แบ่งแยกดินแดน โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ คอลัมน์ ที่เห็นและเป็นไป มติชนออนไลน์ ... ทำไมถึงคิด "แยกกันอยู่ดีกว่า"

กระทู้สนทนา

ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร ประเด็น "แบ่งแยกดินแดน" ให้ประชาชนที่ขัดแย้งกันในขณะนี้แยกกัน
ไปอยู่คนละพื้นที่ของประเทศ ต่างฝ่ายต่างปกครองกันเอง ใครชอบที่จะอยู่ฝั่งไหนก็ไปอยู่ฝั่งนั้น
จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน

ความคิดเช่นนี้ถูกนำเสนอมานานแล้ว

ก่อนที่เสื้อเหลืองที่แปรมาเป็นม็อบห้อยนกหวีด ใช้ธงชาติไทยเป็นอาภรณ์ กับเสื้อแดง
จะแตกแยกกันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำท่าจะไม่สามารถอยู่ร่วมแผ่นดินกันได้ในทุกวันนี้

เพียงแต่ว่าข้อเสนอเช่นนั้น ใครได้ฟังก็รู้ว่าเป็นการจินตนาการกันไปถึงความแตกแยก
ที่ไม่มีทางคลี่คลาย ซึ่งเอาเข้าจริงคนที่เชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้นคงมีไม่กี่คน

คนไทยส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า ไม่มีทางที่จะแบ่งแยกประเทศกันอยู่ได้ การแบ่งแยกแผ่นดิน
เป็นเพียงความคิดที่เสนอเล่นกันไปตลกๆ ประชดประชันกันไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น

แต่รู้สึกว่าถึงวันนี้ ความคิดที่จะแยกแผ่นดินกันอยู่ระหว่างสองฝ่ายที่ขัดแย้งกันไม่ใช่เรื่อง
ที่พูดล้อเล่นเสียแล้ว

อย่างน้อยมีความเคลื่อนไหวที่ทำท่าจะเอาจริงขึ้นมา

อาจจะเริ่มจากงานลั่นกลองรบของเสื้อแดงที่พูดถึงการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

อาจจะเริ่มจากการหยิบเรื่องนี้ไปโจมตีบนเวทีชุมนุม กปปส.เรียกร้องให้หน่วยงานด้าน
ความมั่นคงไปเอาผิดคนที่คิดแบ่งแยกดินแดน

ท่าทีของทหารเองก็ดูจะหวั่นๆ กับประเด็นเหล่านี้อยู่ไม่น้อย

ซึ่งดูจากความเป็นไปโดยรวมแล้วน่ากลัวอยู่ เพราะเอาเข้าจริงแม้ไม่มีการประกาศแยก
ดินแดนอย่างเป็นทางการ แต่ในทางปฏิบัติมีบางสิ่งบางอย่างที่สะท้อนให้เห็นการไม่ยอม
ให้อีกฝ่ายเข้าไปในพื้นที่ตัวเอง

มีการเป่านกหวีดขับไล่ การห้ามนักร้องที่เลือกข้างไปแสดงในพื้นที่ที่คนส่วนใหญ่ยืนอยู่อีกข้าง

เหล่านี้สะท้อนให้เห็นปัญหาการอยู่ร่วมกัน

แต่ที่น่าสนใจคือ เกือบทุกฝ่ายมุ่งโจมตีไปที่คนมีความคิดแบ่งแยกแผ่นดินกันอยู่

โจมตีเพื่อให้มีการปราบปรามเอาผิดคนเหล่านั้นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

นั่นอาจจะเป็นเรื่องที่ถูก เพราะใครก็ตามคิดแบ่งแยกดินแดนย่อมถือว่าทำผิดกฎหมาย
รัฐธรรมนูญเองยังกำหนดไว้ชัดเจนว่าประเทศไทยจะแบ่งแยกไม่ได้

เพียงแต่ว่าคนที่มุ่งเอาเป็นเอาตายทางด้านกฎหมายกับคนที่เสนอความคิด
"แยกกันอยู่เสียดีกว่า" อาจจะลืมคิดไปว่า ต้นเหตุของปัญหาจริงๆ ไม่ใช่อยู่ๆ
เกิดคิดจะแยกแผ่นดินขึ้นมา

