บทความพิเศษ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ 7-13 มีนาคม 2557
นึกหวั่นใจอยู่แล้วว่าสักวันหนึ่ง ฝ่ายตรงข้ามจะต้องใช้วิธีโหดเหี้ยมถึงตายกับเวทีม็อบ กปปส. ด้วยการยิง
ด้วยระเบิดเอ็ม 79 (แบบเดียวกับที่เคยทำกับม็อบพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551) เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและก่อความ
เสียหายได้ร้ายแรงที่สุด
เหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดนับจากมีการชุมนุมก็คือเหตุการณ์กราดยิงและขว้างระเบิดใส่ม็อบกปปส.
ที่จังหวัดตราดเมื่อค่ำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ มีเด็กหญิง 5 ขวบ เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีกมาก
ตามด้วยการยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่เวทีชุมนุมราชประสงค์ หน้าห้างบิ๊กซี กรุงเทพฯ เมื่อ 5 โมงเย็น
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้เด็กสองพี่น้องที่กำลังเรียนแค่อนุบาล เสียชีวิตทั้งคู่ และหญิงอีก 1 ราย
เสียชีวิตเช่นกัน บาดเจ็บอีกมาก ซึ่งน่าสะเทือนใจมาก เพราะผู้เสียชีวิตเป็นเด็กถึง 4 คน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงกล่าวหาว่าเป็น "ฆาตกร 98 ศพ" คงเดาได้
ไม่ยากว่าคุณยิ่งลักษณ์จะถูกอีกฝ่ายเรียกว่าอะไร
รัฐบาลอ้างว่าเป็นฝีมือของฝ่าย กปปส. เอง เพื่อหวังป้ายสีรัฐบาล แต่จะมีใครสักคนที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุ
ไม่ใช่คนในฟากฝั่งรัฐบาล โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมที่ผ่านมา
น่าสังเกตว่าการลอบกัดอย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลแพ่งมีคำสั่งห้ามศรส. สลายการชุมนุม
และโดยเฉพาะเกิดขึ้นหลังจากม็อบ กปปส. ยกระดับการชุมนุมด้วยการพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจของตระกูลชินวัตร
นอกจากนี้ ก่อนหน้าจะยิงเอ็ม 79 ที่ราชประสงค์ วันเดียวกันในช่วงบ่ายคนร้ายยังยิงเอ็ม 79 ใส่ศาลแพ่ง
ด้วย เป็นการยิงหลังจากศาลห้าม ศรส. สลายการชุมนุม และยังเป็นการยิงหลังจาก นางดารุณี กฤตบุญญาลัย
นำพวกเสื้อแดงไปประท้วงที่หน้าศาลแพ่ง
เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการ ศรส. อ้างว่ามือยิงเป็นตัวละครหน้าเดิมปี 2549 แต่น่าสงสัยว่าทำไมม็อบ
กปปส. ถูกลอบฆ่า ลอบทำร้ายกว่า 40 ครั้ง ศรส. และเฉลิมไม่เคยรู้ตัวคนร้ายและจับคนร้ายไม่ได้เลยสักคน
ทั้ง เฉลิม อยู่บำรุง และ ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. พูดในทำนองว่าเหตุการณ์ที่ราชประสงค์
เป็นฝีมือของ กปปส. เอง แต่หากย้อนไปฟังคำพูดของเฉลิมและภราดร เมื่อปลายเดือนมกราคมและ
วันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ ซึ่งคนร้ายเริ่มยิงเอ็ม 79 ใส่เวที กปปส. ที่แยกลาดพร้าวและแจ้งวัฒนะตามลำดับ
น้ำเสียงของทั้งสองคนไม่ได้เป็นอย่างนั้น โดยตอนนั้นพูดในทำนองว่ามีคนยิงเพราะไม่พอใจ
ซึ่งนั่นย่อมแสดงว่าทั้งสองคนเห็นว่าผู้ยิงเป็นคนฝ่ายตรงข้ามม็อบกปปส.ไม่ใช่เกิดจาก กปปส. เอง
ภราดรเคยกล่าวไว้ในตอนนั้นว่า เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีการยุบเวทีแจ้งวัฒนะด้วยหลังถูกยิงด้วยเอ็ม 79
คือพูดคล้ายกับรู้ว่าฝ่ายไหนยิง จึงแน่ใจว่าจะทำให้ม็อบกลัวและเลิกชุมนุม
ส่วนเฉลิม หลังมีการยิงเอ็ม 79 ใส่เวทีลาดพร้าวก็พูดว่าเดี๋ยวคงมีการยิงอีกทุกวัน คือพูดคล้ายๆ กับ
เสธ.แดง ขัตติยะ สวัสดิผล ตอนยังมีชีวิตอยู่ ช่วงที่มีการชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551 ที่มีการยิง
เอ็ม 79 ใส่พันธมิตรฯ นับสิบครั้งและมีผู้เสียชีวิต และตอนปี 2553 ที่ เสธ.แดงมักออกมาทำนายได้
แม่นทุกครั้งว่าจะมีการยิงเอ็ม 79 ที่ไหน เมื่อไหร่ แม่นราวกับว่ายิงเอง หรือไม่ก็รู้จักกับคนยิงเป็นอย่างดี
สําหรับเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ รัฐบาลปัดสวะพ้นตัว โดยอ้างว่าผู้ลงมือเป็นฝ่ายเดียวกับม็อบ กปปส.
ที่หวังสร้างสถานการณ์ล้มรัฐบาล แต่ถ้าหากพิจารณาดูพฤติกรรมหลายๆ ครั้งแล้ว ลองดูว่าฝ่ายไหน
น่าจะมีความอำมหิตเพียงพอที่จะสังหารคนได้มากกว่ากัน
ยกตัวอย่างที่เห็นชัด และรัฐบาลจะปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่หน้า
วัดศรีเอี่ยม บางนา ที่มีมือปืนและพวกที่สนับสนุนรัฐบาลดักรุมยิง นายสุทิน ธราทิน แกนนำม็อบ
ที่อยู่ฝ่ายเดียวกับ กปปส. จนเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมกลางวันแสกๆ ซึ่งมีคลิป มีภาพหน้าตาคนยิง
อย่างเห็นได้ชัด แต่จนบัดนี้ตำรวจจับใครไม่ได้
ถามว่าคุณยิ่งลักษณ์เคยสั่งให้มีการเร่งคดีหรือไม่
หรือการขว้างระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมีกล้องวงจรปิดเห็นหน้าคนร้ายชัดเจนแต่ตำรวจก็โอ้เอ้
คล้ายประวิงเวลาให้คนร้ายมีเวลาหนีออกนอกประเทศ
ขณะที่คดียิง นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำเสื้อแดงอุดร ใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็จับคนร้าย
ได้เป็นตุเป็นตะ ทั้งที่คดีเกิดขึ้นหลังสุดด้วยซ้ำไป
เห็นฝ่ายแดงและเพื่อไทยชอบรณรงค์ว่า "คนเราต้องเท่ากัน" จึงจะยุติธรรม แต่การดำเนินคดีของ
ตำรวจและดีเอสไอ ชัดเจนว่า "คนเราไม่เท่ากัน" จริงๆ
เมื่อพิจารณาพฤติกรรมในอดีตและปัจจุบันของฝ่ายสนับสนุนระบอบทักษิณ การยิงเอ็ม 79 ที่ตราด
และที่ราชประสงค์ ไม่ใช่ลักษณะของการสร้างสถานการณ์เพื่อใส่ร้ายรัฐบาล แต่มีแนวโน้มจะเป็น
