หายไปนานค่ะ ถือเป็นการพักครึ่งเพราะหลังจากนี้เราจะออกจากโตเกียวไปยังฮอกไกโดกันแล้วค่ะ
ใครอยากเริ่มตั้งต้นการเดินทางกัน ไปที่
http://ppantip.com/topic/31803274
ตอนที่ 1 มัทสึโมโตะ
http://ppantip.com/topic/31812434
ตอนที่ 2 ชิราคาว่า-คานาซาว่า
http://ppantip.com/topic/31807590
ตอนที่ 3 เป็บปุ - ยุฟุอิน
http://ppantip.com/topic/31812384
ตอนที่ 4 อะโสะ - คุมาโมโตะ
http://ppantip.com/topic/31816159
ตอนที่ 5 ฟุคุโอกะ
http://ppantip.com/topic/31816493
ตอนที่ 6 ทาคายาม่า - ชินโฮตาเกะ
http://ppantip.com/topic/31819997
ตอนที่ 7 คาวากูชิโกะ - ล่าปลาไหลอาซากุสะ
http://ppantip.com/topic/31845547
ต่อจากตอนที่แล้ว หลังจากอิ่มอร่อยกับปลาไหล เราก็มุ่งหน้าไปขึ้นชินคันเซ็นมุ่งหน้าไปที่ ชินอาโอโมริ เพื่อต่อ night train ที่ อาโอโมริค่ะ
ว่าด้วยเรื่องของรถไฟนอน เนื่องจากฮอกไกโดดนั้นเป็นแถบเดียวที่ยังไม่มีรถไฟความเร็วสูงหรือที่เรียกว่าชินคันเซ็น จึงมีสิ่งทดแทนที่เรียกว่า night train ที่จะพาเราข้ามทะเลไปยังเกาะฮอกไกโด ซึ่งเจ้ารถไฟนอนนั้นมีตั้งแต่ที่โดเกียวก็มีค่ะ อย่างไรก็ตามการจะใช้ JR pass นั้น ทำได้แค่ขบวนเดียวคือ Hamanasu ซึ่งต้องขึ้นที่อาโอโมริเท่านั้น
http://www.japan-guide.com/e/e2356.html อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ค่ะ (แต่จะเป็นภาษาอังกฤษและงงนิดนึง)
ในส่วนของ Hamanasu เอง มีแบ่งที่นั่งเป็นสี่ประเภทค่ะ (ไม่นับ Green car) ฟรีสามจ่ายหนึ่ง ส่วนตัวไปลองมาสองค่ะใครจะวางแผนอยากลองก็ลองดูนะคะ
1. nobi-nobi carpet เป็นตู้ในฝันของทุกคนที่บรรดาผู้คนต่างยืนยันมาว่าจองนานแค่ไหนก็ไม่ได้นอน เรื่องของเรื่องคือจะเป็นตู้ที่ได้นอนจริงๆ และมีประมาณสิบที่เท่านั้นค่ะ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการจองตลอดทั้งปีทำให้เต็มตลอด แต่ถ้าใครโชคดีจองได้ก็ฟรีค่ะ ใช้ JR Pass ไม่เสียเงิน
2. non-reserve car เป็นรถไฟที่เทียบเท่ารถไฟบ้านเราได้ขบวนแรกที่เห็นในญี่ปุ่นเลยค่ะ นั่งหลังตรงตลอดหกชั่วโมง
3. Dream car (reserve) ต้องจอง และใช้ JR ไม่เสียเงินเพิ่มค่ะ เอนได้นิดนึง ตอนที่ไปนั่งขบวนนี้ล่ะค่ะ แต่เป็นช่วงเทศกาล แน่นเลยค่ะ ไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไรนัก โดยเฉพาะผู้ที่มีเด็ก และขนกระเป๋าใบใหญ่ไปนะคะ รถค่อนข้างเก่าค่ะ กระเป๋าวางได้สักยี่สิบนิ้วเท่านั้น
4. Sleep car ค่ะ อันนี้เป็นตู้นอนจริงๆ แต่ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ ราคาประมาณ 2500 บาทไทย หน้าตาเป้นอย่างนี้ค่ะ
ที่นอนสองชั้น มีม่าน มีเสื้อนอนให้ด้วยค่ะ ราคาข้างบนกับข้างล่างไม่เท่ากันนะคะ
