วันนี้ว่างๆ เลยนัดกับเพื่อนๆอีก 3 คน ชวนมาลองร้านอาหารญี่ปุ่นที่ Terminal 21
ร้านนี้เป็นร้านที่มีโซนพิเศษ โต๊ะแบบมีเตาเทปันยากิ(หรือโอโคโนมิยากิ)ทำเองได้
เดินผ่านมาแล้วหลายครั้ง เพิ่งได้เข้าไปลองไม่นานมานี้ 2 ครั้ง ดีพอสมควร อยากให้เพื่อนได้ลองบ้าง
เดินเข้าไปแจ้งพนักงานว่า โต๊ะเทปันทำเอง 4 ที่ค่ะ

แล้วเดินเข้าไปนั่ง โซนโต๊ะเทปันจะมีทั้งหมดประมาณ 6-8 โต๊ะ มีกระจกกั้นโซนอาหาร A la carte (จานเดียวให้พ่อครัวทำ)
เพื่อกันไม่ได้กลิ่นของทางนี้ฟุ้งไปทั้งร้าน


วันนี้มานั่งก็มีแค่เราโต๊ะเดียวเท่านั้นเอง

หิวมาก ดูเมนูได้ไม่นานก็ตัดสินใจสั่งเมนู โอโคโนมิยากิหมึกยักษ์
เทปันหมู (ดูจะเป็นส่วนเนื้อสัน) เทปันเนื้อวัว มากิไข่หวาน และผักรวม
.......แล้วพนักงานล่ะ........
พนักงานไปยืนตรงโซนธรรมดา ซึ่งเรียกเท่าไหร่ก็ำไม่ได้ยิน (ที่กั้นกระจกเปิดอยู่) ไม่ได้ตะโกนเสียงดังเพราะเกรงใจลูกค้าคนอื่น
ต้องโบกมือราวกับอยู่ในคอนเสิร์ตพี่เบิร์ดนานพอสมควรถึงจะเห็น (ประเด็นคือไม่มีพนักงานมองเราเลย หันหลังหรือยืนคุยกันอยู่)
มารับออเดอร์ไป สังเกตท่าทางดูเนือยๆชอบกล (พนักงานหญิง)

ด้วยความร่าเริงมีเยอะ เพราะไม่ได้ทำโอโคโนมิยากิทานเองมานานแล้ว ตื่นเต้น เขาช้าหน่อยไม่เป็นไร
แต่สักพักเริ่มเอะใจ ผ่านไปเกือบ 15 นาที ทำไมน้ำดื่ม (ชาเขียวเย็น 4 ที่) ถึงยังไม่มา

ณ บริเวณนั้น ไม่มีพนักงานคอยดูแลเลย พอรับออเดอร์เสร็จเขาจะไปอยู่ตรงโซนธรรมดาหมด

โต๊ะเราก็นั่งรอแล้วรอเล่า รอต่อไป เลย 15 นาทีไปหน่อย น้ำดื่มก็มา
รออาหารไปอีก เตาได้รับการอุ่นอุณหภูมิไว้แล้ว (อยู่ที่ 170 องศา ร้อนมาก) ก็นั่งหน้าเตากันไป

สักพัก มากิไข่หวานก็มา มี 6 ชิ้นตามรูป บอกเลยว่าแพงจัง

ลองชิมดู ข้าวแฉะมาก ไม่เป็นเม็ด ใส่มิรินมากเกินไปจนเปรี้ยว ดับรสของไข่หวานหมดเลย
สาหร่ายเหนียว ไม่หอม โชยุที่เอามาจิ้ม รสไม่ใช่โชยุที่มีคุณภาพเลย เค็มอย่างเดียวไม่หอม
วาซาบิก้อนน้อยๆ ซักก้อนก็ไม่มี จานนี้ทุกคนลงความเห็นว่า ไม่ผ่านสุดๆ

นั่งรอจานดิบต่อ
15 นาที ผ่านไป~~~~

พออาการหิวมันทำให้นั่งเฉยๆไม่ไหว เลยหันซ้ายหันขวา ว่าเมื่อไหร่อาหารจะมา
*สงสัยนิดนึงว่าทำไมช้า เพราะทุกอย่างเป็นของดิบ เราลงเตาเองหมด
ของเหล่านั้นตามหลักควรใส่เตรียมไว้ในตู้เย็น หยิบมาประกอบลงจานก็เสร็จแล้วนี่?*