ฝีมือของฝ่ายเดียวกับรัฐบาล ซึ่งเหตุที่ต้องใช้ความรุนแรงถึงตายมาข่มขู่ก็เพราะฝ่ายรัฐบาลหมด
เครื่องมือตามกฎหมายที่จะจัดการม็อบนั่นเองจึงต้องใช้วิธีใต้ดินแบบที่เคยทำมาแล้ว
ข่าวว่า "คนมีเงินเยอะ ใจเหี้ยม" ว่าจ้างลูกละ 1 แสนบาท สำหรับการยิงเอ็ม 79
เหตุการณ์ครั้งนี้รัฐบาลร้อนตัวมากหน่อย เพราะผู้เสียชีวิตเป็นเด็กถึง 3 คน โลกจึงประณาม ที่ผ่านมา
มีแต่ผู้ใหญ่ตาย รัฐบาลอาจไม่รู้สึกเดือดร้อน (เผลอๆ อาจสะใจ) แต่คราวนี้ครั้นจะพยายามโบ้ยว่าเป็น
ฝีมือของคนอื่น ไม่ใช่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาล ก็ยากที่คนจะเชื่อ เพราะที่ผ่านมาคนเห็นทั่วเมืองเห็นว่า ม็อบ
กปปส. ถูกกระทำด้วยอาวุธร้ายแรงอยู่ฝ่ายเดียว
แต่อีกทางหนึ่ง คนบางคน อาจต้องการสร้างความรุนแรงเพื่อดึงยูเอ็นเข้ามาแทรกแซงไทย เพราะเขา
คนนี้เคยให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติบ่อยๆ ว่าต้องการให้ยูเอ็นมาเป็นคนกลาง
และล่าสุด นายปึ้ง-สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ก็บอกว่าจะเชิญเลขาธิการยูเอ็นเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
สุดท้ายฝากถามไปถึง พล.ท.ภราดร ในฐานะที่เป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าการ
ที่คนเสื้อแดงประกาศที่โคราชเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ว่าจะแยกประเทศ และปลุกระดมให้มีการใช้อาวุธ
เข่นฆ่าประชาชนฝ่ายอื่น เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ แถมยังเป็นการประกาศต่อหน้า
จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย สมควรดำเนินคดีกับพรรคนี้หรือไม่
การประกาศแยกประเทศอย่างเปิดเผยในวันนั้น เพียงพอที่จะตั้งข้อหากบฏแบ่งแยกดินแดนอีกด้วย
เวทีคนเสื้อแดงที่โคราชที่มีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไปปลุกระดมถือเป็น"ใบเสร็จ" สำคัญที่แฉว่า
พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนอย่างไรต่อประเทศและสถาบันกษัตริย์
ไหนจะป้ายต้อนรับคุณยิ่งลักษณ์ที่โอท็อปสระบุรีในวันต่อมาเมื่อ24กุมภาพันธ์ ที่เขียนว่า
"I love you my President" คือจงใจเรียกคุณยิ่งลักษณ์ว่าประธานาธิบดี ย่อมเป็นการยืนยัน
แนวคิดบางอย่างของพรรคเพื่อไทย
สำหรับคนเสื้อแดงที่ประกาศจะแยกประเทศ (เพื่อไปเป็นระบอบประธานาธิบดี) นั้น หากแยกจริง
ขอฟันธงว่า ประเทศใหม่ของฝ่ายเสื้อแดง จะได้ผู้ปกครองที่เหมือนรัฐบาลเกาหลีเหนือ คือต่อไป
ชาวบ้านอาจไม่มีสิทธิประท้วงผู้นำเลย ดูตัวอย่างจากชาวนาออกมาประท้วง เรียกร้องค่าจำนำข้าว
จากรัฐบาล ยังมีการส่งคนเสื้อแดงในพื้นที่ไปข่มขู่ให้เลิก จนชาวนาที่เป็นผู้ชายแท้ๆ ยังต้องปาดน้ำตา
