ขอรบกวนเพื่อนสมาชิกสักกระทู้นะครับ ... คิดขึ้นมาได้ว่าอยากจะให้เข้าสู่สาระกันบ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สาระอะไรมากมายก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ยังได้เล่าสู่กันฟังสักนิด .... เล่นๆขำๆ ฮาๆ กันมาเยอะแล้ว
ด้วยผมมีความเห็นว่าสถานการณ์การเมืองทุกวันนี้ เราน่าที่จะมีการกล่าวถึงเนื้อหากันบ้าง ซึ่งหลายๆคนอาจมีคำถามหรือข้อสงสัยอยู่ในใจ หรืออาจมีความเข้าใจที่แตกต่างกันไป ก็มาแลกเปลี่ยนกันครับ
ในความเข้าใจของผมเชื่อว่าสถานการณ์ความวุ่นวายในประเทศ ที่โหมประดังเข้ามาในขณะนี้ เกิดขึ้นจากการประสานความร่วมมือของ 3 ก๊ก ที่ต่างอาศัยผลลัพธ์เดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย
ก๊กที่ 1. ก๊กการเมือง คือกลุ่มการเมืองที่ต้องการเข้าไปมีอำนาจเพื่อเข้าไปแสวงหาและกอบโกยผลประโยชน์ในอำนาจหน้าที่ ซึ่งจะเป็นการประสานประโยชน์ร่วมกัน กับก๊กที่ 2. และ 3.โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทในการเกื้อหนุนก๊กที่ 3.
ก๊กที่ 2. ก๊กอำมาตย์ คือกลุ่มข้าราชการระดับสูง , กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจ ที่พึ่งพาตำแหน่งหน้าที่ของก๊กที่ 1. ในการแสวงหาประโยชน์สร้างความมั่งมี และอาศัยบารมีของก๊ก 3. ซึ่งก๊กที่ 3. ก็จะได้รับส่วนแบ่งแบบได้เปล่าเพื่อให้เข้าไปเป็นลักษณะของไม้กันหมา
ก๊กที่ 3. ก๊กจารีตินิยม คือชนกลุ่มน้อยที่ล้าหลัง ที่ยังยึดติดกับระบบเจ้าขุนมูลนาย ร่ำรวยมาตั้งแต่บรรพบุรุษที่ทำนาบนหลังคนมาหลายชั่วอายุจนเคยตัว โดยได้รับการสนับสนุนจากก๊กที่ 1.และ 2. เหตุเพราะอำนาจในกลุ่มจารีตที่หยั่งรากฝังลึกนั้น ล้วนมีผลต่อความดำรงอยู่ของก๊กที่ 1. และ 2.
จะเห็นว่าทั้ง 3 ก๊ก คือกลุ่มที่ต้องอาศัยความมีเสถียรภาพของแต่ละก๊ก เพื่อประคับประคองสถานะของตนไว้ ซึ่งหากมีก๊กหนึ่งก๊กใดต้องอ่อนแอลง ย่อมมีผลกระทบต่อก๊กที่เหลืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น การช่วยเหลือให้การสนับสนุนเพื่อประคองสถานะของตนในแต่ละก๊กจึงจำต้องร่วมมือกัน โดยอาศัยประชาชนเป็นเครื่องมือโดยแบ่งออกเป็น
ฐานกำลังจากก๊กที่ 1. มาจากประชาชนผู้เป็นฐานเสียงของกลุ่มการเมือง รวมทั้งมวลชนที่ถูกจัดตั้งขึ้นเฉพาะกิจ
ฐานกำลังจากก๊กที่ 2. มาจากพนักงาน , ลูกจ้างและลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชา และกลุ่มจัดตั้ง
ฐานกำลังจากก๊กที่ 3. มาจากประชาชนที่ยังคงยึดมั่นในระบอบเก่าที่ถูกครอบงำทางความคิดแบบโงหัวไม่ขั้น
จึงมีคำถามว่า เป็นเพราะเหตุใดที่ทำให้เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 49 ได้ดำเนินมาจนถึงปัจจุบันและยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง และเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น ???
หลายๆคนคงมองเห็นแต่เพียงภาพของความขัดแย้งทางการเมืองของ 2 ขั้วการเมือง หรือพูดตรงๆก็คือความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรากฏให้เห็นในเรื่องของการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล การทุจริตคอรัปชั่น ต่างๆ นาๆ เป็นต้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เกิดจากประเด็นทางการเมืองเพียงเท่านี้จริงๆหรือ ???
คำตอบก็คือไม่ใช่ !! ..... เพราะหากลำพังเรื่องนี้เป็นประเด็นที่เกี่ยวกับการเมืองเพียงอย่างเดียว เหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นย่อมไม่ปรากฏผลดังที่เห็นในทุกวันนี้ ......
ความสงบจึงยังไม่อาจเกิดขึ้นได้โดยง่าย ซึ่งหากจะให้วิเคราะห์ก็น่าจะมีเพียงประเด็นเดียว คือ หากก๊กที่ 3. สามารถบรรลุข้อตกลงภายในได้สำเร็จ และปรับเปลี่ยนบทบาทท่าทีของตน ยอมถอนเสาเข็มไม้ผุๆพังๆไม่กี่ต้นทิ้งไป เลือกเสาเข็มคอนกรีตมาตอกลงไปแทน ปัญหาทั้งหลายจึงจะยุติลงไปได้
ก็ได้แต่หวังว่ายอดปิรามิดของก๊กที่เป็นตัวแปรสำคัญ จะตัดสินใจเลือกในหนทางที่ดีที่สุด
หากไม่เช่นนั้นแล้ว ความแตกแยกแบ่งฝ่ายของผู้คนบนผืนแผ่นดินไทย เห็นทีคงไม่อาจหลีกพ้น .............
