เกริ่นนำ
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ (ขออนุญาตแทนตัวเองว่าเรา) เราจะมาแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับมะเร็งไต
เพราะตอนที่หาข้อมูลมะเร็งไตในอินเตอร์เน็ตนั้น มีน้อยมาก
อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่มะเร็งที่พบได้บ่อยก็เป็นได้ค่ะ (ประมาณการพบอยู่ที่ 4-5 ราย ต่อประชากร 1 แสนคน)
ออกตัวก่อนเลยนะคะว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ในฐานะญาติของผู้ป่วย
โดยหวังเพียงว่ากระทู้นี้จะพอมีประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ดีใจแล้วค่ะ
ในส่วนของข้อมูลหรือความรู้บางอย่างในทางการแพทย์
หากว่าตกหล่นหรือขาดตกบกพร่องยังไง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
จุดเริ่มต้น กระทู้แนะนำในพันทิป นำไปสู่การส่องกล้อง colonoscopy เอ๊ะ เกี่ยวกันยังไง
ปกติเราเข้าพันทิปเป็นประจำค่ะ เมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้อ่านเจอกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/31103392
เราจึงไปค้นข้อมูลมะเร็งสำไส้ใหญ่เพิ่ม
แล้วทราบว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่นั้นอาจมาจากพันธุกรรมได้ด้วย
และเนื่องจากคุณย่าเรา เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
เราจึงเคี่ยวเข็ญ กดดัน ข่มขู่ ปะเหลาะ ใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็งเพื่อให้คุณพ่อเราไปส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่หรือที่เรียกกันว่า colonoscopy
ตอนนั้นก็ถามตัวเองนะ ว่ามันก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน อ่านเจอเคสที่ส่องแล้วลำไส้ทะลุ
บางคนก็บอกว่าอึดอัดทรมาน เราถามตัวเองซ้ำๆว่าพาพ่อไปตรวจแบบนั้นจะดีไหม หลังจากหมกมุ่นหาข้อมูลอยู่นาน
โทรไปคุยกับหลาย รพ. สุดท้ายก็พาคุณพ่อไปปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการส่องกล้องที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ในกทม.
(ลืมบอกค่ะ คุณพ่อเราอยู่ ตจว.)
ก็มาพบคุณหมอในครั้งแรกเพื่อปรึกษา คุณหมอก็ซักถามอาการ
อันที่จริงก่อนหน้านี้คุณพ่อเราน้ำหนักลดลงไปเยอะมาก ประมาณ 10 กก.
เราก็เคยสงสัยนะ ก็เคยถามพ่อว่าเป็นอะไรรึป่าว อยากพาไปตรวจ
แต่พ่อก็จะบอกว่าเป็นเพราะช่วงนั้นทำฟันปลอมทั้งปาก กินอะไรไม่ค่อยอร่อย
ที่นี้เนื่องจากคุณหมอที่เราไปปรึกษานั้นเป็นหมอระบบทางเดินอาหารและตับ
หมอก็ทักมาว่าเห็นสัญญาณบางอย่างเหมือนตับอักเสบนะ
คุณพ่อเราปกติก็ไม่เคยตรวจร่างกายค่ะ มีทานเหล้าบ้างเป็นครั้งคราวแต่ไม่บ่อยนะคะ
คุณหมอก็บอกคลำเจอตับเริ่มโต ฝ่ามือแดง มีแผงใยแมงมุมที่คอ ต่อมน้ำลายโต
จึงนำไปสู่การตรวจอัลตร้าซาวน์ช่องท้องเพื่อดูตับเพิ่ม และส่องกล้องกระเพาะอาหาร
ระหว่างถึงวันนัดส่องกล้องนั้นเราหาข้อมูลเกี่ยวกับตับแข็ง ก็จิตตกค่ะ
คือเครียดมาก ไปทำงานก็น้ำตาไหล อยากกลับบ้าน อาจเพราะเราเป็นลูกสาวที่ผูกพันกับพ่อมาก
และเป็นลูกสาวคนเดียว ก็กลัวไปสารพัด
พอถึงวันส่องกล้อง ก็มีไปอัลตร้าซาวน์ จากนั้นก็กินยาระบาย
พอส่องกล้องเสร็จ คุณหมอก็มีแอบเรียกไปคุยก่อนว่า อัลตร้าซาวน์แล้วพบความผิดปกติ มีก้อนเนื้อที่ไตนะ
อาจจะต้องผ่าตัดเอาออก คุณหมอก็ช่วยเหลือดีค่ะ
พยายามติดต่อแผนกศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะเพื่อให้เราได้ปรึกษากับหมอเฉพาะทางในวันนั้นเลย (คุณหมอทราบว่าคุณพ่อเรานั่งรถมาจาก ตจว.)
