ความรู้สึกเกี่ยวกับหนังTimeline จดหมาย ความทรงจำ (แบบไม่ใช่นักวิจารณ์หนัง)

-ตามหัวข้อเลยค่ะ เรามีโอกาสได้ไปดูหนังทามไลน์ที่น้องเต้ยและน้องเจมส์จิแสดง หลังจากที่หนังเข้าไปแล้วสองอาทิตย์ เอิ่ม..จะว่าเราความรู้สึกไปช้าไปไหม ไม่หรอกค่ะเพราะส่วนใหญ่เราไม่ค่อยได้ดูหนังไทย เคยพูดกับพี่คนสนิทแล้วเจอว่ากลับมาว่า ถ้าคนไทยไม่ดูและอุดหนุนหนังคนไทยทำแล้วใครจะดู ก็จริงค่ะเราไม่เถียง แต่คนเราย่อมมีรสนิยมต่างกันไป อย่างเราก็เช่นกันค่ะ หนังไทยส่วนมากที่ออกมาอาจจะยังไม่ใช่สไตร์ที่เราอยากดู เราชอบดูแนวแฟนตาซีซะส่วนใหญ่ค่ะ คงสงสัยกันใช่มั๊ยคะว่าเราหลวมตัวเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ได้ยังไง มันเป็นผลพวงจากการนั่งอ่านทวิตที่เขาทวิตคำคมจากหนังและเพลงจากหนังเรื่องนี้ อ่านแล้วชอบเลยมีความคิดที่ว่าสงสัยฉันต้องหาเวลาไปดูหนังเรื่องนี้บ้างแล้วล่ะ คิดได้ดังนั้นก็เปิดเว็บดูรอบหนังและจองทันทีพร้อมทั้งโทรไปชวนเพื่อนสนิทให้ไปดูด้วยกัน

หนังเรื่องนี้หลายคนอาจไปดูเพราะนักแสดงนำ อย่างพื่อนเราเป็นต้น บางคนอาจไปดูเพราะเนื้อหาหนัง ที่หลายคนบอกว่ามันเป็นภาคต่อของthe letterใช่มั๊ยคะ พูดอย่างคนที่ไม่อะไรเลยนะ เราไม่เราไม่เห็นรู้สึกถึงว่าจดหมายคือจุดเด่นในการดำเนินเรื่อง แม้หนังจะพยายามสื่อมากแค่ไหนก็ตาม เราว่ามันคล้ายกับการเขียนไดอารี่มากกว่า ขนาดฉากที่พระเอกเขียนจดหมายไปถึงนางเอกแต่นางเอกตอบไลน์กลับไปหาพระเอกเราก็ยังไม่เห็นว่ามันน่าอินกับจดหมายตรงไหน แต่ถามว่าเรื่องนี้เราดูแล้วชอบไหม เราชอบนะ โลเคชั่นสวย ภาพที่สื่อออกมาสวยจนอยากตามรอยนางเอกและพระเอก เพลงเพราะลงตัวกับเนื้อเรื่อง น้องๆเล่นดูเป็นธรรมชาติดีค่ะ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่ทำให้เรานั่งดูจนจบเครดิตเพราะอยากรู้สถานที่ถ่ายทำ ^_^

และเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงเรื่องเล่าเรื่องนึงที่นิยมส่งเป็นฟอเวิร์ดเมลในสมัยเรายังเด็ก เราไม่รู้มีเพื่อนๆในนี้ยังจำเมลเรื่องนี้ได้มั๊ย? ถือว่ากระทู้นี้ชวนคุยและรื้อฟื้นความทรงจำวัยใสละกันนะคะ(ต่อด้านล่างนะคะ)
"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่