ขอบคุณครับ
เหตุการณ์บ้านเมืองยังไม่อาจสงบลงได้ ( งดแปะรูป งดเสียดสีด่าทอ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างมีสาระ )
ด้วยผมมีความเห็นว่าสถานการณ์การเมืองทุกวันนี้ เราน่าที่จะมีการกล่าวถึงเนื้อหากันบ้าง ซึ่งหลายๆคนอาจมีคำถามหรือข้อสงสัยอยู่ในใจ หรืออาจมีความเข้าใจที่แตกต่างกันไป ก็มาแลกเปลี่ยนกันครับ
ในความเข้าใจของผมเชื่อว่าสถานการณ์ความวุ่นวายในประเทศ ที่โหมประดังเข้ามาในขณะนี้ เกิดขึ้นจากการประสานความร่วมมือของ 3 ก๊ก ที่ต่างอาศัยผลลัพธ์เดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย
ก๊กที่ 1. ก๊กการเมือง คือกลุ่มการเมืองที่ต้องการเข้าไปมีอำนาจเพื่อเข้าไปแสวงหาและกอบโกยผลประโยชน์ในอำนาจหน้าที่ ซึ่งจะเป็นการประสานประโยชน์ร่วมกัน กับก๊กที่ 2. และ 3.โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทในการเกื้อหนุนก๊กที่ 3.
ก๊กที่ 2. ก๊กอำมาตย์ คือกลุ่มข้าราชการระดับสูง , กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจ ที่พึ่งพาตำแหน่งหน้าที่ของก๊กที่ 1. ในการแสวงหาประโยชน์สร้างความมั่งมี และอาศัยบารมีของก๊ก 3. ซึ่งก๊กที่ 3. ก็จะได้รับส่วนแบ่งแบบได้เปล่าเพื่อให้เข้าไปเป็นลักษณะของไม้กันหมา
ก๊กที่ 3. ก๊กจารีตินิยม คือชนกลุ่มน้อยที่ล้าหลัง ที่ยังยึดติดกับระบบเจ้าขุนมูลนาย ร่ำรวยมาตั้งแต่บรรพบุรุษที่ทำนาบนหลังคนมาหลายชั่วอายุจนเคยตัว โดยได้รับการสนับสนุนจากก๊กที่ 1.และ 2. เหตุเพราะอำนาจในกลุ่มจารีตที่หยั่งรากฝังลึกนั้น ล้วนมีผลต่อความดำรงอยู่ของก๊กที่ 1. และ 2.
จะเห็นว่าทั้ง 3 ก๊ก คือกลุ่มที่ต้องอาศัยความมีเสถียรภาพของแต่ละก๊ก เพื่อประคับประคองสถานะของตนไว้ ซึ่งหากมีก๊กหนึ่งก๊กใดต้องอ่อนแอลง ย่อมมีผลกระทบต่อก๊กที่เหลืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น การช่วยเหลือให้การสนับสนุนเพื่อประคองสถานะของตนในแต่ละก๊กจึงจำต้องร่วมมือกัน โดยอาศัยประชาชนเป็นเครื่องมือโดยแบ่งออกเป็น
ฐานกำลังจากก๊กที่ 1. มาจากประชาชนผู้เป็นฐานเสียงของกลุ่มการเมือง รวมทั้งมวลชนที่ถูกจัดตั้งขึ้นเฉพาะกิจ
ฐานกำลังจากก๊กที่ 2. มาจากพนักงาน , ลูกจ้างและลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชา และกลุ่มจัดตั้ง
ฐานกำลังจากก๊กที่ 3. มาจากประชาชนที่ยังคงยึดมั่นในระบอบเก่าที่ถูกครอบงำทางความคิดแบบโงหัวไม่ขั้น
จึงมีคำถามว่า เป็นเพราะเหตุใดที่ทำให้เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 49 ได้ดำเนินมาจนถึงปัจจุบันและยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง และเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น ???
หลายๆคนคงมองเห็นแต่เพียงภาพของความขัดแย้งทางการเมืองของ 2 ขั้วการเมือง หรือพูดตรงๆก็คือความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรากฏให้เห็นในเรื่องของการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล การทุจริตคอรัปชั่น ต่างๆ นาๆ เป็นต้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เกิดจากประเด็นทางการเมืองเพียงเท่านี้จริงๆหรือ ???
คำตอบก็คือไม่ใช่ !! ..... เพราะหากลำพังเรื่องนี้เป็นประเด็นที่เกี่ยวกับการเมืองเพียงอย่างเดียว เหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นย่อมไม่ปรากฏผลดังที่เห็นในทุกวันนี้ ......
ความสงบจึงยังไม่อาจเกิดขึ้นได้โดยง่าย ซึ่งหากจะให้วิเคราะห์ก็น่าจะมีเพียงประเด็นเดียว คือ หากก๊กที่ 3. สามารถบรรลุข้อตกลงภายในได้สำเร็จ และปรับเปลี่ยนบทบาทท่าทีของตน ยอมถอนเสาเข็มไม้ผุๆพังๆไม่กี่ต้นทิ้งไป เลือกเสาเข็มคอนกรีตมาตอกลงไปแทน ปัญหาทั้งหลายจึงจะยุติลงไปได้
ก็ได้แต่หวังว่ายอดปิรามิดของก๊กที่เป็นตัวแปรสำคัญ จะตัดสินใจเลือกในหนทางที่ดีที่สุด
หากไม่เช่นนั้นแล้ว ความแตกแยกแบ่งฝ่ายของผู้คนบนผืนแผ่นดินไทย เห็นทีคงไม่อาจหลีกพ้น .............
ขอบคุณครับ