SPOILER!!! เจ้าสาวแห่งทางสายไหม ตอนที่ 37 - ปรารถนาของเจ้านกน้อย...

กลับมาพบตอนใหม่ของเจ้าสาวแห่งทางสายไหมกันอีกรอบในเดือนนี้นะครับ

ผมอ่านตอนนี้ครั้งแรกในบล็อคชาวญี่ปุ่นที่เอามาสปอยล์ให้ฟังคร่าวๆ เนื้อหาที่ได้รู้ทำเอาผมแทบหงายเงิบไปเลย เพราะพลิกล็อคจากที่หลายๆ ท่านคาดไว้ในตอนนี้แล้วมากจริงๆ (เอาเป็นว่าอย่างน้อยผมก็นึกไม่ถึงนั่นละ)

ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไงนั้นไปชมพร้อมกันได้เลยครับ ยิ้ม






เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่สมิธบอกเจ้าบ้าน (สามีของอานิส) ว่าอยากไปชมมัสยิด* ในแถบนี้หน่อย ซึ่งท่านเจ้าบ้านก็ตกลงจะพาไป

วันรุ่งขึ้น ท่านเจ้าบ้านก็พาสมิธกับอาลีไปชมมัสยิดที่ใหญ่โตที่สุดและงดงามที่สุดในแถบนั้น ความใหญ่โตของมัสยิดทำเอาสมิธถึงกับอ้าปากค้าง หันไปถามว่ามัสยิดนี่สร้างมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ อาลีก็เป็นฝ่ายตอบแทนว่าก็สร้างมาตั้งนานมาแล้วโน่นแหละ ได้ยินอีกฝ่ายตอบมาส่งๆ แบบนั้น สมิธก็ขยายความว่าที่เขาอยากรู้คือมัสยิดนี่สร้างมาตั้งแต่สมัยไหนต่างหาก


มัสยิดที่ท่านเจ้าบ้านพาสมิธไปดู



*หมายเหตุ - ในตอนก่อนผมใส่ไปว่าเป็นอารามหรือวิหาร เพราะในฉบับภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่าวิหารตรงๆ เลย ไม่ได้ใช้คำว่ามัสยิด แต่ผมดูจากบริบทในเรื่องแล้วน่าจะเป็นมัสยิดมากกว่า (สังเกตมาตั้งแต่ช่วงเนื้อเรื่องของไลล่ากับเลย์ลี่แล้ว อ.แกจะพยายามเลี่ยงไม่พูดถึงชื่อในศาสนาอิสลามตรงๆ เลย อย่างตอนเชือดแกะที่ต้องเอ่ยนามอัลเลาะฮ์ก่อนเชือดเองก็เลี่ยงไปใช้คำว่า "พระผู้เป็นเจ้า" แทน หรือตอนโต๊ะอิหม่ามมาทำพิธีก็เลี่ยงไปใช้คำว่า "นักบวช" แทน ซึ่งจริงๆ ไม่น่าใช่)



ระหว่างที่คุยกัน สมิธก็เผลอเดินชนผู้หญิงสวมชุดคลุมสีเข้มปิดหน้าปิดตาตั้งแต่หัวจรดเท้าบนถนนเข้าเลยพอหันไปจะขอโทษ แต่ฝ่ายหญิงกลับเร่งฝีเท้าเดินหนีเฉย สมิธเจอปฏิกิริยาแบบนั้นเข้าก็ถึงกับงง ยิ่งเห็นเครื่องแต่งตัวของอีกฝ่ายเข้าก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่จนเผลอใจลอยมองตามผู้หญิงคนนั้นไป อาลีต้องเข้ามาเตือนว่าอย่าเที่ยวไปจ้องผู้หญิงแถบนี้ซะเขม็งแบบนั้นสิ ไม่งั้นอาจโดนหาว่าเป็นคนไม่ดีก็ได้ สมิธก็รับคำไปแบบงงๆ มึนๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวที่มีแต่ผู้หญิงในชุดคลุมเดินกันอยู่เต็มถนน แล้วเปรยๆ ขึ้นมาว่าเมืองนี้บรรยากาศแตกต่างจากเมืองก่อนๆ ที่เคยเดินทางมาลิบลับเลยนะ อาลีก็ตอบรับไปแกนๆ แล้วบอกว่าแต่ละท้องที่ก็มีธรรมเนียม มีอะไรแตกต่างกันไปอย่างที่เห็นนั่นแหละ (มีบอกด้วยว่าบรรยากาศอย่างที่หมู่บ้านแถวทะเลอารัลที่พวกเราเพิ่งเดินทางผ่านมาน่ะถือว่าหายากในแถบนี้เสียด้วยซ้ำ)


