กลับมาต่อกันค่ะ ใครมีข้อสงสัยอะไรถามมาได้นะคะ ถ้าตอบได้จะพยายามตอบให้ จะได้ไม่ซ้ำรอยหลงไปหลงมาแบบเจ้าของกระทู้ค่ะ 555
ใครอยากเริ่มตั้งต้นการเดินทางกัน ไปที่
http://ppantip.com/topic/31803274
ตอนที่ 1 มัทสึโมโตะ
http://ppantip.com/topic/31812434
ตอนที่ 2 ชิราคาว่า-คานาซาว่า
http://ppantip.com/topic/31807590
ตอนที่ 3 เป็บปุ - ยุฟุอิน
http://ppantip.com/topic/31812384
วันนี้เราจะไปต่อกันที่ mt.Aso ค่ะ สิ่งนี้เป็นภูเขาไฟที่ยังพวยพุ่ง ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟกัน การเดินทางนับว่าไกลไม่น้อยค่ะ เพราะต้องมาต่อรถไฟที่คุมาโมโตะ ไปลงอะโสะ แล้วยังต้องนั่งบัสขึ้นเขาไปอีกเกือบชั่วโมง ค่ารถบัสอย่างเดียวก็สองพันเยนแล้วค่ะ ลองดูนะคะว่าจะถูกใจใครพอจะทุ่มทุนและเวลามาหรือเปล่า ส่วนตัว....ไม่ผิดหวังค่ะ
การเดินทางจากคุมาโมโตะมาที่อะโสะก็จะมีรถไฟขบวนพิเศษที่เรียกว่า Aso Boy ค่ะ แต่ขาไปไม่ได้ขึ้น มาขึ้นเอาขากลับ
อาหารเช้านี้เป็นข้าวกล่องรถไฟค่ะ รสชาติใช้ได้แต่แพงไปนิดนึง
มาถึงอะโสะก็เป็นสถานีบ้านนอกเหมือนกันค่ะ ระหว่างรอรถบัสด้วยความกระวนกระวายก็ได้รูปไปรษณีย์มาตอกย้ำตัวเอง...เรื่องอะไรเหรอคะ
จะขอเล่าให้ฟังสักนิดเรื่องบริการส่งกระเป๋า TaQbin ค่ะ หลายๆ คนคงพอเห็นข้อมูลกันบ้าง ว่าเราสามารถส่งกระเป๋าเดินทางไปรอตัวเองล่วงหน้าได้ เป็นความสะดวกสบายอย่างหนึ่ง วิธีก็แสนง่ายค่ะ เอากระเป๋าถือเข้าไปในร้านสะดวกซื้อร้านไหนก็ได้ หรือที่ๆ มีสัญลักษณ์นี้
ทำท่าชี้กระเป๋าแล้วบอกว่า ทัก-คิว-บิน หรือ Deliver ก็จะได้ใบนี้มากรอกค่ะ
ก็กรอกให้ครบค่ะ โดยเฉพาะในส่วนที่หนึ่ง ใช้ที่อยู่โรงแรมที่เราจะไปพัก (ใส่ชื่อตัวเองที่ใช้ในการจอง) ระบุเวลาวันเดียวกับที่เราจะไปพัก (ส่งล่วงหน้าไม่เกินเจ็ดวัน) ถ้าอยากให้ชัวร์ก็อีเมลสอบถามโรงแรมปลายทาง หรือของเราก็ถามโฮสเทลว่าเขารับให้เราได้ไหม ก็ไม่พบว่ามีปัญหานะคะ ที่เหลือก็จ่ายตังค์เท่านั้น อีกแบบคือส่งไปสนามบิน ทำเหมือนกันเลยค่ะ แค่ต้องระบุไฟลท์และเวลาพร้อมทั้งส่งล่วงหน้ากะให้ดีๆ
ง่ายดายทำไมเรามีปัญหา...เหตุเพราะจะไปนอนกับเพื่อนนี่ล่ะค่ะ ขอข้อมูลใน pantip ก็พบว่าเราสามารถระบุที่พักประหนึ่งว่าส่งไปรษณีย์ได้เช่นกัน แต่ปรากฎว่า...ถ้าเพื่อนก็ไปเที่ยวตอนกลางวันพร้อมตรู แล้วใครจะอยู่รับกระเป๋าล่ะ(วะ)
มีวิธีแก้ปัญหาอีกค่ะ คือ เราสามารถระบุเวลารับของได้ เสร็จล่ะสิ อิอิ มาเลยจ้าสามทุ่ม
...