คนเราศีลธรรมยังไม่มี จะไปหวังให้เขามีความเป็นประชาธิปไตยในจิตใจ และเห็นชาวบ้านเป็น
คนเสมอกันเท่าเทียมกับพวกเขาได้อย่างไร
ระบอบไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับระบอบศีลธรรมคนมีศีลธรรมจะมีประชาธิปไตยโดยธรรมชาติเพราะศีลธรรม
คือการไม่เบียดเบียนรังแก หรือฆ่าสัตว์ตัดชีวิต (ซึ่งก็คือหัวใจของประชาธิปไตย)
แต่พวกคนไร้ศีลธรรม ต่อให้ผ่านการเลือกตั้งก็ไม่มีประชาธิปไตยในหัวใจสักกระผีก ถึงได้เกิดเหตุการณ์
"ฆ่าคน" เพื่อรักษาประชาธิปไตยตามความหมายของพวกเขาอย่างไรเล่า
ร่วมคลิกไลค์เป็นแฟนเพจมติชนสุดสัปดาห์ทางเฟซบุ๊กได้ที่
http://www.facebook.com/matichonweekly
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394505069&grpid=01&catid=&subcatid=
ต้องถูก "เทพเทือก" สะกดจิตก่อนนะ ถึงจะเขียนได้แบบนี้
"มติชน" ให้เป็นคอลัมนิสต์ ประจำ มติชนสุดสัปดาห์ เพื่อจะบอกว่า ยังไม่ได้ขาย
สื่อนี้ ให้คุณทักษิณ ใครชอบ กปปส. ต้องยกนิ้ว ให้คนเขียน อ่านแล้ว เหมือน
อ่านผู้จัดการ คอลัมน์ "โสภณ" แนวหน้า ในทุกคอลัมน์ แต่ดีกว่า ทั้ง 2 สื่อ
ที่กล่าวมา เพราะไม่หยาบค่ะ เขาเรียกว่า วิจารณ์แบบ "ผู้ดี" นี่คือ มาตรฐาน
ของมติชน
ใครกำลังชอบ รัฐบาล อ่านแล้วจะเปลี่ยนใจ ไปเชียร์ ลังกำนัน ก็บอกกันหน่อย
ส่วนเพื่อน ๆ แบบ คุณตระการฟ้า คุณอดีตหัวหน้าเผ่า และ มิตรสหาย ที่เชียร์
ลุงกำนัน กันอยู่ ช่วยมาบอกด้วยว่า "ถูกใจ"
นงนุช สิงหเดชะ: ยิงเอ็ม 79 ฆ่าเด็ก-ถล่มศาล "ฆ่า"เพื่อรักษาประชาธิปไตย? มติชนออนไลน์ ..... ของฝากให้แฟนคลับ กปปส.
นึกหวั่นใจอยู่แล้วว่าสักวันหนึ่ง ฝ่ายตรงข้ามจะต้องใช้วิธีโหดเหี้ยมถึงตายกับเวทีม็อบ กปปส. ด้วยการยิง
ด้วยระเบิดเอ็ม 79 (แบบเดียวกับที่เคยทำกับม็อบพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551) เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและก่อความ
เสียหายได้ร้ายแรงที่สุด
เหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดนับจากมีการชุมนุมก็คือเหตุการณ์กราดยิงและขว้างระเบิดใส่ม็อบกปปส.
ที่จังหวัดตราดเมื่อค่ำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ มีเด็กหญิง 5 ขวบ เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีกมาก
ตามด้วยการยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่เวทีชุมนุมราชประสงค์ หน้าห้างบิ๊กซี กรุงเทพฯ เมื่อ 5 โมงเย็น
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้เด็กสองพี่น้องที่กำลังเรียนแค่อนุบาล เสียชีวิตทั้งคู่ และหญิงอีก 1 ราย
เสียชีวิตเช่นกัน บาดเจ็บอีกมาก ซึ่งน่าสะเทือนใจมาก เพราะผู้เสียชีวิตเป็นเด็กถึง 4 คน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงกล่าวหาว่าเป็น "ฆาตกร 98 ศพ" คงเดาได้