ชุดออกจากบ้านของผู้หญิงในแถบนี้



คุยเสร็จก็ทำท่าจะไปกันต่อ แต่ก่อนจะทันได้ไป สมิธก็หันไปสะกิดใจกับอาคารหลังหนึ่งที่มีผู้หญิงในชุดคลุมสีเข้มเดินเข้าออกกันเยอะๆ เลยถามอาลีว่านั่นอาคารอะไร ใช่ที่สวดมนต์ (คิดว่าน่าจะเป็นที่สำหรับละหมาดแฮะ) รึเปล่า อาลีก็ตอบว่าเปล่า นั่นน่ะห้องอาบน้ำสาธารณะของพวกผู้หญิงเค้าต่างหาก


ทางเข้าห้องอาบน้ำสาธารณะสำหรับผู้หญิงที่ว่า



ตัดฉากกลับมาที่คฤหาสน์ อานิสกำลังนั่งเหงาๆ อยู่ก็ปรับทุกข์กับแมฟ สาวใช้ต้นห้องของตัวเองว่าเคยรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวช่างดูไกลแสนไกลเหลือเกินรึเปล่า แมฟได้ยินทีแรกก็ทำหน้างงๆ เหมือนไม่เข้าใจว่านายหญิงต้องการสื่ออะไร อานิสก็อธิบายต่อว่า บางครั้งเธอก็รู้สึกขึ้นมาบ่อยๆ ว่าทั้งที่มีความสุขแท้ๆ แต่บางครั้งก็กลับรู้สึกเหมือนทุกสิ่งรอบตัวถอยห่างไปไกลแสนไกล

แมฟได้ยินดังนั้นก็ถึงบางอ้อขึ้นมาทันควัน ตีหน้ายิ้มแย้มบอกกับนายสาวว่า ที่รู้สึกแบบนั้นก็เพราะคุณนายอยู่คนเดียวกับต้นไม้กับน้องนกน้องแมวในบ้านมาตลอด ไม่เคยมีใครที่มีฐานะเท่าเทียมกันให้พูดคุยคลายเหงาได้เลยน่ะสิ ว่าจบก็ขยับหน้าเข้ามาใกล้นายสาวพร้อมตีหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเหมือนกำลังเอ่ยความลับสุดยอดว่า

"ถ้าไม่มีใครเป็นเพื่อนคุยเพื่อนเล่นละก็ ลองหา 'เมียพี่เมียน้อง*' ดูสิเจ้าคะ"


*หมายเหตุ - คำนี้ในภาษาญี่ปุ่นใช้ "姉妹妻" ไม่รู้จะแปลยังไงดีเหมือนกันแฮะ


อานิสก็ทำหน้าอึ้งๆ งงๆ แมฟก็อธิบายต่อว่า ผู้หญิงเราน่ะนะเจ้าคะไม่ว่าใครก็ต้องการ "เมียพี่เมียน้อง" สักคนทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ อานิสก็ถามว่าเมียพี่เมียน้องที่ว่าคืออะไรเหรอ แมฟก็อธิบายว่า เมียพี่เมียน้องก็คือคนพิเศษของเจ้าสาวหรือเมียหลวง คือการที่หญิงซึ่งแต่งงานมีลูกแล้วให้สัตย์สาบานในฐานะภรรยาของสามีคนเดียวกันและในฐานะแม่ของลูก ว่าจะไม่รังเกียจหรือพูดจาว่าร้ายหญิงซึ่งเป็นอนุภรรยาของสามี จะไม่เห็นความสัมพันธ์อื่นใดดีไปกว่าความสัมพันธ์ที่มีต่อกันระหว่างภรรยาหลวงและอนุภรรยา จะพูดคุยกันทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องร้าย เรื่องสุขหรือเรื่องเศร้า และจะเป็นคนที่เข้าใจอีกฝ่ายยิ่งกว่าใคร

