ฉันจะรอ..จนกว่าจะถึงวันนั้น..Timeline..จดหมาย ความทรงจำ

รอดูหนัง Timeline ของคุณอุ๋ย นนทรีย์....เห็นทีเซอร์หนังที่ปล่อยออกมา ยิ่งอยากดู..เลยไปหยิบหนัง The Letter จดหมายรัก ที่คุณผอูณ กำกับไว้ มาปัดฝุ่นดูใหม่อีกรอบ...ยังไม่พอ ขุดเวอร์ชั่นเกาหลี มาดูด้วย...ให้มันรู้กันไป ว่าหนัง 3 เรื่องนี้ ใครจะทำให้ต่อมน้ำตาทำงานได้มากกว่ากัน

The Letter จดหมายรัก แอน ทองประสม และ อรรถมาพร ธีมากร เป็นภาพยนตร์รักที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2547 โดยดัดแปลงมาจากภาพยนตร์เกาหลีใต้..10 ปีผ่านไปเชียว ที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วยังตราตรึงอยู่ในหัวใจใครหลายๆคน เป็นหนังประทับใจของดิฉันเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ดูกี่ครั้งก็น้ำตาไหลได้ทุกครั้ง ร้องไห้



คงไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องย่อ หากหลายคนได้ดูมาแล้ว (อาจจะมากกว่า 1 รอบ) ภาพประทับใจ ติดตา เมื่อคิดถึงความรัก และ อบอุ่นของ ดิว (แอน) และ ต้น (อรรถมาพร) ที่ดิฉันจำได้ไม่รู้ลืม คือต้นล้างเท้าให้ดิวด้วยน้ำอุ่น เมื่อเห็นดิวเหนื่อย ด้วยความทะนุถนอม..เป็นฉากที่ให้ความซาบซึ้งกับดิวมาก (รวมถึงคนดู) ..ทำไมเราถึงเพิ่งมาเจอกัน เป็นคำพูดที่สะท้อนเข้าไปในหัวใจ รับรู้ถึงความรู้สึกได้เป็นอย่างดี...ซึ่งเป็นฉากเดียวกัน กับ The Letter เวอร์ชั่นเกาหลี ก็มีฉากนี้ด้วยเช่นกัน

The Letter จดหมายรัก (ไทย)


The Letter (เกาหลี)


ความน่ารักเล็กๆ ที่หนังสื่อออกมาให้ยิ้มได้กับความเขินของพระเอก เมื่อขอให้เพื่อนเปิดเมลล์ให้เพราะไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี แล้วโดนล้อ...สมัยนี้คงเป็นไลน์ คุยกัน...ดิฉันรู้จักยอดฟักแม้ว และ หามาทานเป็นครั้งแรกจากหนังเรื่องนี้ ยิ้ม



จดหมายรักของยายเล็ก ที่ถูกทิ้งไว้ในลิ้นชักนานมาแล้ว เป็นไคลแม๊กซ์ของเรื่อง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ต้นอยากได้รับจดหมายรักแบบนี้จากดิว เป็นจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ หลังจากที่ดิวเคยส่งเมลล์ให้..แต่สุดท้าย คนที่ได้รับจดหมาย กลับกลายเป็นดิว ที่เฝ้ารอจดหมายทุกวัน หลังจากต้นจากไป..

ฉากการฝากส่งจดหมาย การบันทึกวิดีโอไว้ หรือ อาการเจ็บป่วย หนังทั้ง 2 เวอร์ชั่นทำออกมาเหมือนกัน แต่ของเกาหลีดูได้รันทดกว่า..โดยเฉพาะพระเอกของเรื่องที่ดูป่วยหนักมาก และ ดูทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ตอนต้นเรื่อง การดำเนินเรื่องเหมือนหนังรักธรรมดา ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ไม่ค่อยอินว่ารักกันตอนไหน..ในขณะที่บทภาพยนตร์ของไทย ปูเรื่องได้มีที่มา ที่ไป และไม่ตะขิดตะขวงใจ ในความรักที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและแต่งงานกันได้ ทั้งที่มีความต่างกันอย่างชัดเจนของคนทั้งสอง

หนังทั้งสองเรื่อง ดำเนินมาในช่วงสุดท้าย ด้วยจดหมายรักเหมือนกัน และจบแบบ Happy ending โดยมีลูกชายตัวน้อยเป็นตัวแทนคนที่จากไปทั้งคู่  มีต้นบ๊วย และ ต้นสน เป็นเสมือนหนึ่งเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นสัญญลักษณ์และเป็นตัวแทนของพ่อที่ยังคงความรักที่ยั่งยืนต่อไป...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่