เครียดมากไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้   ..ในอดีตเราเคยเช่าบ้านเขาอยู่ก็ประพฤติตัวเป็นผู้เช่าที่ดีมาโดยตลอด  ไม่เคยจ่ายค่าเช่าช้าแม้แต่ครั้งเดียว   พอมาอยู่ในฐานะผู้ให้เช่าจึงได้รู้ว่าเราตัดสินใจผิดตั้งแต่วันแรก..

    บ้านเราเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ให้ครอบครัวหนึ่งเช่าอยู่  สามีเธอเป็นฝรั่งพูดไทยได้และเป็นคนตัดสินใจจัดการทุกอย่าง   ซึ่งทำให้เรามีปัญหากับสามีเราตั้งแต่ปล่อยให้เขาเช่าในราคา 7500 บาท ขณะที่เราได้ตกลงกับอีกเจ้าไว้ที่ 9000 บาท  แต่ฝรั่งเจ้านี้มาแบบปุ๊บปั๊บทันที  สามีเราก็สงสารให้เหตุผลว่าเขาคงเดือดร้อนเรื่องที่อยู่  คิดเสียว่าช่วยๆ กันไป  ...

    วันแรกที่ย้ายเข้ามาก็เจาะโน่น  เจาะนี่เพื่อติดแอร์ในห้องนั่งเล่น  ห้องนอน   ติดเครื่องซักผ้า  เครื่องล้างจาน  ติดโน่นติดนี่   โดยไม่บอกกล่าวให้เจ้าของบ้านรับทราบ  สามีก็บอกว่า  ช่างมันเถอะ..มันเจาะไปแล้ว  และได้เตือนมันแล้ว   และเข้าใจความโง่อีกเด้งของตัวเอง  ที่เรียกเก็บเงินประกันแค่ 1 เดือน ก็คือ 7500 บาท  ด้วยคิดว่าไม่อยากให้ผู้เช่าเดือดร้อนด้วยเงินค้ำประกันที่มากจนเกินไป   แล้วเป็นไงล่ะ..

นอกจากบ้านที่ถูกเจาะเสียหาย  ที่บางจุดยังไม่รู้ว่าถ้ามันถอดแอร์ออก  ยังนึกไม่ออกว่าจะซ่อมแบบไหนให้ดูเนียนเหมือนเดิม ..ต่อมาสวนที่ลงทุนไปหลายหมื่น  ต้นไม้  ต้นหญ้าก็ค่อยๆ ทยอยตายลง..  ตามมาด้วยไม่ยอมจ่ายค่าโทรศัพท์  ค่าเน็ต  แจ้งให้ไปจ่ายหลายครั้งก็รับปาก  แต่ก็ไม่จ่าย   สุดท้ายเราก็ต้องนำเงิน 3 พันกว่าบาทไปจ่ายเองเพื่อไม่ให้เสียประวัติการเงิน   ทวงถามก็รับปากว่าจะเอามาให้  แล้วก็เงียบเฉย   ยังไม่นับที่จ่ายค่าเช่าล่าช้า  ต้องทวงแล้วทวงอีก

ในสัญญาเช่าระบุให้เช่า 1 ปี  นับตั้งแต่ 16 กันยา 56 แต่ไม่ได้ระบุวันสิ้นสุด  ..ด้วยสัญญานี้ทำภายหลังจากที่เขาย้ายเข้ามา   คือจริงๆ เราทำสัญญาเช่าไว้ตั้งแต่วันแรกแล้ว  และเขาตกลงว่าจะเข้ามาทำสัญญาและนำบัตรประจำตัวประชาชนมาให้  แต่พอถึงเวลาก็อ้างโน่น อ้างนี่  ผัดผ่อนไม่ยอมมาเซ็น   เราก็หยวนให้เห็นว่ายุ่งขนย้าย  ทั้งยังมีลูกเล็ก  ทั้งๆ ที่จริงบ้านที่เราอยู่กับบ้านที่เราให้เขาเช่าก็อยู่ใกล้กัน  มองเห็นกันได้  จนผ่านไป 4 วัน   เราก็เอาเอกสารไปให้เอาเซ็นที่บ้านโดยที่เรากรอกส่วนของเราไว้แล้ว  แต่ส่วนของเขายังไม่กรอก  เนื่องจากเรายังไม่มีบัตรประชาชนเค้า    เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวเค้ากรอกเสร็จจะเอาไปให้พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน  แต่สุดท้ายเราก็ต้องทวงถาม  แถมครั้งแรกก็ไม่ยอมให้สำเนาบัตรประชาชน  จนต้องตามไปทวงอีกรอบจึงได้มา  

ตอนนี้เราต้องการให้เขาย้ายออก   และเท่าที่หาข้อมูลจากในเน็ต  ทราบว่าเราต้องทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาเช่า  แต่ยังมีข้อสงสัยว่า ..แม้เขาจะจ่ายค่าเช่าไม่ตรง  ล่าช้าบ่อย  แต่ก็ถือว่าเขายังไม่เคยค้างค่าเช่า  ในกรณีนี้เราสามารถหยิบเอาปัญหาเรื่องค่าโทรศัพท์มาเป็นประเด็นการบอกเลิกสัญญาได้หรือไม่  ซึ่งในสัญญาเช่ามีระบุไว้ว่า

“ผู้เช่าสัญญาว่าจะเป็นผู้ชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ของบ้านหลังที่เช่าเอง และจะนำใบเสร็จการชำระเงินมามอบให้ผู้เช่าในวันชำระค่าเช่าของทุกเดือน”  (ซึ่งช่วงมีการชำระก็ไม่ได้มีการนำใบมาเสร็จมอบแต่อย่างใด  และเราเองก็ไม่ได้ทวงถาม)

“ถ้าผู้เช่าไม่ปฎิบัติตามสัญญาเช่านี้ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าได้ทันที นอกจากนี้ถ้าผู้เช่าถูกศาลสั่งยึดทรัพย์ ให้ถือว่าสัญญานี้เป็นอันยกเลิกทันที  โดยผู้เช่าไม่ต้องบอกเลิก”

“เมื่อสัญญาเช่าระงับสิ้นไปไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่า  โดยถือว่าผู้เช่าและบริวารยินยอมออกจากทรัพย์ที่เช่า  ทั้งนี้โดยผู้ให้เช่ามีสิทธิขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าและบุคคลในครอบครัวของผู้เช่าออกจากทรัพย์สินที่เช่า  รวมทั้งปิดประตูใส่กุญแจทรัพย์สินที่เช่าได้ทันที  และผู้เช่าตกลงจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าวเพียงผู้เดียว”

รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ..หรือว่าควรรอให้สัญญาเช่าสิ้นสุด  คืออีกใจก็กลัวว่าเขาจะฝากรอยแค้นเอาไว้กับบ้าน  


ปล.   มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาผิดนัดจ่ายค่าเช่าหลายวัน  คือทวงถามบอกวันนั้น วันนี้ก็ไม่มา  แฟนเลยส่ง sms ไปเดือนว่า  ถ้าไม่จ่ายค่าเช่าเดือนนี้  เดือนหน้าก็ให้ย้ายออก   เขาก็โทรมาโวยวายว่าจะฟ้องโน่นนี่นั่น  แฟนเราก็เลยบอกว่าให้เมียเธออ่านสัญญาให้ฟังนะ  ส่วนไอ้เงิน 7500 นั่น มันเป็นประกันความเสีย  ไม่ใช่ค่าเช่า  และยังไงมันก็ไม่พอสำหรับค่าซ่อมแซมบ้านฉันหรอก  ..มันก็เลยเสียงอ่อนลง