คิวบิกสองตอนที่ผ่านไปเพื่อนรู้สึกเป็นอย่างไรกันบ้าง หลายคนชอบเพราะนักแสดง จะติ่งใครก็ตามสะดวกไม่ก้าวก่ายกัน แม้จะทำใจไว้ตั้งแต่รู้ว่าจะเอามาทำละครว่ามันต้องดรอปลงกว่า 20 เปอร์เซนเป็นอย่างต่ำ แต่พอเอาเข้าจริงๆ....'มันแย่เกินไป'
เอาคำชมก่อนแล้วกันซึ่งผมจะพยายามหาให้มากที่สุด บอกไว้ก่อนเลยว่าเป็นคนวิจารณ์นิยาย ไม่ใช่วิจารณ์ละครจึงไม่ถนัดในการวิจารณ์แสงเงา อะไรเทือกนั้น
สำหรับผมนะ ดีจริงๆอยู่คนเดียวคือ หย่งเหวิน ดูเข้าใกล้นิยายมากที่สุดแหละ
เอาตามจริงตอนอยู่ในนิยายยังจินตนาการไม่ออกว่าหน้าตาหย่งเหวินจะเป็นยังไง แต่ต๊ะทำได้ดีทีเดียว อาจเพราะเป็นนักแสดงที่ชำนาญอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา
เพ่ยอิง เห็นหลายคนไม่ชอบ เพราะดูไม่มีความฉลาดแฝงอยู่ในตัวละครที่สื่ออกมา มีแต่ใช้กำลัง แต่ผมเห็นว่า 'มาเฟีย' ที่ถูกตีความในนิยายตบจูบของผู้หญิงที่มีโอกาสไปอ่าน ก็ประมาณนี้แหละ เหตุผลที่ต้องให้แสดงความฉุนเฉียวและเป็นศัตรูกับพระเอกชัดเจนอาจเป็นเพราะต้องการสร้างความสับสนให้คนดู(ที่ไม่เคยอ่านนิยาย)ว่าใครกันแน่เป็นคนร้ายตัวจริง
จบไปอย่างรวดเร็วกับข้อดีที่พยายามหา ต่อไปทางลบล้วนๆเริ่มจาก...
นางเอก
ไม่เข้าใจจริงๆว่านางเอกเมืองไทยมันต้อง'สวยผอม' แบบนี้ทุกคนทุกเรื่องเสมอเหรอครับ ไม่ใช่ว่ามิ้นเล่นไม่ดี เขาเล่นได้ดีทีเดียว ผมไม่ได้ใส่ใจกับการที่นาคดูขี้เวียนโวยวายหรืออะไรอย่างที่คนอื่นวิจารณ์กันนะครับ คือเรียนการตลาดมารู้ และเข้าใจดีทุกอย่าง
แต่ผมคิดว่าถ้านางเอกมีความเป็น 'General woman' มากกว่านี้ ให้ผู้หญิงรู้สึกเข้าถึงและเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับนางเอกได้ มันก็รุ่งได้นะ อย่างสิ่งเล็กๆเนี่ย ตอนแรกนางเอกดำมาเชียว(แม้จะแต่ง) ใครก็เชื่อว่าตัวละครนี้หน้าตาไม่ดี แต่สุดท้ายก็เข้าถึงคนดูได้ ถ้าทำให้นาคเป็น 'นาค' ท้วมๆ น่ารักแบบต้องใส่ใจการเครื่องแต่งหน้า การแต่งกาย เอาจริงๆ ผู้หญิงอ้วนๆที่น่ารักๆ การแสดงเก่งๆก็มีเยอะแยะถ้าอยากจะหาจริงๆ
ส่วนพระเอก...เอาแบบไม่เกี่ยวกับข่าวของเขาเลยนะ บอมธนินมีปัญหาอย่างนึงที่ไม่รู้ว่าเพื่อนๆคิดเหมือนกันไหมคือ
'สายตา' ของบอม มันดูลุกลนไม่นิ่งเหมือนกำลังคิดบทตลอดเวลา(ตามคาแรคเตอร์ก็ต้องนิ่งแล้วคิดตลอดเวลา แต่มันเป็นคิดแบบคนที่มีความเครียดและจริงจังในการใช้ชีวิตมากกว่า) จังหวะในการใช้เสียงเวลาโกรธหรือสั่งใครตามแบบฉบับเจ้าพ่อ มันแย่มากเลยนะเอาจริง ตั้งแต่คุณชายรัชชานนท์ ผมชื่นชอบตัวละครคุณชายคนนี้มากนะ แต่บอมเล่นได้แย่เกินไปรับไม่ไหว (คิดไปว่าให้ สน ยุกต์เล่นอาจจะดีกว่า ตัวเเข็งๆ ทื่อๆ แต่ส่งอารมณ์ทางสายตา และคำพูดได้ดี มันเหมาะกับเจ้าพ่อแบบนี้พอสมควร)