"เรียกง่ายๆ ก็คือเพื่อนตายชั่วชีวิตนั่นแหละเจ้าค่ะ"





อานิสได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าเคลิบเคลิ้มเหมือนเห็นดีเห็นงามกับข้อเสนอของแมฟเต็มที่ แต่ก็แย้งว่าตัวเองไม่รู้จักใครพอจะหามาเป็น "เมียพี่เมียน้อง" ได้เลยนี่สิ แมฟก็บอกว่า งั้นก็ไปโรงอาบน้ำสาธารณะสิเจ้าคะ พวกผู้หญิงหรือภรรยาบ้านอื่นเขาก็ไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำสาธารณะด้วยกันทั้งนั้นแหละเจ้าค่ะ ตามด้วยกระทุ้งต่อว่าไม่เคยไปโรงอาบน้ำสาธารณะนับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตลูกผู้หญิงนะเจ้าคะ (อันนี้พอเข้าใจหน่อยๆ แฮะ เพราะในโรงอาบน้ำสาธารณะเป็นสถานที่เดียวที่ผู้หญิงแถบนั้นสามารถเปิดอกคุยกันได้อย่างไม่ต้องกลัวธรรมเนียมหรืออะไร ดังนั้นจะชอบไปโรงอาบน้ำกันก็ไม่แปลก)

ได้ยินแมฟกระตุ้นดังนั้น อานิสก็ไปขออนุญาตสามีขอไปอาบน้ำในโรงอาบน้ำสาธารณะข้างนอกทันที สามีก็งง แย้งว่าบ้านเรามีห้องอาบน้ำดีกว่าตั้งเยอะ จะเสียเวลาออกไปอาบนอกบ้านให้เมื่อยขาทำไม แต่พออานิสอ้อนมากเข้าก็ยอมปล่อยให้ไปแต่โดยดี โดยต้องให้แมฟตามไปดูแลด้วย


ภาพหน้าเต็มๆ ของสามีของอานิสครับ ดูธรรมดากว่าที่คิดหน่อย แต่ไว้เคราแล้วหล่อใช้ได้เหมือนกันแฮะ



หลังสามีอนุญาต สองนายบ่าวก็จัดแจงแต่งตัวด้วยชุดคลุมทั้งตัวสีเข้มอย่างที่ผู้หญิงทั่วไปสวมเวลาจะออกนอกบ้าน แล้วออกจากบ้านตรงไปยังโรงอาบน้ำสาธารณะทันที โดยเมื่อเข้าไปถึงในห้องเปลี่ยนเสื้อ ก็พบผู้หญิงจำนวนหลายสิบคนกำลังถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำไปพลาง คุยกันเสียงจ้อกแจ้กไปพลางอย่างร่าเริงมีชีวิตชีวาต่างจากตอนใส่ชุดคลุมอยู่ข้างนอกชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้า อานิสไม่เคยมาโรงอาบน้ำแบบนี้มาก่อนก็ถึงกับตะลึงต่อบรรยากาศครื่นเครงภายในโรงอาบน้ำเป็นอย่างมาก

ตอนนั้นเองก็มีสาวๆ กลุ่มหนึ่งท่าทางเป็นเพื่อนของแมฟเดินเข้ามาทักทาย แมฟก็หันไปคุยด้วย พร้อมแนะนำอานิสให้เพื่อนๆ รู้จัก สาวๆ คนอื่น (รวมทั้งที่ไม่สาวแล้ว) ได้ยินว่าอานิสเป็นภรรยาเศรษฐีใหญ่ของเมืองก็กรูกันเข้ามาพูดคุยด้วยอย่างตื่นเต้น เพราะอานิสไม่เคยปรากฏตัวให้พวกผู้หญิงคนอื่นๆ เห็นเลย อานิสโดนสาวๆ คนอื่นมะรุมมะตุ้มหนักเข้าก็เริ่มออกอาการไปไม่เป็น ไม่รู้จะตอบรับยังไง แมฟต้องเข้ามากันพวกสาวๆ ออก พร้อมกับพาอานิสไปผลัดเสื้อสำหรับเข้าห้องอาบน้ำทันที