ช่องไว้กระเป๋าก็ไม่ใหญ่มากค่ะ อันนี้คือขากลับที่ยอมควักกระเป๋ากลับมาค่ะ เพราะจากประสบการณ์ขาไปที่ค่อนข้างอึดอัด ยังดีที่ส่งกระเป๋าล่วงหน้าต่างหาก แต่ขากลับไม่ได้ส่งกระเป๋าค่ะ และค่อนข้างเพลีย เลยยอมควักกระเป๋าจ่ายให้ได้ที่นอนค่ะ ลองพิจารณาดูกันนะคะ แต่ส่วนตัวถ้าใครจะต่อฮอกไกโดจริงๆ ลองคิดถึงบินภายในประเทศดูค่ะ ประหยัดเวลาและพลังงานกว่ากันพอควร
มาถึงซัปโปโรหกโมงเช้าค่ะ นั่งรถต่อไปอาซาชิคาว่ากันเลย
ไฮไลท์อยู่ที่สวนสัตว์อาซาฮิคาว่าซึ่งหน้าหนาวจะมีเจ้าเพนกวินพวกนี้เป็นพระเอกค่ะ พอออกจากสถานีก็ตรงไปขึ้นรถบัสค่ะ
ได้รับความอนุเคราะห์จากเพื่อนในพันทิพนี้ล่ะค่ะ ความจริงสวนสัตว์หน้าหนาวกว่าจะเปิดก็สิบโมงครึ่งค่ะ ตอนแรกเลยจะไปเที่ยวที่อื่นๆ ก่อน อาทิเช่น ครัสตันมิวเซี่ยมค่ะ แต่ก็ตามเดิมคือหลงทาง (เรื่องของเรื่องรู้สถานีที่จะลงแต่ฟังไม่ออก) เลยได้นั่งรถเที่ยวกลับมาขึ้นรถไปสวนสัตว์เปิดพอดี ไปแล้วก็เจอเพนกวินพาเหรดก่อนเลยค่ะ
เด็กๆ กับ "ป้าๆ" ก็มาตั้งขบวนรอกัน ที่เน้นคำว่าป้าเพราะบางที "ป้า" ญี่ปุ่นกับ "ป้า" ไทยก็ไม่ต่างกันเท่าไรค่ะ เป็นมนุษย์ป้าที่น่าเอือมระอา
วิ่งกันยาวไกลมาก เดินดูด้านในก็มีสัตว์ต่างๆ มากมายค่ะ
ท่าจะหิวมาก
น้องหมีเหงาตาเศร้ามาก
เพราะเจ้าสองตัวนี้โผล่หน้ามาจู๋จี๋กันต่อหน้าต่อตาซะงั้น เขายิ่งเที่ยวคนเดียว เห็นแล้วหมั่นไส้ซ้า
แรคคูนนี่ไต่สะพานเหนือหัวกันเลยทีเดียว เด็กๆ ชอบกันใหญ่
บอกลาสวนสัตว์กันด้วยพระเอกอีกครั้ง
จากนี้เรามุ่งหน้าสู้ฟุราโน่ค่ะ เป็นที่ๆ ลำบากเป็นจุดล้มเหลวในทริปนี้เลย รอติดตามนะคะ
[CR] @@ ลุยเดี่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ไปให้ไกลต้องเอาให้คุ้ม (15 days 14 nights) @@ ตอนที่ 8 night-train & asashikawa
ใครอยากเริ่มตั้งต้นการเดินทางกัน ไปที่ http://ppantip.com/topic/31803274
ตอนที่ 1 มัทสึโมโตะ http://ppantip.com/topic/31812434
ตอนที่ 2 ชิราคาว่า-คานาซาว่า http://ppantip.com/topic/31807590
ตอนที่ 3 เป็บปุ - ยุฟุอิน http://ppantip.com/topic/31812384
ตอนที่ 4 อะโสะ - คุมาโมโตะ http://ppantip.com/topic/31816159
ตอนที่ 5 ฟุคุโอกะ http://ppantip.com/topic/31816493
ตอนที่ 6 ทาคายาม่า - ชินโฮตาเกะ http://ppantip.com/topic/31819997
ตอนที่ 7 คาวากูชิโกะ - ล่าปลาไหลอาซากุสะ http://ppantip.com/topic/31845547
ต่อจากตอนที่แล้ว หลังจากอิ่มอร่อยกับปลาไหล เราก็มุ่งหน้าไปขึ้นชินคันเซ็นมุ่งหน้าไปที่ ชินอาโอโมริ เพื่อต่อ night train ที่ อาโอโมริค่ะ
ว่าด้วยเรื่องของรถไฟนอน เนื่องจากฮอกไกโดดนั้นเป็นแถบเดียวที่ยังไม่มีรถไฟความเร็วสูงหรือที่เรียกว่าชินคันเซ็น จึงมีสิ่งทดแทนที่เรียกว่า night train ที่จะพาเราข้ามทะเลไปยังเกาะฮอกไกโด ซึ่งเจ้ารถไฟนอนนั้นมีตั้งแต่ที่โดเกียวก็มีค่ะ อย่างไรก็ตามการจะใช้ JR pass นั้น ทำได้แค่ขบวนเดียวคือ Hamanasu ซึ่งต้องขึ้นที่อาโอโมริเท่านั้น
http://www.japan-guide.com/e/e2356.html อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ค่ะ (แต่จะเป็นภาษาอังกฤษและงงนิดนึง)