ไม่ยากว่าคุณยิ่งลักษณ์จะถูกอีกฝ่ายเรียกว่าอะไร
รัฐบาลอ้างว่าเป็นฝีมือของฝ่าย กปปส. เอง เพื่อหวังป้ายสีรัฐบาล แต่จะมีใครสักคนที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุ
ไม่ใช่คนในฟากฝั่งรัฐบาล โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมที่ผ่านมา
น่าสังเกตว่าการลอบกัดอย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากศาลแพ่งมีคำสั่งห้ามศรส. สลายการชุมนุม
และโดยเฉพาะเกิดขึ้นหลังจากม็อบ กปปส. ยกระดับการชุมนุมด้วยการพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจของตระกูลชินวัตร
นอกจากนี้ ก่อนหน้าจะยิงเอ็ม 79 ที่ราชประสงค์ วันเดียวกันในช่วงบ่ายคนร้ายยังยิงเอ็ม 79 ใส่ศาลแพ่ง
ด้วย เป็นการยิงหลังจากศาลห้าม ศรส. สลายการชุมนุม และยังเป็นการยิงหลังจาก นางดารุณี กฤตบุญญาลัย
นำพวกเสื้อแดงไปประท้วงที่หน้าศาลแพ่ง
เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อำนวยการ ศรส. อ้างว่ามือยิงเป็นตัวละครหน้าเดิมปี 2549 แต่น่าสงสัยว่าทำไมม็อบ
กปปส. ถูกลอบฆ่า ลอบทำร้ายกว่า 40 ครั้ง ศรส. และเฉลิมไม่เคยรู้ตัวคนร้ายและจับคนร้ายไม่ได้เลยสักคน
ทั้ง เฉลิม อยู่บำรุง และ ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช. พูดในทำนองว่าเหตุการณ์ที่ราชประสงค์
เป็นฝีมือของ กปปส. เอง แต่หากย้อนไปฟังคำพูดของเฉลิมและภราดร เมื่อปลายเดือนมกราคมและ
วันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ ซึ่งคนร้ายเริ่มยิงเอ็ม 79 ใส่เวที กปปส. ที่แยกลาดพร้าวและแจ้งวัฒนะตามลำดับ
น้ำเสียงของทั้งสองคนไม่ได้เป็นอย่างนั้น โดยตอนนั้นพูดในทำนองว่ามีคนยิงเพราะไม่พอใจ
ซึ่งนั่นย่อมแสดงว่าทั้งสองคนเห็นว่าผู้ยิงเป็นคนฝ่ายตรงข้ามม็อบกปปส.ไม่ใช่เกิดจาก กปปส. เอง
ภราดรเคยกล่าวไว้ในตอนนั้นว่า เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีการยุบเวทีแจ้งวัฒนะด้วยหลังถูกยิงด้วยเอ็ม 79
คือพูดคล้ายกับรู้ว่าฝ่ายไหนยิง จึงแน่ใจว่าจะทำให้ม็อบกลัวและเลิกชุมนุม
ส่วนเฉลิม หลังมีการยิงเอ็ม 79 ใส่เวทีลาดพร้าวก็พูดว่าเดี๋ยวคงมีการยิงอีกทุกวัน คือพูดคล้ายๆ กับ
เสธ.แดง ขัตติยะ สวัสดิผล ตอนยังมีชีวิตอยู่ ช่วงที่มีการชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551 ที่มีการยิง
เอ็ม 79 ใส่พันธมิตรฯ นับสิบครั้งและมีผู้เสียชีวิต และตอนปี 2553 ที่ เสธ.แดงมักออกมาทำนายได้
แม่นทุกครั้งว่าจะมีการยิงเอ็ม 79 ที่ไหน เมื่อไหร่ แม่นราวกับว่ายิงเอง หรือไม่ก็รู้จักกับคนยิงเป็นอย่างดี
สําหรับเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ รัฐบาลปัดสวะพ้นตัว โดยอ้างว่าผู้ลงมือเป็นฝ่ายเดียวกับม็อบ กปปส.
