สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องโง่ๆในรั้วมหาวิทยาลัยกัน โดยในคณะของผมนั้น ได้แบ่งแยกออกมาจากคณะอื่นอย่างชัดเจน แต่ในคณะกลับ เป็นที่รู้จักเพราะ มีคนหน้าตาดีค่อนข้างเยอะ บวกกับที่เป็นภาคอินเตอจึงดูมีสตางขึ้นมาอีก เรียกได้ว่ามือไครยาวสาวได้สาวเอา และหนึ่งคนที่สุดจะโดดเด่นก็คือ "พี่โจอี้" พี่โจอี้เป็นคนที่เรียกได้ว่า หล่อเหมือนหลุดออกมาจาก หน้าปกนิยายแจ่มใสอะไรยังงั้น ผิวของเขาชั่งขาวดังใข่มุข สูงยาวล่ำซัมกำลังพอดี และมีรอยยิ้มแสนบาดใจ มันก็จะไม่แปลกเลยที่พี่ โจอี้จะมีสาวเข้ามาติดพันมากมาย แต่ก็นั้นแหละครับแต่ผมสังเกตพี่เขาว่าทำไมถึงได้ ไม่มีไครเป็นตัวเป็นตนซักที จนพอดีผมได้มาทำงานที่คณะกับพี่เขา ก็ได้รู้สึกถึงความประหลาดของเขา เวลาที่พี่โจอี้ ทักเพื่อพี่เขาจะพูดว่า "ว่างัยวัยรุ่น" (นึกในใจคงคิดว่าบ้านนอกใช่ไหมครับ) คือที่ผมจะสื่อคือเขาไม่ได่เล่นมุขให้ฮาๆอะไรหรอกนะครับ แต่เขาคิดว่ามันเท่ โดยพี่โจอี้นั้นเขาเป็นคนโลกส่วนตัวมากโดยบางทีจะสังเกตเขาพูดคนเดียว ที่จริงแล้วเขาไม่ได้พูดคนเดียวหรอกครับ เขากำลังพูดกับ "ทอมมี่" ทอมมีคือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา สงสัยสินะครับว่าไครคือ"ทอมมี" ทอมมี่คือปากกาครับ โดยพี่โจอี้เขาจะมีปากกาที่เขาพกติดตัวตลอดแล้วเขาก้ตั้งชื่อไห้มัน ดูเพี้ยนใช่ไหมหละครับ แต่อย่าได้พูดยังงั้นกับเขานะครับ เพราะเขาจะโกรธ มากแล้วพาลมาระบายกับทอมมี่ อีก ผมไม่อยากให้เขาคุยกับทอมมี่มากนักกลัวเขากลายเป็นเด็กมีปมด้อย กลัวบางทีจะคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่อง จนกลายเป็นภาระสังคมในภายภาคหน้า จนวันนึงผมแกล้งหักฝา ทอมมี่ดู พี่โจอี้โมโหโวยวายใหญ่โต จะเอาเรื่องไห้ได้แต่ก็จับไม่ได้หรอกครับ(โถ่ไอโง่) อีกวันผมก็ลองเอาทอมมีมาสลับกับปากกาอีกแท่งที่เหมือนๆกัน พี่เขากลับตีเนียนโชวโง่คุยกับทอมมี่ต่อไป นึกแล้วก็ตลกในความ ซื่อ(บื้อ)ของเขา.