แต่เพราะเราส่องกล้องเสร็จเย็นแล้ว จึงทำให้ไม่สามารถพบหมอทางเดินปัสสาวะในวันนั้นได้ จึงนัดเพื่อเข้ามาตรวจใหม่ค่ะ
ส่วนเรื่องตับกับลำไส้ที่กังวล ก็พบว่าลำไส้ปกติดี ส่วนตับมีจุดเล็กๆที่ตับ
หมอบอกว่าอาจจะเป็นปานแดง เส้นเลือดขอด (Hemangioma) ขนาด 0.6 cm
ค่าการทำงานของตับปกติดีค่ะ แต่เราก็สงสัยอยู่ดีว่าทำไมถึงมี sign ของตับอักเสบ
(ทุกวันนี้ก็ยังสงสัยค่ะ ถ้ามีคุณหมอเข้ามาอ่านรบกวนช่วยวิเคราะห์ด้วยค่ะ)
เล่าไปเล่ามารู้สึกยาวจัง นี่เราเล่าละเอียดไปไหมเนี่ย
ไม่รู้คนอ่านจะเบื่อซะก่อนไหม รู้สึกน้ำจะท่วมแล้ว
เดี๋ยวออกไปหาอะไรทานก่อนนะคะ แล้วจะกลับมาต่อ
กระทู้แชร์ประสบการณ์ มะเร็งไต
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ (ขออนุญาตแทนตัวเองว่าเรา) เราจะมาแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับมะเร็งไต
เพราะตอนที่หาข้อมูลมะเร็งไตในอินเตอร์เน็ตนั้น มีน้อยมาก
อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่มะเร็งที่พบได้บ่อยก็เป็นได้ค่ะ (ประมาณการพบอยู่ที่ 4-5 ราย ต่อประชากร 1 แสนคน)
ออกตัวก่อนเลยนะคะว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ในฐานะญาติของผู้ป่วย
โดยหวังเพียงว่ากระทู้นี้จะพอมีประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ดีใจแล้วค่ะ
ในส่วนของข้อมูลหรือความรู้บางอย่างในทางการแพทย์
หากว่าตกหล่นหรือขาดตกบกพร่องยังไง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
จุดเริ่มต้น กระทู้แนะนำในพันทิป นำไปสู่การส่องกล้อง colonoscopy เอ๊ะ เกี่ยวกันยังไง
ปกติเราเข้าพันทิปเป็นประจำค่ะ เมื่อปลายปีที่แล้วก็ได้อ่านเจอกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/31103392
เราจึงไปค้นข้อมูลมะเร็งสำไส้ใหญ่เพิ่ม
แล้วทราบว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่นั้นอาจมาจากพันธุกรรมได้ด้วย
และเนื่องจากคุณย่าเรา เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
เราจึงเคี่ยวเข็ญ กดดัน ข่มขู่ ปะเหลาะ ใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็งเพื่อให้คุณพ่อเราไปส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่หรือที่เรียกกันว่า colonoscopy
ตอนนั้นก็ถามตัวเองนะ ว่ามันก็มีความเสี่ยงเหมือนกัน อ่านเจอเคสที่ส่องแล้วลำไส้ทะลุ
บางคนก็บอกว่าอึดอัดทรมาน เราถามตัวเองซ้ำๆว่าพาพ่อไปตรวจแบบนั้นจะดีไหม หลังจากหมกมุ่นหาข้อมูลอยู่นาน
โทรไปคุยกับหลาย รพ. สุดท้ายก็พาคุณพ่อไปปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการส่องกล้องที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ในกทม.