ในส่วนของ Hamanasu เอง มีแบ่งที่นั่งเป็นสี่ประเภทค่ะ (ไม่นับ Green car) ฟรีสามจ่ายหนึ่ง ส่วนตัวไปลองมาสองค่ะใครจะวางแผนอยากลองก็ลองดูนะคะ
1. nobi-nobi carpet เป็นตู้ในฝันของทุกคนที่บรรดาผู้คนต่างยืนยันมาว่าจองนานแค่ไหนก็ไม่ได้นอน เรื่องของเรื่องคือจะเป็นตู้ที่ได้นอนจริงๆ และมีประมาณสิบที่เท่านั้นค่ะ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการจองตลอดทั้งปีทำให้เต็มตลอด แต่ถ้าใครโชคดีจองได้ก็ฟรีค่ะ ใช้ JR Pass ไม่เสียเงิน
2. non-reserve car เป็นรถไฟที่เทียบเท่ารถไฟบ้านเราได้ขบวนแรกที่เห็นในญี่ปุ่นเลยค่ะ นั่งหลังตรงตลอดหกชั่วโมง
3. Dream car (reserve) ต้องจอง และใช้ JR ไม่เสียเงินเพิ่มค่ะ เอนได้นิดนึง ตอนที่ไปนั่งขบวนนี้ล่ะค่ะ แต่เป็นช่วงเทศกาล แน่นเลยค่ะ ไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไรนัก โดยเฉพาะผู้ที่มีเด็ก และขนกระเป๋าใบใหญ่ไปนะคะ รถค่อนข้างเก่าค่ะ กระเป๋าวางได้สักยี่สิบนิ้วเท่านั้น
4. Sleep car ค่ะ อันนี้เป็นตู้นอนจริงๆ แต่ต้องจ่ายเพิ่มค่ะ ราคาประมาณ 2500 บาทไทย หน้าตาเป้นอย่างนี้ค่ะ
ที่นอนสองชั้น มีม่าน มีเสื้อนอนให้ด้วยค่ะ ราคาข้างบนกับข้างล่างไม่เท่ากันนะคะ
ช่องไว้กระเป๋าก็ไม่ใหญ่มากค่ะ อันนี้คือขากลับที่ยอมควักกระเป๋ากลับมาค่ะ เพราะจากประสบการณ์ขาไปที่ค่อนข้างอึดอัด ยังดีที่ส่งกระเป๋าล่วงหน้าต่างหาก แต่ขากลับไม่ได้ส่งกระเป๋าค่ะ และค่อนข้างเพลีย เลยยอมควักกระเป๋าจ่ายให้ได้ที่นอนค่ะ ลองพิจารณาดูกันนะคะ แต่ส่วนตัวถ้าใครจะต่อฮอกไกโดจริงๆ ลองคิดถึงบินภายในประเทศดูค่ะ ประหยัดเวลาและพลังงานกว่ากันพอควร
มาถึงซัปโปโรหกโมงเช้าค่ะ นั่งรถต่อไปอาซาชิคาว่ากันเลย
ไฮไลท์อยู่ที่สวนสัตว์อาซาฮิคาว่าซึ่งหน้าหนาวจะมีเจ้าเพนกวินพวกนี้เป็นพระเอกค่ะ พอออกจากสถานีก็ตรงไปขึ้นรถบัสค่ะ
ได้รับความอนุเคราะห์จากเพื่อนในพันทิพนี้ล่ะค่ะ ความจริงสวนสัตว์หน้าหนาวกว่าจะเปิดก็สิบโมงครึ่งค่ะ ตอนแรกเลยจะไปเที่ยวที่อื่นๆ ก่อน อาทิเช่น ครัสตันมิวเซี่ยมค่ะ แต่ก็ตามเดิมคือหลงทาง (เรื่องของเรื่องรู้สถานีที่จะลงแต่ฟังไม่ออก) เลยได้นั่งรถเที่ยวกลับมาขึ้นรถไปสวนสัตว์เปิดพอดี ไปแล้วก็เจอเพนกวินพาเหรดก่อนเลยค่ะ
เด็กๆ กับ "ป้าๆ" ก็มาตั้งขบวนรอกัน ที่เน้นคำว่าป้าเพราะบางที "ป้า" ญี่ปุ่นกับ "ป้า" ไทยก็ไม่ต่างกันเท่าไรค่ะ เป็นมนุษย์ป้าที่น่าเอือมระอา
วิ่งกันยาวไกลมาก เดินดูด้านในก็มีสัตว์ต่างๆ มากมายค่ะ
ท่าจะหิวมาก
น้องหมีเหงาตาเศร้ามาก
เพราะเจ้าสองตัวนี้โผล่หน้ามาจู๋จี๋กันต่อหน้าต่อตาซะงั้น เขายิ่งเที่ยวคนเดียว เห็นแล้วหมั่นไส้ซ้า
แรคคูนนี่ไต่สะพานเหนือหัวกันเลยทีเดียว เด็กๆ ชอบกันใหญ่
บอกลาสวนสัตว์กันด้วยพระเอกอีกครั้ง
จากนี้เรามุ่งหน้าสู้ฟุราโน่ค่ะ เป็นที่ๆ ลำบากเป็นจุดล้มเหลวในทริปนี้เลย รอติดตามนะคะ