ผมมักจะพยายามหาเรื่องคุยกับพี่โจอี้เสมอ โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงโดยพี่โจอี้ มันโอ้อวดให้ฟังเสมอว่ามีผู้หญิงมากหน้าหลายตามาให้เขาเลือก จนผมรู้สึกหมันใส้พี่โจอี้ จึงไปลองถามผู้หญิงเหล่านั้นดู ปรากดว่าเป็นตามที่ผมคิดคับ พี่โจอี้ไม่เต็ม โดยผู้หญิงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่โอเค ผมจะยกตัวอย่างวีรกรรมบางอย่างให้ฟัง เป็นเรื่องเล่าที่เล่าต่อกันมาในหมู่ผู้หญิงโดยกว่าที่ผมจะสืบข้อมูลลับนี้ได้ผมต้องแฝงกายเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้ญิงเป็นเวลาหนึ่งเดิอน โดยผมพลางตัวเป็นเก้งหาชะนีเม้ามอย ทำไห้ผมติดนิสัยมนกลุ่มนั้นมาด้วยนะยะ โดยพอได้ข้อมูลมาครบถ้วนแล้วก็ชิงสิยะ จะไปอยู่ทำไมกลุ่มชะนี สวยๆเชิดๆอย่างเรา ร่ายยาวซะนานแต่เรื่องนี้ก็ถือเป็นเหตุการ ที่ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองต่อพี่โจอี้ไปเลย วันหนึ่งพี่โจอี้ได้ไปทานข้าวกับ ดาว ซึ่งเป็นผู้หญิงจัดว่าสวยคนหนึ่ง โดยพี่โจอี้ก็ไม่รอช้าพูดคุยทำการละลายพฤติกาม ในแบบของเขา อ่านไม่ผิดหรอกครับมันคือพฤติกามจริงๆ เขามักจะคิดว่าลึกๆผู้หญิงทุกคนแอบชอบเขาแล้วอยากมีเพศสัมพันธ์กับเขา(ทั้งๆที่มิงก็ยังซิง) โดยเขาจะพูดประโยคแรกคือ วันนี้ใส่กางเกงในมาหรือเปล่า นี่แหละครับวิธีละลายพฤติกามของเขา โดยเขาจะถามอย่างงี้ตอนเวลาไม่มีอะไรจะคุยด้วย เขาก็จะพูดซ้ำอีก ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นกระตุ้นอารมทางเพศของฝ่ายตรงข้าม จนผู้หญิงคงคิดว่ามิงจะกระตุ้นอะไรนักหนา กระตุ้นขนาดนี้มิงมาปรี้กรุเลยดีกว่า นั้นแหละครับทำให้ผมมองพี่โจอี้เปลี่ยนไปจากผู้ชายสุดแสนเพอร์เฟค กลายเป็นขยะเน่าๆไม่ต่างอะไรกับวัชพืชที่ได้แต่สร้างความรำคาญให้ทาระกำนัน ไปกับเพื่อน เพื่อนก็จะพากันอับอายจนทนไม่ได้ ต้องแยกย้ายหายแยกแต่ที่จริงแล้วพี่โจอี้ก็มีข้อดีเหมือนกันนะครับคือพี่เขาเป็นคนซื่อๆ อย่างเวลาไปกินเหล้าท่ายุเขาหน่อยเขาก็จะใจปั้มมากไม่ไห้น้องต้องออกแม้แต่บาทเดีวว ผมก็หลอก-เงินพี่เขาไปเรื่อยๆ จนวันนึงผมกลับรุสึกใจอ่อนกับพี่เขา รู้สึกถึงความดีของพี่เขา จนอาจจะหลงรักเขาก็เป็นได้ แน่นอนว่าผมไม่ใช่เกย์ ผมแค่มีความรู้สึกดีๆให้กับผู้ชาย แค่อยากคอยมองเขาจากข้างหลัง(พี่เขาชอบใส่กางเกงฟิตๆครับทำไมผมถึงรู้ผมไม่ได้ตั้งใจมองหลอกนะ!) เพราะว่าท่าผมเป็นเกย์ ผู้หญิงหลายๆคนต้องเสียใจมากแน่ๆครับเพราะผมก็ถือว่าหน้าตาดี และมีสเน่ดึงดูดสวาทสาวๆเป็นอย่างมาก แต่พี่โจอี้เขาก็ดูมีใจไห้ผมนะ เขาชอบบอกว่าเมื่อไหรจะคืนตังกรุ ผมรู้หรอก ว่าจะหาเรื่องคุย แหมปากแข็ง โดยเขาไม่ย่อท้อครับโทรหาเช้าเย็น กลัวผมไม่รับรักละซี้ อุอิครุคริ
ปล.ผมควรจะสารภาพรักกับพี่เขาเลยไหมครับ แล้วจะบอกที่บ้านยังไงกลัวเขารับไม่ได้
ปล.2 ผมเมา