ที่หวังสร้างสถานการณ์ล้มรัฐบาล แต่ถ้าหากพิจารณาดูพฤติกรรมหลายๆ ครั้งแล้ว ลองดูว่าฝ่ายไหน
น่าจะมีความอำมหิตเพียงพอที่จะสังหารคนได้มากกว่ากัน
ยกตัวอย่างที่เห็นชัด และรัฐบาลจะปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่หน้า
วัดศรีเอี่ยม บางนา ที่มีมือปืนและพวกที่สนับสนุนรัฐบาลดักรุมยิง นายสุทิน ธราทิน แกนนำม็อบ
ที่อยู่ฝ่ายเดียวกับ กปปส. จนเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมกลางวันแสกๆ ซึ่งมีคลิป มีภาพหน้าตาคนยิง
อย่างเห็นได้ชัด แต่จนบัดนี้ตำรวจจับใครไม่ได้
ถามว่าคุณยิ่งลักษณ์เคยสั่งให้มีการเร่งคดีหรือไม่
หรือการขว้างระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมีกล้องวงจรปิดเห็นหน้าคนร้ายชัดเจนแต่ตำรวจก็โอ้เอ้
คล้ายประวิงเวลาให้คนร้ายมีเวลาหนีออกนอกประเทศ
ขณะที่คดียิง นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำเสื้อแดงอุดร ใช้เวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็จับคนร้าย
ได้เป็นตุเป็นตะ ทั้งที่คดีเกิดขึ้นหลังสุดด้วยซ้ำไป
เห็นฝ่ายแดงและเพื่อไทยชอบรณรงค์ว่า "คนเราต้องเท่ากัน" จึงจะยุติธรรม แต่การดำเนินคดีของ
ตำรวจและดีเอสไอ ชัดเจนว่า "คนเราไม่เท่ากัน" จริงๆ
เมื่อพิจารณาพฤติกรรมในอดีตและปัจจุบันของฝ่ายสนับสนุนระบอบทักษิณ การยิงเอ็ม 79 ที่ตราด
และที่ราชประสงค์ ไม่ใช่ลักษณะของการสร้างสถานการณ์เพื่อใส่ร้ายรัฐบาล แต่มีแนวโน้มจะเป็น
ฝีมือของฝ่ายเดียวกับรัฐบาล ซึ่งเหตุที่ต้องใช้ความรุนแรงถึงตายมาข่มขู่ก็เพราะฝ่ายรัฐบาลหมด
เครื่องมือตามกฎหมายที่จะจัดการม็อบนั่นเองจึงต้องใช้วิธีใต้ดินแบบที่เคยทำมาแล้ว
ข่าวว่า "คนมีเงินเยอะ ใจเหี้ยม" ว่าจ้างลูกละ 1 แสนบาท สำหรับการยิงเอ็ม 79
เหตุการณ์ครั้งนี้รัฐบาลร้อนตัวมากหน่อย เพราะผู้เสียชีวิตเป็นเด็กถึง 3 คน โลกจึงประณาม ที่ผ่านมา
มีแต่ผู้ใหญ่ตาย รัฐบาลอาจไม่รู้สึกเดือดร้อน (เผลอๆ อาจสะใจ) แต่คราวนี้ครั้นจะพยายามโบ้ยว่าเป็น
ฝีมือของคนอื่น ไม่ใช่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาล ก็ยากที่คนจะเชื่อ เพราะที่ผ่านมาคนเห็นทั่วเมืองเห็นว่า ม็อบ
กปปส. ถูกกระทำด้วยอาวุธร้ายแรงอยู่ฝ่ายเดียว
แต่อีกทางหนึ่ง คนบางคน อาจต้องการสร้างความรุนแรงเพื่อดึงยูเอ็นเข้ามาแทรกแซงไทย เพราะเขา
คนนี้เคยให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติบ่อยๆ ว่าต้องการให้ยูเอ็นมาเป็นคนกลาง
และล่าสุด นายปึ้ง-สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ก็บอกว่าจะเชิญเลขาธิการยูเอ็นเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
สุดท้ายฝากถามไปถึง พล.ท.ภราดร ในฐานะที่เป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าการ