ปรากฎว่า จานที่สั่งทั้งสามที่เป็นแบบดิบ มันเสร็จแล้วค่ะ วางอยู่บนเคานเตอร์แล้วเรียบร้อย (เคานเตอร์โซนเทปัน)
แต่พนักงานไม่เห็นเลยเพราะไม่มีพนักงานในโซนเทปันเลยซักคน
พ่อครัวที่เอามาวาง ไม่ได้กดกริ่งหรือร้องเรียกให้เอามาเสิร์ฟเลยด้วย ยืนคุยกับพ่อครัวอีกคน
เพื่อนเราเห็นเลยบอกเรา เราลองนั่งรออีกซักพัก ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จึงตัดสินใจลุกไปรับสามจานนั้นมาเอง โดยถามพ่อครัวว่า "นี่ของโต๊ะเทปันโต๊ะนั้นใช่มั้ยคะ (ชี้โต๊ะตัวเอง)"
เขาบอกว่า ใช่ครับ จึงหยิบมาใส่ถาดแล้วเอากลับไปที่โต๊ะเอง

ก็จัดการทำโอโคโนมิยากิเอง และปรุงสเต๊กกันเอง กินกันไป
สามอย่างรสชาติโอเค

สเต๊กหมูสันนอกเนื้อแน่นดี

โอโคโนมิยากิ หมึกยักษ์มาชิ้นใหญ่ดี

แต่จานเนื้อวัว เนื้อมาไม่เป็นชิ้น เหมือนขยุ้มๆมา และบางมาก
พอราดซอสหมักแล้วลงเตา เนื้อกระจายออกเป็นชิ้นเล็กๆหมดเลย
หลังจากนั้นจานผักรวมก็ตามมาเสิร์ฟ เกือบลืมไปแล้วแน่ะ (ไม่ใช่คนที่มารับออเดอร์)

ระหว่างทำไปกินไป แก้วชาเขียวเย็นที่ร่อยหรอ ก็ไม่เคยถูกเติม (ในเมนูบอก *รีฟิล)
ชะเง้อมองพนักงานดูว่าเขาทำอะไร ก็ยังยืนคุยกันอยู่ที่เดิม(คนที่มารับออเดอร์)

จนกินทั้ง 3 จานหมด ยังรู้สึกเฉยๆ จึงคิดสั่งเพิ่ม
เอาอีกแล้ว ต้องโบกมือหย็อยๆ คราวนี้เหมือนอยู่ในคอนเสิร์ตพี่บี้ โบกเร็วๆ สุดแรง
กว่าจะเห็นก็หลายนาที
จนเพื่อนๆ ตัดสินใจไม่สั่งเพิ่ม เพราะแพงและไม่ใส่ใจบริการแบบนี้ ไปกินร้านอื่นดีกว่า
พนักงานที่เรียกมากะให้เพิ่มออเดอร์ เลยเปลี่ยนไปให้เช็คค่าเสียหายแทน
รวมทั้งหมด 1,100 บาท ดังนี้

ถ้าคิดแค่ค่าอาหารก็โอเคนะ แต่เซอร์วิส 10% นี่ไม่คุ้มเลยจริงๆ
เราเสิร์ฟอาหารให้โต๊ะตัวเองแบบนี้ ขอคืน%ได้มะ?

สรุปว่าร้านนี้อาหารแนวเทปัน สเต๊ก อร่อย แต่เมนูข้าวห่อสาหร่ายไม่ประทับใจเลย
บริการไม่ใส่ใจ เขาไม่ค่อยเหลียวแล สายตาไม่ไวต่อการเรียกของลูกค้า ชาเขียวรีฟิล ได้รี แค่ 2 ครั้ง (เพื่อนเป็นคนกินน้ำเยอะ บ่นอุบอิบ)//
ไม่ใช่แค่โต๊ะเราที่ห่างไกลแล้วทีนี้ แอบเห็นโต๊ะโซนธรรมดาเองก็ได้รับการตอบสนองช้าเหมือนกัน

สุดท้ายออกจากร้านมาต้องทำใจ เลิกกินร้านนี้ หาร้านเทปันร้านอื่นกินเอา

ย้อมใจด้วยข้าวแกงกะหรี่ ร้าน Gold Curry สุขุมวิท 39 ร้านประจำ