เมื่อผมมีปัญหากับรุ่นพี่ที่มหาลัย
ผมมักจะพยายามหาเรื่องคุยกับพี่โจอี้เสมอ โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงโดยพี่โจอี้ มันโอ้อวดให้ฟังเสมอว่ามีผู้หญิงมากหน้าหลายตามาให้เขาเลือก จนผมรู้สึกหมันใส้พี่โจอี้ จึงไปลองถามผู้หญิงเหล่านั้นดู ปรากดว่าเป็นตามที่ผมคิดคับ พี่โจอี้ไม่เต็ม โดยผู้หญิงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่โอเค ผมจะยกตัวอย่างวีรกรรมบางอย่างให้ฟัง เป็นเรื่องเล่าที่เล่าต่อกันมาในหมู่ผู้หญิงโดยกว่าที่ผมจะสืบข้อมูลลับนี้ได้ผมต้องแฝงกายเข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้ญิงเป็นเวลาหนึ่งเดิอน โดยผมพลางตัวเป็นเก้งหาชะนีเม้ามอย ทำไห้ผมติดนิสัยมนกลุ่มนั้นมาด้วยนะยะ โดยพอได้ข้อมูลมาครบถ้วนแล้วก็ชิงสิยะ จะไปอยู่ทำไมกลุ่มชะนี สวยๆเชิดๆอย่างเรา ร่ายยาวซะนานแต่เรื่องนี้ก็ถือเป็นเหตุการ ที่ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองต่อพี่โจอี้ไปเลย วันหนึ่งพี่โจอี้ได้ไปทานข้าวกับ ดาว ซึ่งเป็นผู้หญิงจัดว่าสวยคนหนึ่ง โดยพี่โจอี้ก็ไม่รอช้าพูดคุยทำการละลายพฤติกาม ในแบบของเขา อ่านไม่ผิดหรอกครับมันคือพฤติกามจริงๆ เขามักจะคิดว่าลึกๆผู้หญิงทุกคนแอบชอบเขาแล้วอยากมีเพศสัมพันธ์กับเขา(ทั้งๆที่มิงก็ยังซิง) โดยเขาจะพูดประโยคแรกคือ วันนี้ใส่กางเกงในมาหรือเปล่า นี่แหละครับวิธีละลายพฤติกามของเขา โดยเขาจะถามอย่างงี้ตอนเวลาไม่มีอะไรจะคุยด้วย เขาก็จะพูดซ้ำอีก ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นกระตุ้นอารมทางเพศของฝ่ายตรงข้าม จนผู้หญิงคงคิดว่ามิงจะกระตุ้นอะไรนักหนา กระตุ้นขนาดนี้มิงมาปรี้กรุเลยดีกว่า นั้นแหละครับทำให้ผมมองพี่โจอี้เปลี่ยนไปจากผู้ชายสุดแสนเพอร์เฟค กลายเป็นขยะเน่าๆไม่ต่างอะไรกับวัชพืชที่ได้แต่สร้างความรำคาญให้ทาระกำนัน ไปกับเพื่อน เพื่อนก็จะพากันอับอายจนทนไม่ได้ ต้องแยกย้ายหายแยกแต่ที่จริงแล้วพี่โจอี้ก็มีข้อดีเหมือนกันนะครับคือพี่เขาเป็นคนซื่อๆ อย่างเวลาไปกินเหล้าท่ายุเขาหน่อยเขาก็จะใจปั้มมากไม่ไห้น้องต้องออกแม้แต่บาทเดีวว ผมก็หลอก-เงินพี่เขาไปเรื่อยๆ จนวันนึงผมกลับรุสึกใจอ่อนกับพี่เขา รู้สึกถึงความดีของพี่เขา จนอาจจะหลงรักเขาก็เป็นได้ แน่นอนว่าผมไม่ใช่เกย์ ผมแค่มีความรู้สึกดีๆให้กับผู้ชาย แค่อยากคอยมองเขาจากข้างหลัง(พี่เขาชอบใส่กางเกงฟิตๆครับทำไมผมถึงรู้ผมไม่ได้ตั้งใจมองหลอกนะ!) เพราะว่าท่าผมเป็นเกย์ ผู้หญิงหลายๆคนต้องเสียใจมากแน่ๆครับเพราะผมก็ถือว่าหน้าตาดี และมีสเน่ดึงดูดสวาทสาวๆเป็นอย่างมาก แต่พี่โจอี้เขาก็ดูมีใจไห้ผมนะ เขาชอบบอกว่าเมื่อไหรจะคืนตังกรุ ผมรู้หรอก ว่าจะหาเรื่องคุย แหมปากแข็ง โดยเขาไม่ย่อท้อครับโทรหาเช้าเย็น กลัวผมไม่รับรักละซี้ อุอิครุคริ
ปล.ผมควรจะสารภาพรักกับพี่เขาเลยไหมครับ แล้วจะบอกที่บ้านยังไงกลัวเขารับไม่ได้
ปล.2 ผมเมา