อทรงกลมขึ้นมาได้ และยังคงใช้มาอยู่จนถึงทุกๆวันนี้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะทรงกลมเป็นอย่างอื่น ความรู้ในเรื่องนี้ได้ตกทอดมาถึงคนรุ่นหลังๆได้ด้วยการสร้างและทำตัวอย่างให้ดูกันต่อๆลงมาจนถึงลูกหลาน และลูกล้อวงกลมนี้ยังคงอยู่กับสังคมมนุษย์ ตลอดไปอีกนานแสนนาน

   บางท่านคงได้ยินหรือเรียนรู้เกี่ยวกับ ชา่ง ฝีมือ ทางการแกะสลัก ไม้ หรือผลไม่ที่ทำอาชีพเช่นนี้มาเป็นรุ่นๆ เป็นเวลานับเป็นร้อยๆปี  ถ่ายทอดงานช่างฝีมือไปจนชั่วลูกชั่วหลานโดยไม่ต้องเข้าโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย, ที่เห็นได้ง่ายคือ ช่างแกะสลักและช่างกลึงเหล็ก    ได้มีโอกาสเข้าไปชมโรงงานทำสิ่งแกะสลัก ที่เชียงใหม่ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ที่ช่างแกะสลัก ยังใช้ สิ่ว กับฆ้อนเท่านั้น แกะลายไทย ทั้งโต๊ะอาหาร ขนาด 8 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้,โดยปราศจาก ตัวอย่างรูปแบบให้ดูในขณะที่แกะสลัก, ทุกอย่างออกมาจากหัวและความขำนาญ ที่ได้รับตกทอดมาจาก รุ่นปู่ย่าตายาย จากคำบอกเล่าของเขา  

  ผมนั่งคุยกับหมอหนุ่มชาวเกาหลีผู้หนึ่ง DR. Sims เป็นหมอออกลูก (OBGYN) เขาเล่าให้ฟังว่า เขาฝึกหัดการทำคลอด มาตั้งแต่ อยู่โรงเรียนมัธยม ช่วยพ่อของเขาที่เป็นหมอเช่นกัน โดยทำตามการสอนและตัวอย่างที่พ่อเขาบอก เขาโม้ต่อไปว่า เรื่องทำคลอดเขาสามารถหลับตาทำได้ ไม่มีอะไรยากเย็น

อีกอย่างหนึ่งก็คือ นาฏศิลป์ การรำไทยและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฝึกหัด นาฏศิลป์โขน จากอาจารย์ผู้แสดงโขนมาจากรุ่นหนึ่งมายังอีกรุ่นหนึ่งเป็นการฝึกตัวต่อตัว  ท่าทางลิง,ท่าทางหนุมาน, ยักษ์ทศกัณฐ์ ลักษณะและบุคลิกของตัวโขนเหล่านี้ มองดูยากมากสำหรับ ผู้ที่ไม่เคยฝึกหัด หรือเรียนตามผู้ที่ทำตัวอย่างให้ดูมาก่อน แต่อย่างไรก็ตามศิลปะและ นาฏศิลป์ ต่างของไทยเราตกถ่ายทอดมาชั่วลูกชั่วหลานนั้บเป็นร้อยๆปีด้วย การสอนต่อๆกันมาจากภายในครอบครัว และในปัจจุบันก็ต้องเรียนตามอาจารย์ ที่เป้นผู้ฝึกหัดทำท่าทางให้ดู ซ้ำแล้วซ้ำอีก

   งานฝีมือศิลปะเหล่านี้ไม่มีทางที่จะสูญไปได้จากประเพณีของไทยเรา เนื่องจากการเรียนรู้และฝึกหัดตกทอดกันมาเป็นรุ่นๆ ศิลปะและหัตถกรรม ที่กล่าวมานี้ ไม่อาจจะเรียนจากตำราด้วยตนเองได้ นอกจากการฝึกหัดจากครูผู้สอนต่อกันมาเป็นรุ่นๆ