เวลาผมดูมันเหมือนการแสดงที่รู้ว่ามันเป็นการแสดง(งงไหม) คือเวลาเราดูละครก็ต้องจมไปสู่โลกของละครใช่ไหมครับเพื่อให้เข้าถึงอรรถรส นั่นก็คืออินนั่นเอง แต่บอมกลับเหมือนกระชากความรู้สึกให้กลับมาสู่โลกของการแสดงตลอดเวลา ทำให้คนอื่นรู้ว่ากำลังเล่นละครที่ไม่สมจริงอยู่
สุดท้ายแก่นของนิยายที่ผิดเพี้ยน
อุตส่าห์ได้ละครที่ดี เป็นละครที่ไม่มีการตบแย่งผู้ชาย นำเสนอความรักที่ผมมั่นใจว่ามั่นคงไม่แพ้ ทไวไลท์เลยทีเดียว แต่ดันทำละครออกมาเป็นกึ่ง feel good ซะงั้น ในโลกของมาเฟียในละครที่ทำออกมาดูกิ๊กก๊อก ง่องแง่ง เอาเท่ห์แบบงงๆใส่แว่นดำในบริษัทเอย เด็กวิ่งเข้ามากรี๊ดพระเอกอย่างกับพระเอกเกาหลี ทั้งที่ถ้าเป็นมาเฟียตามในนิยาย เขากร๊ีดจริงแต่ไม่มีใครกล้าวิ่งเข้ามากรี๊ดแน่ๆ (โลกความจริงก็คงไม่มีใครเขาทำ)
ด้วยตอนที่บีบมีแค่ สิบสอง สิบสามตอนที่ได้ข่าวมา ก็เดาได้เลยว่าพระเอกกับนางเอกต้องรีบรักกันขนาดไหน - - ทั้งที่กว่าพวกเขาจะยอมรับกันและกันนี้นานมากๆ กว่าแต่ละคนจะยอมให้อีกฝ่ายล้ำเส้นมันยากแสนยาก แต่นี่ก็ผูกเนคไทให้ซะล่ะ ผมคิดว่าคิวบิกสามารถตีความให้แก่นมีความจริงจัง มีความดราม่าให้สนุกได้มากกว่านี้อีกมากๆ
แต่สุดท้ายก็คงต้องดูต่อไปเพราะผมเป็นประเภทถ้าดูแล้วก็ต้องดูต่อ ผมหวังว่าต่อไปละครไทยจะสามารถสร้างความหลากหลายในการนำเสนอให้มากกว่านี้ เพราะนิยายมันมีความหลากหลายมาให้แล้ว แต่คนทำละครเอาไปเปลี่ยนให้กลายเป็นแนวเดียวกันหมดเลย ทั้งที่ความจริงนิยายบางเรื่องมันก็ไม่อาจตีความอย่างที่คนทำละครต้องการได้ อย่างเช่น คิวบิก เป็นต้น
วิจารณ์คิวบิก หลังผ่านไปสองตอน 'ไม่ลำเอียง ไม่เข้าข้าง ไม่ด่าเพื่อก่อแต่ประการใด'
เอาคำชมก่อนแล้วกันซึ่งผมจะพยายามหาให้มากที่สุด บอกไว้ก่อนเลยว่าเป็นคนวิจารณ์นิยาย ไม่ใช่วิจารณ์ละครจึงไม่ถนัดในการวิจารณ์แสงเงา อะไรเทือกนั้น
สำหรับผมนะ ดีจริงๆอยู่คนเดียวคือ หย่งเหวิน ดูเข้าใกล้นิยายมากที่สุดแหละ
เอาตามจริงตอนอยู่ในนิยายยังจินตนาการไม่ออกว่าหน้าตาหย่งเหวินจะเป็นยังไง แต่ต๊ะทำได้ดีทีเดียว อาจเพราะเป็นนักแสดงที่ชำนาญอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา
เพ่ยอิง เห็นหลายคนไม่ชอบ เพราะดูไม่มีความฉลาดแฝงอยู่ในตัวละครที่สื่ออกมา มีแต่ใช้กำลัง แต่ผมเห็นว่า 'มาเฟีย' ที่ถูกตีความในนิยายตบจูบของผู้หญิงที่มีโอกาสไปอ่าน ก็ประมาณนี้แหละ เหตุผลที่ต้องให้แสดงความฉุนเฉียวและเป็นศัตรูกับพระเอกชัดเจนอาจเป็นเพราะต้องการสร้างความสับสนให้คนดู(ที่ไม่เคยอ่านนิยาย)ว่าใครกันแน่เป็นคนร้ายตัวจริง
จบไปอย่างรวดเร็วกับข้อดีที่พยายามหา ต่อไปทางลบล้วนๆเริ่มจาก...