...
รอแล้วรอเล่าก็ไม่มาค่ะ ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค เราสามารถแทรกหมายเลขพัสดุได้ค่ะ ว่าตอนนี้อยุ่ที่ไหนแล้ว ลองทำดูก็พบว่าอยู่ในฟุคุนี่ล่ะ ทำไมมันไม่มาสักที โทรไปบริษัทก็ปรากฎว่า...หมดเวลาทำการของผู้ใช้ภาษาปะกิตล่ะจ้า โทรใหม่พรุ่งนี้นะจ๊ะ...เป็นไงล่ะ สามทุ่ม(ตรู)
...
...
เลยค่อนข้างกระวนกระวายค่ะ มาถึงอะโสะเก้าโมงบริษัทเปิดทำการพอดี เลยได้โทรไป เค้าบอกว่าเราเขียนเลขคอนโดเพื่อนไม่ชัดค่ะ เดี๋ยววันนี้จะไปส่งใหม่นะคะ เอากี่โมงดี
...
...
จบด้วยประการล่ะฉะนี้ค่ะ
เลยมีอารมณ์เที่ยวต่อล่ะ ไปซื้อตั๋วรถบัสค่ะ
ตารางรถบัสค่ะ ลองตรองดูเวลากันให้ดีๆ นะคะ พลาดเที่ยวนึงเป็นชั่วโมงเลยล่ะค่ะ สถานีแวะแต่ละที่ก็จะมีพิพิธภัณฑ์ กับลานสกี ใครสะดวกแวะอันไหนก็กะเวลาเอานะคะ
นั่งไปจนถึงปล่องภูเขาไฟก่อนเลยค่ะ
วิวระหว่างนั่งรถค่ะ สวยมากๆ ไปถึงก็ไปขึ้นกระเช้าอีกคนละพันเยนค่ะ (จะห้าพันแล้วนะคะ ภูเขาไฟนี้)
ขึ้นไปก็ต้องแล้วแต่อารมณ์ของภูเขาไฟด้วยนะคะ ว่าจะพ่นกำมะถันออกมาขนาดไหน เข้าใกล้ได้มากน้อยเพียงใด แต่พอดีพอร้ายซวยจริงจังก็ยังมีสิ่งนี้ค่ะ
หลุมหลบภัย หรือจะใช้พวกนี้
ตามแต่สะดวกเลยค่ะ ว่าแล้วก็ขึ้นไปดูกันดีกว่า
ขาวโพลนไปหมด ปรากฎว่าข้างหลังคนถ่ายเป็นบ่อปากหลุมที่มีแต่ควันกำมะถันค่ะ คนเป็นภูมิแพ้อย่างเราเลยทนไม่ได้นาน จากมาเสียก่อนจะได้รูปสวยๆ ค่ะ ที่ประทับใจกว่าคือวิวข้างทางขากลับ
เป็นทะเลหมอกและทุ่งหญ้าสะวันนา แบบว่าถ้ามีเวลาทั้งวัน จะขอเดินตามเส้นทางรถบัสเพื่อนถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เลยค่ะ สวยแทบทุกจุด
แต่เนื่องจากไม่มีเวลา ตอนนี้ อะโสะบอยรอเราอยู่ค่ะ
เป็นขบวนรถไฟที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้แล้วค่ะ มีตัวน่ารักเต็มไปหมดตั้งแต่น่าตู้
ทางเดิน
พาโนรามาวิวที่หัวขบวน
พ่อแม่บางคนก็พาเด็กเที่ยวโดยการจองรถไฟตู้นี้ค่ะ
ของซื้อของขายก็น่ารักมาก
ของฟรีก็มีนะคะ
เยอะล่ะ เอาเป็นว่านั่งสักชั่วโมงก็กลับมาถึงคุมาโมโตะค่ะ
[CR] @@ ลุยเดี่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ไปให้ไกลต้องเอาให้คุ้ม (15 days 14 nights) @@ ตอนที่ 4 Aso-Kumamoto
ใครอยากเริ่มตั้งต้นการเดินทางกัน ไปที่ http://ppantip.com/topic/31803274
