สงสัยเรื่องยุคพระศรีอาริย์

คือ แบบว่า เมื่อไม่นานมานี้มีคนมาชวนผมเข้าร่วมลัทธิ ลัทธินึง(ไม่เอ่ยนามนะ)
ที่ผมเรียกว่าลัทธิเพราะผมไม่รู้ว่าเป็นศาสนาหรือเปล่า

เค้าชวนผมไปเข้าร่วมโดยบอกว่าตอนนี้สังคมตกต่ำ ธรรมสิ้นสูญอะไรเนี่ยแหละ เข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์แล้ว
ถ้าเข้าร่วมกับเค้าจะแคล้วคลาดปลอดภัย
ผมว่ามันฟังทะยิ้มๆเลยปฏิเสธไป

จากที่ท้าวความมาผมเลยสงสัยว่าเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์ตั้งแต่เมื่อไหร่?(หรือผมตกข่าว)
เพราะที่เคยรู้มาตอนนี้ยังอยู่ในยุคของศาสนาของพระสมณโคดมอยู่เลย(น่าจะมีอายุ5000ปีมั้งถ้าจำไม่ผิด)
ส่วนยุคพระศรีอาริย์ยังอยู่อีกยาวไกลจนกว่ามนุษย์จะมีอายุขัย 80000 ปี(มั้งนะ)

เลยอยากถามผู้รู้เกี่ยวกับยุคพระศรีอาริย์หน่อยครับ จะได้มีไว้ประดับความรู้(กลัวโดนหลอก)

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เอาง่ายๆนะคะ ต้องหมดยุคพุทธศาสนาไปแล้วนานแสนนานมากๆ ใช่ว่าพอหมดยุคพระสมนโคดมแล้ว พระศรีอรินะเมตไตยจะลงมาเป้นพระพุทธเจ้าทันดีหรือก็เปล่า ยังมีช่วงเวลาที่ว่างเว้นพระศาสนาอยุ่อีก 1 พุทธธันดร จะเป็นช่วงเวลาที่วส่างจากพระพุทธศาสนา มีแต่พระปัจเจกพุทธเจ้าเท่านั้นในช่วงนี้ พระเทวทัตน์เองก็จะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง แต่ตอนนั้นยังอยุ่ในรอเวจีมหานรกอยุ่เลย คิดดูละกันว่ายังอีกยาวนานแค่ไหน

ส่วนพระอริยเมตไตยตอนนี้ยังเสวยสุขอยุ่ในสวรรค์อยู่เลย เรพาะงั้นอย่าไปเชื่อเรื่องลวงโลกแบบนั้นเลยค่ะ
ปล.อายุพระพุทธศาสนา ที่ว่ามี 5000 ปีไม่ใช่พุทธพจน์ค่ะ พระองค์ตรัสแค่เรื่องธาตุอันตรธานปริวัตต์
คำว่า อัตรธาน คือ ความเสื่อมสูญเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา มี ๕ ประการ คือ
๑.ปริยัติอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งพระปริยัติ
๒.ปฏิบัติอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งการปฏิบัติ
๓.ปฏิเวธอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งการสำเร็จมรรคผลนิพพาน
๔.ลิงคอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งเพศสมณะ
๕.ธาตุอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งพระบรมธาตุ

เมื่อใดก็ตรามที่ภิกษุอันมีแค่เพียงจีวรติดใบหุนิดเดียวก็พากันละทิ้งเสียตามที่ตัสไว้ว่า “ดูก่อนอานนท์ ในอนาคตกาล จะหาภิกษุผู้ทรงไว้ซึ่งจีวรมิได้ จะมีก็แต่โครตภูสงฆ์ คือ พระสงฆ์รุ่นสุดท้ายในพระพุทธศาสนา ผู้มีผ้ากาสาวพัสตร์ผูกที่ข้อมือหรือห้อยอยู่ที่คอ หาศีลาจาวัตรมิได้

แม้กระนั้นถ้าหากจะมีทายกมีจิตศรัทธาปรารถนาจะทำบุญ ก็จงตั้งจิตอุทิศถวายเพื่อสงฆ์ แล้ววัตถุจตุปัจจัยถวายแก่ภิกษุผู้มีผ้ากาสาวพัสตร์ผูกที่ข้อมือหรือห้อยที่คอนั้น ก็จะเกิดผลานิสงส์มหาศาลเช่นกัน”

ถึงแม้ภิกษุทั้งหลายจะมีความเป็นอยู่ย่อหย่อนถึงเพียงนั้น ก็ชื่อว่าเพศภิกษุยังคงอยู่ไม่อันตรธาน แต่เมื่อกาลเวลาล่วงไป ภิกษุเหล่านั้นพากันละทิ้งผ้าเหลืองชิ้นน้อยๆ ที่ติดตัวอยู่นั้นเสีย จึงได้ชื่อว่า ลิงคอันตรธาน คือเพศภิกษุสูญสิ้นไม่เหลือเศษอีกต่อไป

ธาตุอันตรธาน

ธาตุอันตรธานเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ พระบรมธาตุนิพพาน “ และคำว่านิพพานนั้นมี ๓ ประการ คือ
๑. กิเลสนิพพาน คือการตรัสรู้ที่โคนต้นศรีมหาโพธิ์
๒. ขันธนิพพาน คือการดับเบญจขันธ์ ที่สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา
๓. ธาตุนิพพาน คือพระบรมสารีริกธาตุสูญสิ้นไปจากโลก ซึ่งจักเกิดขึ้นในอนาคต

การนิพพานแห่งพระบรมสารีริกธาตุแห่งพระบรมศาสดาที่ประดิษฐานอยู่ในที่ต่างๆ เมื่อไม่มีผู้สักการะบูชาพระบรมธาตุก็จะเสด็จไปยังถิ่นประเทศที่มีคนเคารพสักการบูชา จวบจนวาระสุดท้ายมาถึง ทั่วทุกถิ่นประเทศหาผู้สักการบูชาไม่มีเลย พระบรมธาตุทั้งหลายจากโลกมนุษย์ เทวโลกและนาคพิภพ จะเสด็จมาสู่ต้นพระศรีมหาโพธิ์สถานที่ตรัสรู้ทั้งหมด แล้วรวมกันเป็นรูปของพระพุทธองค์ ทรงประดิษฐ์สถาน ณ โคนต้นศรีมหาโพธิ์นั้น ประหนึ่งว่าพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ จะทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์ในที่นั้น แต่ในครั้งนี้มนุษย์และสัตว์โลกทั้งหลายจะมิมีผู้ใดได้เห็นพระองค์เลย

ฝ่ายเทพยดาทั้งหลายในหมื่นจักรวาล จะพากันมาประชุม ณ ที่นั้น ต่างก็กรรแสงโศกาอาดูรเหมือนเมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ปรินิพพานที่เมืองกุสินารา ลำดับนั้น เตโชธาตุก็เกิดขึ้นที่พระสรีรธาตุเผาผลาญพระบรมธาตุจนหมดสิ้นหาเศษมิได้ เข้าถึงซึ่งความสูญหายไปจากโลก ได้ชื่อว่า “พระบรมธาตุนิพพาน”

อายุกาลแห่งพระพุทธศาสนาก็สิ้นสุดลง ในบัดนั้น
คาดว่าเรื่อง 5000 ปี อายุพระศาสนา น่าจะถูกแต่งขึ้นมาใช้ชั้นหลังมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่