(อนึ่ง เนื่องจากหลังจากนี้ไปมีภาพ 18+ อยู่เยอะ ดังนั้นผมขอไม่ลงภาพเว้นแต่ภาพที่จำเป็นต้องลงจริงๆ เท่านั้นนะครับ)


เข้าไปในห้องอาบน้ำปุ๊บก็พบหญิงสาวมากมายกำลังอาบน้ำกันอยู่ บ้างก็จับกลุ่มพูดคุยกันอยู่เงียบๆ ที่มุมห้องอาบน้ำบ้างที่ริมอ่างอาบน้ำบ้าง อานิสเพิ่งเคยเข้ามาครั้งแรกก็เบิกตากว้างอย่างตะลึงต่อความกว้างของสถานที่และจำนวนผู้หญิงที่อยู่ในนั้น ระหว่างนั้นแมฟก็พาอานิสไปรู้จักกับหญิงวัยกลางคนอีกคนหนึ่งท่าทางเป็นเพื่อนของตัวเอง แนะนำตัวกันเสร็จก็ชวนกันไปอาบน้ำ แล้วนั่งคุยโน่นคุยนี่กันที่ริมอ่างน้ำเหมือนอย่างผู้หญิงกลุ่มอื่นๆ

ระหว่างที่แมฟกับเพื่อนกำลังคุยกันอยู่นั้นเอง สายตาของอานิสก็หันไปเห็นหญิงสาววัยแรกรุ่นหน้าตาสวยคนหนึ่งนั่งอยู่คนเดียวที่ริมอ่างอาบน้อีกฟาก ความสวยของหญิงสาวคนนั้นทำเอาอานิสถึงกับเหม่อมองตามอย่างใจลอย




จนในที่สุด หญิงสาวคนนั้นก็รู้ตัวว่ากำลังถูกจ้องมองอยู่ จึงหันมาสบตากับอานิสด้วยดวงตาดำขลับเป็นประกายเช่นกัน
  









อ่านจากบล็อคคนญี่ปุ่นถึงเนื้อหาตอนทีแรกถึงกับเงิบไปเลยจริงๆ แฮะ สรุปว่าอานิสไม่ได้ซึมเพราะขาดอิสระเลยอยากไปจากกรงทอง แต่ซึมเพราะเหงาอยากได้ "เพื่อนร่วมกรงอีกคน" หรอกเรอะเนี่ย เรียกว่าพลิกกลับแบบหักศอกของจริงเลย

ว่าแต่อ่านตอนนี้แล้วเห็นภาพสังคมที่ผู้หญิงเป็นสิ่งถูกเก็บได้ชัดเจนเลยแฮะ ไม่มีอิสระเป็นของตัวเอง ไม่มีทางเลือกเป็นของตัวเอง ไม่มีที่ยืนในโลกภายนอก จะเฮฮากันได้ก็เฉพาะในกลุ่มของตัวเอง หรือในที่เฉพาะที่เขาจัดไว้ให้เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ออกไปเฮฮาข้างนอกเหมือนอย่างผู้ชาย เรียกว่าเป็นชีวิตที่เหมือนสมบัติของสามีจริงๆ (กรณีของอานิสนี่ยังโชคดีได้สามีดีๆ คุ้มครอง ชีวิตเลยยังไม่ลำบากมากนัก นอกจากมีเหงาบ้างเป็นระยะๆ แต่ถ้าได้สามีร้ายๆ ประเภทเอาเมียติดข้างฝาประจำนี่ไม่อยากนึกเลยจริงๆ)

อนึ่ง น้องคนที่อานิสหมายตาไว้คนนั้นน่ารักโฮกๆ เลยแฮะ ยิ่งจินตนาการภาพตอนอยู่กับอานิสเหมือนใน 2 ภาพตรงกลางๆ แล้วยิ่งแอบฟินเข้าไปใหญ่เลย อมยิ้ม07

ยังไงก็รอดูตอนหน้าโลดครับว่าปฏิบัติการหากิ๊กให้สามีของอานิสจะเป็นยังไงต่อไป หัวเราะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่