    การทำละหมาดในศาสนาอิสลามก็เช่นเดียวกัน ถ้ามีผู้ส่ง ฮาดีษ, บุคอรีและ ฮาดีษมุสลิม ทั้งชุดให้ กับเด็กๆ แล้วบอกเด็กๆ ให้ไปทำการละหมาดตามฮาดีษบทต่างๆ, เด็กๆไม่อาจจะเข้าใจได้ เนื่องจาก ฮาดีษแต่ละบทแต่ละชุดอาจจะมีการบอกเล่าเกี่ยวกับการทำละหมาดท่าทางที่แตกต่างกัน ผมเคยสังเกตุการทำละหมาด รวมกันในวันอีด ไม่มีเหมือนกันและเป็นแบบเดียวกับหมด มีท่าทางส่วนใหญ่ที่เหมือนกัน คือ การตักบิร, การยืนตรง การโค้ง คำนับ การนั่งลงและกราบ เป็นต้น

  การทำละหมาดในศาสนาอิสลาม ไม่ว่าจะภาคบังคับ หรือ ภาคสมัครใจ ก็ตาม เรียกว่าการทำตามซุนนะห์ ของท่านรอซูลมูฮัมมัด ซึ่งหลังจากท่านรอซูลมูฮัมมัดได้รับ อัลกุรอานจากอัลลอฮ์แล้ว ในอัลกุรอานมีคำสั่งให้ มุสลิม ทำการละหมาด การ ถือศีลอด การ จ่า่ยกุศลทาน(ซะกาต) และการประกอบพิธีฮัจจฺ  ตามศาสนาของท่านนบีอิบรอฮีม (อิสลาม)  ท่านรอซูลก็ได้ปรับปรุงส่งเสริม, วางระเบียบบังคับให้บรรดามุสลิมในสมัยท่าน ทำศาสนากิจดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

   ท่านรอซูลสอนวิธีการละหมาดให้กับมวลชนมุสลิมอย่างถูกต้อง และเป็นหน้าที่ของมุสลิมที่จะต้องสอนการปฏิบัติศาสนกิจดังกล่าวให้แก่ลูกหลานในครอบครัวจากรุ่นหนึ่ง ไปยังอีกรุนหนึ่งสืบต่มาจนทุกๆวันนี้  การปฏิบัติศาสนกิจตามแบบฉบับของท่านรอซูลที่ปฏิบัติติดต่อกันมาจนถึง ปัจจุบันนี้เรียกว่าการ ปฏิบัติตาม “ซุนนะห์” ที่แท้จริงของท่านรอซูล

   ถ้าท่านถามมุสลิมในปัจจุบันว่า เขาเคยเปิดตำราหรือหนังสือฮาดีษของอีมามบุคอรี หรือ อีมามต่างๆและทำการฝึกละหมาดด้วยตนเองหรือไม่? เกือบ 100 ทั้ง 100 มุสลิมจะบอกว่าไม่เคย แต่เรียนรู้เรื่องการทำละหมาดจากพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่หรือ จากโรงเรียนซึ่งครูสอนท่าทางและการท่องอัลกุรอานในระดับขั้นของการละหมาดเป็นตอนๆไป  

  ท่านผู้อ่านจะต้องไม่สับสนระหว่าง คำว่า “ซุนนะห์” กับ “ฮาดีษ” ซุนนะห์เป็นการปฏิบัติที่ท่านรอซูลวางแบบฉบับและหลักการปฏิบัติให้มุสลิม โดยการปฏิบัติและการสอนให้มุสลิมปฏิบัติตามท่าน ซึ่งมุสลิมจะต้องเชื่อฟัง และปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างไม่ขาดสาย จากรุ่นแรกลงมาถึงมุสลิม ในปัจจุบันนี้.ดังที่มุสลิมรุ่นแรกปฏิบัติศาสนกิจ ตามซุนนะห์ ของท่านรอซูล อย่างเคร่งครัด โดยปราศจากฮาดีษของอีมามต่างๆในปัจจุบันนี้

ส่วนฮาดีษ เป็นเรื่องบอกเล่าเกี่ยวกับการสอนหรือการปฏิบัติของท่านรอซูล ที่ถูกจดบันทึก และรวบรวมขึ้นมาหลังจากที่ท่านรอซูลสิ้นชีวิตไปแล้ว 300 กว่าปี, หลังจากฮาดีษเหล่านี้ แพร่สะหัดในสังคมมุสลิม, การปฏิบัติตามแนวทางของอัลลออ์เริมผิดแปลกไป เนื่องจากข้อ อ้างของฮาดีษที่ว่า เคยเห็นท่านศาสดามูฮัมมัดปฏิบัติเช่นนั้นเช่นนี้นั้น ทำให้สังคมมุสลิมเริ่มแตกแยก   ด้วยเหตุนี้ ท่านรอซูลจึงเตือนไว้ด้วยฮาดีษเช่นกันว่า,(จะแสดงให้เห็นเพียง 3 บท)