ตอนที่ 1 มัทสึโมโตะ http://ppantip.com/topic/31812434
ตอนที่ 2 ชิราคาว่า-คานาซาว่า http://ppantip.com/topic/31807590
ตอนที่ 3 เป็บปุ - ยุฟุอิน http://ppantip.com/topic/31812384
วันนี้เราจะไปต่อกันที่ mt.Aso ค่ะ สิ่งนี้เป็นภูเขาไฟที่ยังพวยพุ่ง ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟกัน การเดินทางนับว่าไกลไม่น้อยค่ะ เพราะต้องมาต่อรถไฟที่คุมาโมโตะ ไปลงอะโสะ แล้วยังต้องนั่งบัสขึ้นเขาไปอีกเกือบชั่วโมง ค่ารถบัสอย่างเดียวก็สองพันเยนแล้วค่ะ ลองดูนะคะว่าจะถูกใจใครพอจะทุ่มทุนและเวลามาหรือเปล่า ส่วนตัว....ไม่ผิดหวังค่ะ
การเดินทางจากคุมาโมโตะมาที่อะโสะก็จะมีรถไฟขบวนพิเศษที่เรียกว่า Aso Boy ค่ะ แต่ขาไปไม่ได้ขึ้น มาขึ้นเอาขากลับ
อาหารเช้านี้เป็นข้าวกล่องรถไฟค่ะ รสชาติใช้ได้แต่แพงไปนิดนึง
มาถึงอะโสะก็เป็นสถานีบ้านนอกเหมือนกันค่ะ ระหว่างรอรถบัสด้วยความกระวนกระวายก็ได้รูปไปรษณีย์มาตอกย้ำตัวเอง...เรื่องอะไรเหรอคะ
จะขอเล่าให้ฟังสักนิดเรื่องบริการส่งกระเป๋า TaQbin ค่ะ หลายๆ คนคงพอเห็นข้อมูลกันบ้าง ว่าเราสามารถส่งกระเป๋าเดินทางไปรอตัวเองล่วงหน้าได้ เป็นความสะดวกสบายอย่างหนึ่ง วิธีก็แสนง่ายค่ะ เอากระเป๋าถือเข้าไปในร้านสะดวกซื้อร้านไหนก็ได้ หรือที่ๆ มีสัญลักษณ์นี้
ทำท่าชี้กระเป๋าแล้วบอกว่า ทัก-คิว-บิน หรือ Deliver ก็จะได้ใบนี้มากรอกค่ะ
ก็กรอกให้ครบค่ะ โดยเฉพาะในส่วนที่หนึ่ง ใช้ที่อยู่โรงแรมที่เราจะไปพัก (ใส่ชื่อตัวเองที่ใช้ในการจอง) ระบุเวลาวันเดียวกับที่เราจะไปพัก (ส่งล่วงหน้าไม่เกินเจ็ดวัน) ถ้าอยากให้ชัวร์ก็อีเมลสอบถามโรงแรมปลายทาง หรือของเราก็ถามโฮสเทลว่าเขารับให้เราได้ไหม ก็ไม่พบว่ามีปัญหานะคะ ที่เหลือก็จ่ายตังค์เท่านั้น อีกแบบคือส่งไปสนามบิน ทำเหมือนกันเลยค่ะ แค่ต้องระบุไฟลท์และเวลาพร้อมทั้งส่งล่วงหน้ากะให้ดีๆ
ง่ายดายทำไมเรามีปัญหา...เหตุเพราะจะไปนอนกับเพื่อนนี่ล่ะค่ะ ขอข้อมูลใน pantip ก็พบว่าเราสามารถระบุที่พักประหนึ่งว่าส่งไปรษณีย์ได้เช่นกัน แต่ปรากฎว่า...ถ้าเพื่อนก็ไปเที่ยวตอนกลางวันพร้อมตรู แล้วใครจะอยู่รับกระเป๋าล่ะ(วะ)
มีวิธีแก้ปัญหาอีกค่ะ คือ เราสามารถระบุเวลารับของได้ เสร็จล่ะสิ อิอิ มาเลยจ้าสามทุ่ม
...