แต่เป็นการเริ่มจัดประเด็นแบบประชดประชัน เมื่อรู้สึกว่าตัวเอง พวกพ้องตัวเองถูก
ปกครองอย่างไม่เป็นธรรม เหมือนคนที่มีสิทธิไม่เท่าเทียมกัน การใช้อำนาจจัดการ
แบบสองมาตรฐาน มีฝ่ายหนึ่งถูกกระทำตลอด แต่อีกฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ไม่มีความผิด

การแสดงท่าทีที่หมิ่นแคลน ไม่ให้ความเท่าเทียมกันในเรื่องศักดิ์ศรี

บังคับใช้กฎหมายให้รู้สึกว่าถูกไล่ล้าง ปราบปรามอย่างไม่เป็นธรรม

เริ่มจากการประชดประชันความที่รู้สึกว่าถูกกระทำเช่นนี้

แต่แทนที่ฝ่ายที่กระทำจะได้สำนึกว่า หากอยู่ร่วมกันแบบนี้มีปัญหาแน่

กลับเพิ่มความรุนแรงของความไม่เท่าเทียมกันหนักขึ้น มีการใช้อำนาจอย่างชัดเจน
ว่าเลือกข้าง เป็นการจัดการที่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกถึงการถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม
หนักขึ้น ชัดขึ้น

ที่สุดแล้ว ความน้อยเนื้อต่ำใจทำให้เกิดความคิดที่จะแยกกันอยู่ขึ้นมาจริงๆ

น่าอนาถตรงที่ควรจะแก้กันที่สาเหตุ ซึ่งหมายถึงการเลือกปฏิบัติอย่างไม่ชอบธรรม

กลับพุ่งตรงเข้าเล่นงานซ้ำกลุ่มคนที่น้อยเนื้อต่ำใจว่าตัวเองถูกกระทำ
เหมือนจะไม่ให้มีที่ยืนในแผ่นดินนี้

หากขืนยังแก้ปัญหากันแบบนี้

ไม่เหลียวมองตัวเองว่า ใครกันที่สร้างเงื่อนไขการอยู่ร่วมกันไม่ได้ขึ้นมา

ไม่แก้ที่ความไม่เป็นธรรม ความสองมาตรฐาน การเลือกข้างอย่างแสดงออกชัด
และใช้อำนาจอย่างไม่คำถึงหลักการที่ควรจะเป็น

จากการประชดประชัน ที่สุดแล้วความคิด "แยกกันอยู่ดีกว่า" จะกลายเป็นความรู้สึกจริงๆ



(ที่มา:มติชนรายวัน 2 มี.ค. 2557)

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1393750538&grpid=&catid=02&subcatid=0207

ไม่เคยดู บลูสกาย  ไม่เคยไปม็อบกปปส.   แค่ฟังที่ Wake up Thailand  นำคลิปที่ เทพเทือก  พูดมาเปิด
แค่ 2-3 นาที  ก็เกิดความรุ้สึกแล้วว่า  คนเห็นต่าง หากถูกปกครอง  โดยกปปส.  ก็คงเป็นพลเมืองชั้น  2
ยิ่งเห็นข้าราชการ ิ กรมชลประทานถูก การ์ดกปปส.ทำร้าย  เพราะขัดคำสั่ง  ก็ยิ่งเกิดความรู้สึกมากขึ้น
แล้วยังเห็น  คนออกมา "ขำกลิ้ง"  กับการกระทำจของการ์ด  "อุแม่เจ้า"  นี่ตูจะต้องอยู่ใต้อำนาจ  การปกครอง
ของคนที่ดูถูกเหยียดหยาม  คนเห็นต่าง  แบบนี้  อย่าถาม  ทำไม เขาถึงคิดแบบนี้   คุณๆไม่คิด  เพราะ
ถูกสะกดจิต  ทุกวัน  จนเห้นว่า ความนึกคิดของ "เทพเทือก"  เป็นความ"ชอบฆธรรม"  ไปแล้ว....
อ้อ  บอกรวมไปถึงบรรดา  คุณหมอทั้งหลายด้วย ที่ออกมาขึ้นป้าย  ประนามรัฐบาลด้วย  ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่