เมื่อคราวที่ทัพแดงแตกสานซ่านเซ็นแกนนำหลายคนถูกจับกุมคุมขัง

ผู้ร่วมชุมนุมจำนวนมากบาดเจ็บล้มตาย สื่อและความจริงถูกปิดกั้นในทุกช่องทาง แนวร่วมตกอยู่ในสภาพหวาดหวั่นขวัญเสีย

นปช. ซึ่ีงมีผู้ร่วมอุดมการณ์มากมาย หากแต่แตกต่างกันในรายละเอียดและที่มา
สุ่มเสี่ยงต่อการล้มครืนและความวุ่นวายในการเคลื่อนไหว เพราะไม่มีการกำหนดทิศทางที่ชัดเจน

ในภาวะการณ์เช่นนั้นผู้ที่จะก้าวขึ้นมานำ นปช.ได้ ต้องกอปรไปด้วย
ความเสียสละ กล้าหาญ สุขุมรอบคอบ เข้าใจยุทธศาสตร์การเมือง และสามารถขับเคลื่อนพลังมวลชนที่มีความแตกต่างกันได้

ยามนั้นเราได้เห็นอดีต "สหายปูน" หรือ ธิดา ถาวรเศรษฐ
ผู้หญิงที่มีประวัติการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์อันยาวนานตั้งแต่สมัยเป็นคนหนุ่มสาว
ผู้อยู่เบื้องหลังทีมงานยุทธศาสตร์ของ นปช.มาตลอด
(แม้ว่าบางครั้งแนวทางที่เธอเสนอจะไม่ได้รับการสนองตอบ แต่ก็พิสูจน์ได้ว่าแนวทางการเคลื่อนไหวของเธอนั้นถูกต้อง จากผลของการแตกพ่ายเมื่อปี 53)
"ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ"

ธิดา ต้องเผชิญคลื่นลมมากมายทั้งจากภายนอกและภายใน นปช.เอง
เธอต้องพบกับการกระหน่ำโจมตีจากเบื้องนอก และความวุ่นวายจากความคิดเห็นที่ขัดแย้งรวมถึงภาวะเสียขวัญของมวลชน นปช.

แต่เธอก็ นิ่ง มั่นคง และหยัดหยัดฝ่าฟัน
ที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งคือ ความสุขุมรอบคอบที่เนื่องมาจากประสบการณ์การต่อสู้ทางการเมืองอันยาวนาน

การประกอบไปด้วยความละเอียดอ่อนของผู้หญิงและสัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่ที่เห็นได้จากการติดตามเอาใจใส่ครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมและการไม่ทอดทิ้งผู้ชุมนุมที่ยังถูกจับกุมคุมขัง

การยึดมั่นในสันติวิธี การรู้จักจังหวะรุกถอย มีทั้งบทอ่อนและบทแข็ง

ดังนั้นเราจึงได้เห็นยุทธศาสตร์
"สองขา ห้าเขต"
จากแม่ทัพหญิงแห่ง นปช.

ขอบคุณ ธิดา สำหรับบทบาทของประธาน นปช.ที่ผ่านมา
ขอบคุณสำหรับการนำมวลชนอย่างมีทิศทางและรู้จังหวะเวลา
ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและอุดมการณ์

ขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณ ธิดา ถาวรเศรษฐ มา ณ ที่นี้