นางเอก
ไม่เข้าใจจริงๆว่านางเอกเมืองไทยมันต้อง'สวยผอม' แบบนี้ทุกคนทุกเรื่องเสมอเหรอครับ ไม่ใช่ว่ามิ้นเล่นไม่ดี เขาเล่นได้ดีทีเดียว ผมไม่ได้ใส่ใจกับการที่นาคดูขี้เวียนโวยวายหรืออะไรอย่างที่คนอื่นวิจารณ์กันนะครับ คือเรียนการตลาดมารู้ และเข้าใจดีทุกอย่าง
แต่ผมคิดว่าถ้านางเอกมีความเป็น 'General woman' มากกว่านี้ ให้ผู้หญิงรู้สึกเข้าถึงและเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับนางเอกได้ มันก็รุ่งได้นะ อย่างสิ่งเล็กๆเนี่ย ตอนแรกนางเอกดำมาเชียว(แม้จะแต่ง) ใครก็เชื่อว่าตัวละครนี้หน้าตาไม่ดี แต่สุดท้ายก็เข้าถึงคนดูได้ ถ้าทำให้นาคเป็น 'นาค' ท้วมๆ น่ารักแบบต้องใส่ใจการเครื่องแต่งหน้า การแต่งกาย เอาจริงๆ ผู้หญิงอ้วนๆที่น่ารักๆ การแสดงเก่งๆก็มีเยอะแยะถ้าอยากจะหาจริงๆ
ส่วนพระเอก...เอาแบบไม่เกี่ยวกับข่าวของเขาเลยนะ บอมธนินมีปัญหาอย่างนึงที่ไม่รู้ว่าเพื่อนๆคิดเหมือนกันไหมคือ
'สายตา' ของบอม มันดูลุกลนไม่นิ่งเหมือนกำลังคิดบทตลอดเวลา(ตามคาแรคเตอร์ก็ต้องนิ่งแล้วคิดตลอดเวลา แต่มันเป็นคิดแบบคนที่มีความเครียดและจริงจังในการใช้ชีวิตมากกว่า) จังหวะในการใช้เสียงเวลาโกรธหรือสั่งใครตามแบบฉบับเจ้าพ่อ มันแย่มากเลยนะเอาจริง ตั้งแต่คุณชายรัชชานนท์ ผมชื่นชอบตัวละครคุณชายคนนี้มากนะ แต่บอมเล่นได้แย่เกินไปรับไม่ไหว (คิดไปว่าให้ สน ยุกต์เล่นอาจจะดีกว่า ตัวเเข็งๆ ทื่อๆ แต่ส่งอารมณ์ทางสายตา และคำพูดได้ดี มันเหมาะกับเจ้าพ่อแบบนี้พอสมควร)
เวลาผมดูมันเหมือนการแสดงที่รู้ว่ามันเป็นการแสดง(งงไหม) คือเวลาเราดูละครก็ต้องจมไปสู่โลกของละครใช่ไหมครับเพื่อให้เข้าถึงอรรถรส นั่นก็คืออินนั่นเอง แต่บอมกลับเหมือนกระชากความรู้สึกให้กลับมาสู่โลกของการแสดงตลอดเวลา ทำให้คนอื่นรู้ว่ากำลังเล่นละครที่ไม่สมจริงอยู่
สุดท้ายแก่นของนิยายที่ผิดเพี้ยน
อุตส่าห์ได้ละครที่ดี เป็นละครที่ไม่มีการตบแย่งผู้ชาย นำเสนอความรักที่ผมมั่นใจว่ามั่นคงไม่แพ้ ทไวไลท์เลยทีเดียว แต่ดันทำละครออกมาเป็นกึ่ง feel good ซะงั้น ในโลกของมาเฟียในละครที่ทำออกมาดูกิ๊กก๊อก ง่องแง่ง เอาเท่ห์แบบงงๆใส่แว่นดำในบริษัทเอย เด็กวิ่งเข้ามากรี๊ดพระเอกอย่างกับพระเอกเกาหลี ทั้งที่ถ้าเป็นมาเฟียตามในนิยาย เขากร๊ีดจริงแต่ไม่มีใครกล้าวิ่งเข้ามากรี๊ดแน่ๆ (โลกความจริงก็คงไม่มีใครเขาทำ)
ด้วยตอนที่บีบมีแค่ สิบสอง สิบสามตอนที่ได้ข่าวมา ก็เดาได้เลยว่าพระเอกกับนางเอกต้องรีบรักกันขนาดไหน - - ทั้งที่กว่าพวกเขาจะยอมรับกันและกันนี้นานมากๆ กว่าแต่ละคนจะยอมให้อีกฝ่ายล้ำเส้นมันยากแสนยาก แต่นี่ก็ผูกเนคไทให้ซะล่ะ ผมคิดว่าคิวบิกสามารถตีความให้แก่นมีความจริงจัง มีความดราม่าให้สนุกได้มากกว่านี้อีกมากๆ
แต่สุดท้ายก็คงต้องดูต่อไปเพราะผมเป็นประเภทถ้าดูแล้วก็ต้องดูต่อ ผมหวังว่าต่อไปละครไทยจะสามารถสร้างความหลากหลายในการนำเสนอให้มากกว่านี้ เพราะนิยายมันมีความหลากหลายมาให้แล้ว แต่คนทำละครเอาไปเปลี่ยนให้กลายเป็นแนวเดียวกันหมดเลย ทั้งที่ความจริงนิยายบางเรื่องมันก็ไม่อาจตีความอย่างที่คนทำละครต้องการได้ อย่างเช่น คิวบิก เป็นต้น