ทำไมคนเราส่วนใหญ่ถึงเชื่อว่าเวลาโกรธกันควรจะเงียบๆ กันสักพัก ผมว่าเงียบๆ นี่ตัวดีเลยนะครับพาลแต่จะให้เกลียดมากขึ้นไปอีก

จากประสบการณ์คนใกล้ผมที่โกรธกันรวมถึงตัวผมเองครับ เวลาโกรธกันใครหลายๆ คนก็เชื่อว่า เออ เดี๋ยวเงียบๆ กันสักพัก ห่างๆ กันไปเดี๋ยวก็ดีขึ้นผมว่ามันไม่ใช่เลยครับ

เวลาเราเริ่มจากไม่พอใจอะไรด้วยกันเล็กๆ ก่อน > เราเลือกที่จะเงียบไม่คุยกัน > ตรงนี้คือจุดเปลี่ยนบางคนอาจจะคิดว่าผ่านมาพักนึงแล้วน่าจะโอเคแล้วแต่สิ่งเกิดขึ้นมันไม่ใช่อย่างงั้นเลยครับมันกลับกลายเป็นเพราะว่าเกลียดแล้วเงียบไปนานจนนำไปสู่ > การรู้สึกรำคาญที่ต้องเห็นหน้าและเขม่นแบบเบาๆ ก่อน > และไปสู่การแขวะพอเห็นหน้ากัน > หลังจากนั้นก็จะมีการนินทากันอย่างรุนแรงว่าฉันไม่ได้ผิดนะมันผิดก่อน มันนั่นแหละผิดก่อนไม่ใช่ฉัน ? > และกลายเป็นการเกลียดกันอย่างสมบูรณ์แบบแบบไม่เผาผีกันเลย > และกลายเป็นแค้นกันเลย > จนนำไปสู่การใช้กำลังที่รุนแรงได้

การเกลียดกันแบบนี้แหละครับเป็นการเกลียดที่น่ากลัวนะครับ ความจริงทางออกที่ดีที่สุดเวลาเราโกรธกันควรจะพูดคุยทำความเข้าใจกันไปเลยผมว่ามันดีกว่าอีกครับ ผิดก็ยอมรับผิด แต่บางคนที่ทะเลาะกันก็มีอีโก้ตัวเองผิดเต็มปีะตูแต่ไม่ยอมรับนี่แหละ ดื้อเงียบ เหมือนพ่อแม่ผมตอนนี้เลยครับ ผมว่าเวลาเกลียดกันไม่ควรเก็บเอาไว้หรือปล่อยไว้นานครับต้องคุยกันเลยยิ่งเริ่มต้นเท่าไรเลยยิ่งดีมากกว่า ผมเห็นคนที่บอกว่าเงียบๆ อยู่เฉยๆ เวลาเกลียดกันแบบนี้มาหลายรายแล้ว บทสรุปเป็นอย่างย่อหน้าที่ 2 ที่ผมเขียนเกือบทุกคนเลยครับ และยิ่งเป็นครที่เคยรักกันมากมาก่อนพอเกลียดกันความเกลียดก็จะเพิ่มเป็นทวีคูณเลยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่