ที่คนเสื้อแดงประกาศที่โคราชเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ว่าจะแยกประเทศ และปลุกระดมให้มีการใช้อาวุธ
เข่นฆ่าประชาชนฝ่ายอื่น เข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ แถมยังเป็นการประกาศต่อหน้า
จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย สมควรดำเนินคดีกับพรรคนี้หรือไม่
การประกาศแยกประเทศอย่างเปิดเผยในวันนั้น เพียงพอที่จะตั้งข้อหากบฏแบ่งแยกดินแดนอีกด้วย
เวทีคนเสื้อแดงที่โคราชที่มีหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไปปลุกระดมถือเป็น"ใบเสร็จ" สำคัญที่แฉว่า
พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนอย่างไรต่อประเทศและสถาบันกษัตริย์
ไหนจะป้ายต้อนรับคุณยิ่งลักษณ์ที่โอท็อปสระบุรีในวันต่อมาเมื่อ24กุมภาพันธ์ ที่เขียนว่า
"I love you my President" คือจงใจเรียกคุณยิ่งลักษณ์ว่าประธานาธิบดี ย่อมเป็นการยืนยัน
แนวคิดบางอย่างของพรรคเพื่อไทย
สำหรับคนเสื้อแดงที่ประกาศจะแยกประเทศ (เพื่อไปเป็นระบอบประธานาธิบดี) นั้น หากแยกจริง
ขอฟันธงว่า ประเทศใหม่ของฝ่ายเสื้อแดง จะได้ผู้ปกครองที่เหมือนรัฐบาลเกาหลีเหนือ คือต่อไป
ชาวบ้านอาจไม่มีสิทธิประท้วงผู้นำเลย ดูตัวอย่างจากชาวนาออกมาประท้วง เรียกร้องค่าจำนำข้าว
จากรัฐบาล ยังมีการส่งคนเสื้อแดงในพื้นที่ไปข่มขู่ให้เลิก จนชาวนาที่เป็นผู้ชายแท้ๆ ยังต้องปาดน้ำตา
คนเราศีลธรรมยังไม่มี จะไปหวังให้เขามีความเป็นประชาธิปไตยในจิตใจ และเห็นชาวบ้านเป็น
คนเสมอกันเท่าเทียมกับพวกเขาได้อย่างไร
ระบอบไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับระบอบศีลธรรมคนมีศีลธรรมจะมีประชาธิปไตยโดยธรรมชาติเพราะศีลธรรม
คือการไม่เบียดเบียนรังแก หรือฆ่าสัตว์ตัดชีวิต (ซึ่งก็คือหัวใจของประชาธิปไตย)
แต่พวกคนไร้ศีลธรรม ต่อให้ผ่านการเลือกตั้งก็ไม่มีประชาธิปไตยในหัวใจสักกระผีก ถึงได้เกิดเหตุการณ์
"ฆ่าคน" เพื่อรักษาประชาธิปไตยตามความหมายของพวกเขาอย่างไรเล่า
ร่วมคลิกไลค์เป็นแฟนเพจมติชนสุดสัปดาห์ทางเฟซบุ๊กได้ที่ http://www.facebook.com/matichonweekly
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1394505069&grpid=01&catid=&subcatid=
ต้องถูก "เทพเทือก" สะกดจิตก่อนนะ ถึงจะเขียนได้แบบนี้
"มติชน" ให้เป็นคอลัมนิสต์ ประจำ มติชนสุดสัปดาห์ เพื่อจะบอกว่า ยังไม่ได้ขาย
สื่อนี้ ให้คุณทักษิณ ใครชอบ กปปส. ต้องยกนิ้ว ให้คนเขียน อ่านแล้ว เหมือน
อ่านผู้จัดการ คอลัมน์ "โสภณ" แนวหน้า ในทุกคอลัมน์ แต่ดีกว่า ทั้ง 2 สื่อ
ที่กล่าวมา เพราะไม่หยาบค่ะ เขาเรียกว่า วิจารณ์แบบ "ผู้ดี" นี่คือ มาตรฐาน
ของมติชน
ใครกำลังชอบ รัฐบาล อ่านแล้วจะเปลี่ยนใจ ไปเชียร์ ลังกำนัน ก็บอกกันหน่อย
ส่วนเพื่อน ๆ แบบ คุณตระการฟ้า คุณอดีตหัวหน้าเผ่า และ มิตรสหาย ที่เชียร์
ลุงกำนัน กันอยู่ ช่วยมาบอกด้วยว่า "ถูกใจ"