(นิยายศาสนา มุสลีมะห์ผู้โดดเดี่ยวแค่เพียงดุนยา) ตอนที่ 4: การเป็นแบบอย่าง

ซาฮารารู้ดีว่าเส้นทางที่เธอกำลังเดินอยู่นั้นไม่ใช่แค่การแสดงออกถึงความศรัทธาของตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่จะส่งต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับอิสลามให้กับคนรอบข้าง ซึ่งเธอก็เริ่มเห็นผลจากการกระทำเล็กๆ ที่เธอทำในชีวิตประจำวัน

 

หลังจากที่เธอมีประสบการณ์ในช่วงแรกๆ ของการเรียนในมหาวิทยาลัย ซาฮาราก็เริ่มเห็นโอกาสในการช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่กำลังประสบปัญหา ทั้งในเรื่องการเรียนและการปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ที่มหาวิทยาลัย การช่วยเพื่อนๆ ทำการบ้าน หรือการอธิบายเนื้อหาที่เธอเข้าใจดี เธอเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเองที่เธอไม่เคยคิดมาก่อน

 

วันหนึ่งหลังจากการเรียนในห้องเรียน ซาฮาราเดินไปที่ห้องสมุดเพื่อหาหนังสือเกี่ยวกับอิสลามที่เธอจะใช้ในการศึกษาเพิ่มเติม ระหว่างทาง เธอได้พบกับ “เลย์ลา” เพื่อนร่วมชั้นที่เพิ่งเริ่มมาสอบถามเกี่ยวกับอิสลาม เลย์ลามีคำถามเกี่ยวกับการละหมาดและการเลือกใส่นิกอบ และเธอก็อยากเข้าใจว่าการปฏิบัติในศาสนาอิสลามนั้นมีความหมายอย่างไร

 

“ซาฮารา ฉันเห็นเธอใส่ผ้าปิดหน้าและทำละหมาดอยู่บ่อยๆ ฉันอยากรู้ว่ามันมีความหมายอย่างไรบ้าง?” เลย์ลาถามด้วยความสงสัย

 

ซาฮาราไม่ลังเลที่จะตอบ และเริ่มอธิบายอย่างช้าๆ และมั่นคง “ศาสนาให้ผู้หญิง ปกปิด เส้นผมของนาง เหลือฝ่ามือ และปกปิดเท้าของนาง  การที่ฉันใส่นิกอบเพื่อปกปิดใบหน้าของฉัน จากสายตาที่มองมายังฉัน  ทางศาสนาไม่ได้บังคับ ว่าจะปิดหรือไม่ปิด แล้วแต่ความสะดวกใจของบุคคล เพราะยุคสมัยนี้มีสิ่งต่างๆมากมาย  มันทำให้ฉันสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่ไม่จำเป็นและรักษาความบริสุทธิ์ทางจิตใจได้ ในขณะที่การละหมาดนั้นเป็นการเชื่อมต่อระหว่างฉันและอัลลอฮ์ มันช่วยให้ฉันสงบและรู้สึกถึงการคุ้มครองจากพระองค์”

 

คำตอบของซาฮาราทำให้เลย์ลารู้สึกประทับใจและเริ่มสนใจในคำสอนของอิสลามมากขึ้น “ขอบคุณนะ ซาฮารา ฉันเริ่มเข้าใจมากขึ้นแล้ว ถ้ามีโอกาส ฉันอยากฟังคำสอนเพิ่มเติมเกี่ยวกับอิสลามจากเธอ”

 

ซาฮารายิ้มให้กับเลย์ลาและบอกว่า “ยินดีค่ะ เลย์ลา ถ้ามีเวลา เรามานั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับอิสลาม และเรียนรู้จากกันและกัน”

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซาฮาราเริ่มมีการจัดกลุ่มศึกษาอัลกุรอานกับเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัย โดยเริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ที่มีสมาชิกเพียงไม่กี่คน แต่ด้วยความตั้งใจจริงของเธอในการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับอิสลาม

ซาฮาราจึงสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆ หลายคนที่กำลังมองหาความหมายในชีวิต

 

ทุกๆ สัปดาห์ ซาฮาราจะนัดหมายกับกลุ่มเพื่อศึกษาคำสอนจากอัลกุรอาน และแบ่งปันความรู้ที่เธอได้รับจากการศึกษาหรือประสบการณ์ชีวิต เธออธิบายให้เพื่อนๆ เข้าใจถึงคำสอนที่แฝงอยู่ในอัลกุรอานเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่เป็นไปตามหลักศาสนา และการเข้าใจในคุณค่าของการมีชีวิต และปฏิบัติตามคำสอนของอัลลอฮ์

 

ในหนึ่งในกลุ่มศึกษา ซาฮาราได้พูดถึงบทเรียนจากอัลกุรอานที่เธอชอบมากที่สุด “โอ้บ่าวของเรา! จงอย่าท้อแท้ในการขอพรจากพระองค์ ท่านจะได้รับการตอบรับจากพระองค์เสมอ หากท่านขอด้วยใจที่จริงใจ” (อัล-มุรอญี 94:6)

 

เมื่อเธอพูดถึงคำอธิบายนี้ ทุกคนในกลุ่มต่างรู้สึกประทับใจและเริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของการขอพรจากอัลลอฮ์ในทุกสถานการณ์ โดยไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีหรือไม่ดี ซาฮารากล่าวเสริมว่า “การขอพรจากพระองค์เป็นการแสดงถึงความยอมรับในคำสอนของพระองค์ และยังเป็นเครื่องเตือนใจให้เราอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง แม้ในยามที่ทุกสิ่งไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง”

 

ด้วยความที่ซาฮาราเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่มีความรู้และความศรัทธาที่มั่นคง เธอได้รับความเคารพจากเพื่อนๆ ที่เคยสงสัยหรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ และหลายคนเริ่มหันมาเรียนรู้และอยากรู้จักอิสลามอย่างจริงจังมากขึ้น

 

ซาฮาราไม่ได้มองว่าการที่เธอเป็นแบบอย่างให้กับผู้อื่นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรือน่าภูมิใจ แต่เธอเห็นว่ามันเป็นการทำหน้าที่หนึ่งในฐานะมุสลิมผู้ยึดมั่นในหลักศาสนา การใช้ชีวิตอย่างถูกต้องและมีความศรัทธาไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อตัวเธอเอง แต่ยังส่งผลต่อสังคมรอบข้างด้วย

 

ในที่สุด ซาฮาราเริ่มรู้สึกว่าการเป็นแบบอย่างนั้นไม่ได้หมายถึงการทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่คือการทำในสิ่งที่ถูกต้องในทุกๆ วัน การเป็นแบบอย่างให้กับผู้อื่นคือการทำในสิ่งที่ดีที่สุดด้วยความซื่อสัตย์และความศรัทธา

 

การที่เธอได้ทำหน้าที่นี้อย่างต่อเนื่องทำให้ซาฮารารู้สึกว่าแม้เส้นทางของเธอจะเต็มไปด้วยการทดสอบและอุปสรรค แต่ในที่สุดมันก็จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในตัวเธอและคนรอบข้างอย่างแท้จริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่