(ลืมบอกค่ะ คุณพ่อเราอยู่ ตจว.)
ก็มาพบคุณหมอในครั้งแรกเพื่อปรึกษา คุณหมอก็ซักถามอาการ
อันที่จริงก่อนหน้านี้คุณพ่อเราน้ำหนักลดลงไปเยอะมาก ประมาณ 10 กก.
เราก็เคยสงสัยนะ ก็เคยถามพ่อว่าเป็นอะไรรึป่าว อยากพาไปตรวจ
แต่พ่อก็จะบอกว่าเป็นเพราะช่วงนั้นทำฟันปลอมทั้งปาก กินอะไรไม่ค่อยอร่อย
ที่นี้เนื่องจากคุณหมอที่เราไปปรึกษานั้นเป็นหมอระบบทางเดินอาหารและตับ
หมอก็ทักมาว่าเห็นสัญญาณบางอย่างเหมือนตับอักเสบนะ
คุณพ่อเราปกติก็ไม่เคยตรวจร่างกายค่ะ มีทานเหล้าบ้างเป็นครั้งคราวแต่ไม่บ่อยนะคะ
คุณหมอก็บอกคลำเจอตับเริ่มโต ฝ่ามือแดง มีแผงใยแมงมุมที่คอ ต่อมน้ำลายโต
จึงนำไปสู่การตรวจอัลตร้าซาวน์ช่องท้องเพื่อดูตับเพิ่ม และส่องกล้องกระเพาะอาหาร
ระหว่างถึงวันนัดส่องกล้องนั้นเราหาข้อมูลเกี่ยวกับตับแข็ง ก็จิตตกค่ะ
คือเครียดมาก ไปทำงานก็น้ำตาไหล อยากกลับบ้าน อาจเพราะเราเป็นลูกสาวที่ผูกพันกับพ่อมาก
และเป็นลูกสาวคนเดียว ก็กลัวไปสารพัด
พอถึงวันส่องกล้อง ก็มีไปอัลตร้าซาวน์ จากนั้นก็กินยาระบาย
พอส่องกล้องเสร็จ คุณหมอก็มีแอบเรียกไปคุยก่อนว่า อัลตร้าซาวน์แล้วพบความผิดปกติ มีก้อนเนื้อที่ไตนะ
อาจจะต้องผ่าตัดเอาออก คุณหมอก็ช่วยเหลือดีค่ะ
พยายามติดต่อแผนกศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะเพื่อให้เราได้ปรึกษากับหมอเฉพาะทางในวันนั้นเลย (คุณหมอทราบว่าคุณพ่อเรานั่งรถมาจาก ตจว.)
แต่เพราะเราส่องกล้องเสร็จเย็นแล้ว จึงทำให้ไม่สามารถพบหมอทางเดินปัสสาวะในวันนั้นได้ จึงนัดเพื่อเข้ามาตรวจใหม่ค่ะ
ส่วนเรื่องตับกับลำไส้ที่กังวล ก็พบว่าลำไส้ปกติดี ส่วนตับมีจุดเล็กๆที่ตับ
หมอบอกว่าอาจจะเป็นปานแดง เส้นเลือดขอด (Hemangioma) ขนาด 0.6 cm
ค่าการทำงานของตับปกติดีค่ะ แต่เราก็สงสัยอยู่ดีว่าทำไมถึงมี sign ของตับอักเสบ
(ทุกวันนี้ก็ยังสงสัยค่ะ ถ้ามีคุณหมอเข้ามาอ่านรบกวนช่วยวิเคราะห์ด้วยค่ะ)
เล่าไปเล่ามารู้สึกยาวจัง นี่เราเล่าละเอียดไปไหมเนี่ย
ไม่รู้คนอ่านจะเบื่อซะก่อนไหม รู้สึกน้ำจะท่วมแล้ว
เดี๋ยวออกไปหาอะไรทานก่อนนะคะ แล้วจะกลับมาต่อ