ฮาดีษทั้งสามมีดังนี้:

1.แท้จริงทุกๆสัจธรรมนั้นต้องมีความจริง และทุกๆความถูกต้องนั้นต้องมีรัศมี ดังนั้นสิ่งใดที่ตรงกับคัมภีร์ของอัลลอฮ์ พวกเจ้าจงยึดมันเอาไว้ และสิ่งใดที่ขัดกับคัมภีร์ของอัลลอฮฺพวกเจ้าจงทิ้งมัน.

2.พวกท่านจงพิจารณาสิ่งที่สอดคล้องกับคัมภีร์ของอัลลอฮ์ ดังนั้นพวกท่านจงยึดมั่นกับสิ่งนั้น และ(พวกท่านจงพิจารณากับ)สิ่งใดที่ขัดกับคัมภีร์ของอัลลอฮ์ ดังนั้นพวกท่านจงทิ้งสิ่งนั้น.

3.หากว่าพวกท่านเป็นผู้ถามกับพวกเหล่านั้น(ยิว และคริสต์)ย่อมเป็นไปได้ที่พวกท่านจงพิจารณาสิ่งที่สอดคล้องกับคัมภีร์ของอัลลอฮ์ ดังนั้นพวกท่านจงยึดมั่นกับสิ่งนั้น และ(พวกท่านจงพิจารณากับ)สิ่งใดที่ขัดกับคัมภีร์ของอัลลอฮ์ ดังนั้นพวกท่านจงทิ้งกับสิ่งนั้น.

    คำสั่งของท่านรอซูลจากฮาดีษทั้ง 3 บทนี้ ท่านรอซูลชี้ให้เห็นความสำคัญของอัลกุรอาน และ อำนาจของอัลลอฮ์ที่อยู่เหนือบัญญัติที่มนุษย์สร้างขึ้น, ซึ่งหมายถึงว่าก่อนที่จะเชื่อเรื่องราวของฮาดีษให้ใช้สัจธรรมในอัลกุรอานเป็นบรรทัดฐาน คือ ถ้า สิ่งใดที่ตรงกับคัมภีร์ของอัลลอฮ์(อัลกุรอาน) มุสลิมจงยึดมันเอาไว้ และสิ่งใดที่ขัดกับคัมภีร์ของอัลลอฮฺมุสลิมจะต้องทิ้งมัน.

   ผู้ที่ไม่เข้าใจคำว่าซุนนะห์หมายถึงอะไรจึงไม่อาจจะเข้าใจได้ว่า ถ้าเราไม่มีฮาดีษแล้วเราไม่อาจจะประกอบศาสนกิจได้  ซึ่งจะเห็นได้จากบทความของท่านผู้รู้ต่างๆที่ ตำหนิผู้ซึ่งยึดถืออัลกุรอานเป็นแนวทางดำเนินชีวิตตามวิถีทางของอิสลามแต่เพียงอย่างเดียว

เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องอ้างอิงอัลกุรอานเนื่องจากว่าทุกๆซูเราะห์ในอัลกุรอานอัลลอฮ์์มีคำสั่งให้มุสลิมเขื่อฟังและปฏิบัติตามซุนนะห์ของท่านรอซูลอย่างเคร่งครัด แต่ไม่มีคำสังให้เชื่อ เรื่องบอกเล่า(ฮาดีษ)  เนื่องจากฮาดีษเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่ท่านรอซูล

  อัลลอฮ์ทรงเตือนมุสลิมว่า ก่อนที่จะเฃื่อเรื่องราวใดๆมุสลิมจะต้องใช้หูฟังให้เข้าใจ, มองด้วยสายตาให้ชัดแจ้ง ใช้สมองไตร่ตรอง และใช้การตัดสินใจที่ถูกต้อง ก่อนที่จะเชื่อเรื่องราวเหล่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่