ในปี 49 ปชป บอยคอตไม่ส่งคนลงสมัครเลือกตั้ง อ้างเหตุผลต่างๆ นาๆ แต่ตอนนั้นยังไม่มีการขัดขวางการเลือกตั้ง มีแค่การบอยคอตด้วยการ ฉีกบัตรเลือกตั้ง มีอจ ผมยาว กับมวลชนของ ปชป และพธม
ซึ่งต่อมา ศาลก็หาเหตุให้เป็นโมฆะ ว่าหันด้านท้ายของคูหาออกทำให้การกาเบอร์ไม่เป็นความลับ จัดการสอย กกต ทั้งชุดด้วยเหตุผลแค่นั้น แล้วคนที่ฉีกบัตรและบอยคอตการเลือกตั้งก็ไม่ได้รับผิดใดๆ เพราะการเลือกตั้งถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น

ในปี 53 ปชป ก็บอยคอตอีกครั้ง แต่คราวนี้ใช้ กปปส คปท มวลชนของ ปชป เองทำการขัดขวาง ต่อต้าน ทำร้าย ยักยอกหีบบัตร ทำทุกวิถีทางตั้งแต่การเปิดรับสมัครสส บัญชีรายชื่อ จนมีเหตุคนตายและบาดเจ็บ เรื่อยไปจนถึงทำให้การเลือกตั้งในบางเขตไม่สามารถกระทำได้
แต่ที่ต่างกันคือ คราวนี้ กกต เป็นพวกมัน จึงร่วมด้วยช่วยกันขัดแข้งขัดขา มากกว่าจะช่วยให้การเลือกตั้งสำเร็จ
ตอนนี้ ศาลก็ตัดสินจากผลของการขัดขวางนั้นว่า การเลือกตั้งเป็นโมฆะอีกครั้ง
ครั้งนี้ กกต คงไม่ต้องรับผิดเหมือนชุดปี 49 เพราะพวกเดียวกัน กากี่นั๊ง

ตรงนี้จะกลายเป็นประเพณีปฏิบัติสืบไปโดยอาศัยหลักคำตัดสินของศาล รธน
เพราะถ้า ปชป ไม่ได้เปรียบ ก็จะบอยคอตทุกครั้ง และส่งคนมาป่วนการเลือกตั้งให้ล้ม กกต ก็จะช่วยขัดแข้งขัดขา ศาลก็จะตัดสินเยี่ยงนี้อีก โมฆะอีก

ตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไร ม็อบของ ปชป ได้เพราะคำตัดสินของศาลแพ่ง ห้ามใช้กำลัง เท่ากับต้องยอมให้มันขัดขวางล้มการเลือกตั้ง
จะใช้วิธีอื่นก็ไม่ได้รับความยินยอมจาก กกต ที่กระสันอยากให้เป็นโมฆะอยู่แล้ว

เซ็งนะครับประเทศไทย คงจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

แต่เสื้อแดง นปช อย่าคิดว่า ปชป กปปส คปท ทำได้แล้วตนเองมาขัดขวางการเลือกตั้งบ้าง ศาลไม่ตัดสินออกมาแบบเดียวกันหรอกครับ ไม่ว่านปช จะอ้างอะไรก็ตามแต่ ศาล รธน สามารถแถ ได้ 360 องศาอยู่แล้ว

ผมสังเกตุนะว่า ภาษาที่ ปชป ปปช กกต ตลก รธน นิยมใช้เวลาเถียง ดูจะถอดมาจากรากเหง้าเดียวกัน