...
รอแล้วรอเล่าก็ไม่มาค่ะ ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค เราสามารถแทรกหมายเลขพัสดุได้ค่ะ ว่าตอนนี้อยุ่ที่ไหนแล้ว ลองทำดูก็พบว่าอยู่ในฟุคุนี่ล่ะ ทำไมมันไม่มาสักที โทรไปบริษัทก็ปรากฎว่า...หมดเวลาทำการของผู้ใช้ภาษาปะกิตล่ะจ้า โทรใหม่พรุ่งนี้นะจ๊ะ...เป็นไงล่ะ สามทุ่ม(ตรู)
...
...
เลยค่อนข้างกระวนกระวายค่ะ มาถึงอะโสะเก้าโมงบริษัทเปิดทำการพอดี เลยได้โทรไป เค้าบอกว่าเราเขียนเลขคอนโดเพื่อนไม่ชัดค่ะ เดี๋ยววันนี้จะไปส่งใหม่นะคะ เอากี่โมงดี
...
...
จบด้วยประการล่ะฉะนี้ค่ะ
เลยมีอารมณ์เที่ยวต่อล่ะ ไปซื้อตั๋วรถบัสค่ะ
ตารางรถบัสค่ะ ลองตรองดูเวลากันให้ดีๆ นะคะ พลาดเที่ยวนึงเป็นชั่วโมงเลยล่ะค่ะ สถานีแวะแต่ละที่ก็จะมีพิพิธภัณฑ์ กับลานสกี ใครสะดวกแวะอันไหนก็กะเวลาเอานะคะ
นั่งไปจนถึงปล่องภูเขาไฟก่อนเลยค่ะ
วิวระหว่างนั่งรถค่ะ สวยมากๆ ไปถึงก็ไปขึ้นกระเช้าอีกคนละพันเยนค่ะ (จะห้าพันแล้วนะคะ ภูเขาไฟนี้)
ขึ้นไปก็ต้องแล้วแต่อารมณ์ของภูเขาไฟด้วยนะคะ ว่าจะพ่นกำมะถันออกมาขนาดไหน เข้าใกล้ได้มากน้อยเพียงใด แต่พอดีพอร้ายซวยจริงจังก็ยังมีสิ่งนี้ค่ะ
หลุมหลบภัย หรือจะใช้พวกนี้
ตามแต่สะดวกเลยค่ะ ว่าแล้วก็ขึ้นไปดูกันดีกว่า
ขาวโพลนไปหมด ปรากฎว่าข้างหลังคนถ่ายเป็นบ่อปากหลุมที่มีแต่ควันกำมะถันค่ะ คนเป็นภูมิแพ้อย่างเราเลยทนไม่ได้นาน จากมาเสียก่อนจะได้รูปสวยๆ ค่ะ ที่ประทับใจกว่าคือวิวข้างทางขากลับ
เป็นทะเลหมอกและทุ่งหญ้าสะวันนา แบบว่าถ้ามีเวลาทั้งวัน จะขอเดินตามเส้นทางรถบัสเพื่อนถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เลยค่ะ สวยแทบทุกจุด
แต่เนื่องจากไม่มีเวลา ตอนนี้ อะโสะบอยรอเราอยู่ค่ะ
เป็นขบวนรถไฟที่ประทับใจที่สุดในทริปนี้แล้วค่ะ มีตัวน่ารักเต็มไปหมดตั้งแต่น่าตู้
ทางเดิน
พาโนรามาวิวที่หัวขบวน
พ่อแม่บางคนก็พาเด็กเที่ยวโดยการจองรถไฟตู้นี้ค่ะ
ของซื้อของขายก็น่ารักมาก
ของฟรีก็มีนะคะ
เยอะล่ะ เอาเป็นว่านั่งสักชั่วโมงก็กลับมาถึงคุมาโมโตะค่ะ