ในห้องเรียนห้องหนึ่งในประเทศ “ไทย” เด็กนักเรียนน่ารักยกมือถามคุณครูว่า “คุณครูครับ ทำไมเราต้องเชิดชูบรรพบุรุษไทยด้วยล่ะครับ?”
คุณครูใจดี มองฝ่ายตรงข้ามด้วยความเมตตา
เธอตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “อ๋อ ก็เพราะบรรพบุรุษไทยของเรานั้น เป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ธรรมะธัมโม มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยม สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่บ้านเมือง ซ้ำยังปกป้องประเทศของเราจากข้าศึกศัตรูอย่างกล้าหาญมาหลายครั้ง เราจึงควรสำนึกบุญคุณพวกท่านน่ะซีจ๊ะ”
“แต่หนูขี้เกียจทำบอร์ดสรรเสริญบรรพบุรุษไทยนี่คะ หนูต้องเอาเวลาไปเล่นเกมส์เฟสบุค” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งร้องขึ้น
“ใช่... บรรพบุรุษไทยไม่เห็นเป็นคนดีเลย ตอนสงครามโลกครั้งที่สองก็ทำตัวน่าเกลียด เป็นนกสองหัว เลียแข้งเลียขาทั้งฝรั่ง ทั้งญี่ปุ่น” เด็กอีกคนกล่าว จนคุณครูอึ้ง
“ใช่ๆ แล้วก็ไม่ใช่คนเก่งด้วย ถ้าเก่งนะ มันต้องยึดครองโลกได้แบบพวกฝรั่ง ขี่เครื่องบินไปทิ้งบอมประเทศด้อยพัฒนาดังตู้มๆ” เด็กคนที่สามพูด คุณครูอึ้งอีก
“แล้วก็ใครว่าพวกนั้นปกป้องบ้านเมืองได้ คิดดู ตกเป็นเมืองขึ้นพม่าตั้งสองครั้ง น่าอดสูใจจริงๆ” เด็กคนที่สี่ซ้ำเติม แล้วสรุปว่า
“มีบรรพบุรุษกากๆแบบนี้ สู้ไปสรรเสริญเกาหลีดีกว่า คิดดูเกาหลีน่ะเป็นถึงผู้ให้กำเนิดอารยธรรมเมโสโปเตเมีย นอกจากนั้นยังเป็นผู้ประดิษฐ์ตัวอักษรจีน การฝังเข็ม และศัลยกรรมพลาสติก แล้วรู้ไหมมวยไทยน่ะไปลอกมาจากมวยเกาหลีชื่อ จุคทูกี ด้วยนะ”
“เย้ เราไปทำศัลยกรรมให้ตี๋ขึ้น แล้วเปลี่ยนสัญชาติเป็นเกาหลีตามกระแส K-Pop กันเถอะ!” เด็กทั้งห้องร้องพร้อมกัน
พวกเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าบัดนี้เส้นเลือดได้เดือดปึ๊ดขึ้นที่ขมับของคุณครูใจดีเสียแล้ว...
“ฮึ่ม... เจ้าพวกเด็กเหลือขอ” คุณครูครางพร้อมทั้งแผ่รังสีอำมหิต จนบรรยากาศในห้องเรียนแปรปรวน
“จงรับไปเถิด ท่าไม้ตายที่เจ็ด
แปรงลบกระดาน ผลาญภูกระดึง!”
ฉับพลันนั้น แปรงลบกระดานที่วางอยู่หน้าครูก็บินฉวัดเฉวียนไปฟาดหัวเด็กนักเรียนทั้งชั้น เลือดกระฉูด นอนร้องโอดโอยกลาดเกลื่อน!
คุณครูเดินช้าๆไปกระชากคอเสื้อเด็กคนแรกที่กล้าพูดกวนตีนขึ้นมา
“บรรพบุรุษไทยรักษาแผ่นดินให้อยู่พวกแกก็ว่ากาก ชอบความป่าเถื่อนนักใช่มั้ย ...ได้เลยเดี๋ยวข้าจะเล่าประวัติศาสตร์ไทยเวอร์ชันฮาร์ดคอร์ให้ฟังเอง” (เด็กเลือดกบปาก หายใจไม่ออกเลยตอบโต้ไม่ได้)
“นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของอินเดีย...” คุณครูเอ่ย “มันชื่อว่ารัฐอัสสัม... ได้ยินไหมรัฐอัสสัม!”
“...รัฐอัสสัมของอินเดียเกี่ยวอะไรกับไทยล่ะครับ...” เด็กที่ถูกกระชากคอเสื้อครางพะงาบๆ
ครูเบ่งพลังขว้างเด็กนั้นปลิวไปทะลุกำแพง ตึกสั่น “ก็ไทยอาหมไงล่ะอ้ายพวกโง่! พวกแกนั่งลงซะ แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง!” เธอตวาด พวกเด็กจึงพากันคลานกลับมานั่งด้วยความหวาดกลัว
...คุณครูใจดีจึงเริ่มเล่า...
คำเตือน เรื่องนี้จัดอยู่ใน "เรท อ"
::: ::: :::
เรียนผู้อ่านทุกท่าน นี่เป็นสารคดีสงครามชุด The Wild Chronicles ตอน "อสุราอาหม" หากชื่นชอบสามารถกดไลค์เพจผมได้ที่
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat นะครับ
*** The Wild Chronicles "อสุราอาหม" Part I: The Tribe ***
คุณครูใจดี มองฝ่ายตรงข้ามด้วยความเมตตา
เธอตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “อ๋อ ก็เพราะบรรพบุรุษไทยของเรานั้น เป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ธรรมะธัมโม มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยม สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่บ้านเมือง ซ้ำยังปกป้องประเทศของเราจากข้าศึกศัตรูอย่างกล้าหาญมาหลายครั้ง เราจึงควรสำนึกบุญคุณพวกท่านน่ะซีจ๊ะ”
“แต่หนูขี้เกียจทำบอร์ดสรรเสริญบรรพบุรุษไทยนี่คะ หนูต้องเอาเวลาไปเล่นเกมส์เฟสบุค” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งร้องขึ้น
“ใช่... บรรพบุรุษไทยไม่เห็นเป็นคนดีเลย ตอนสงครามโลกครั้งที่สองก็ทำตัวน่าเกลียด เป็นนกสองหัว เลียแข้งเลียขาทั้งฝรั่ง ทั้งญี่ปุ่น” เด็กอีกคนกล่าว จนคุณครูอึ้ง
“ใช่ๆ แล้วก็ไม่ใช่คนเก่งด้วย ถ้าเก่งนะ มันต้องยึดครองโลกได้แบบพวกฝรั่ง ขี่เครื่องบินไปทิ้งบอมประเทศด้อยพัฒนาดังตู้มๆ” เด็กคนที่สามพูด คุณครูอึ้งอีก
“แล้วก็ใครว่าพวกนั้นปกป้องบ้านเมืองได้ คิดดู ตกเป็นเมืองขึ้นพม่าตั้งสองครั้ง น่าอดสูใจจริงๆ” เด็กคนที่สี่ซ้ำเติม แล้วสรุปว่า
“มีบรรพบุรุษกากๆแบบนี้ สู้ไปสรรเสริญเกาหลีดีกว่า คิดดูเกาหลีน่ะเป็นถึงผู้ให้กำเนิดอารยธรรมเมโสโปเตเมีย นอกจากนั้นยังเป็นผู้ประดิษฐ์ตัวอักษรจีน การฝังเข็ม และศัลยกรรมพลาสติก แล้วรู้ไหมมวยไทยน่ะไปลอกมาจากมวยเกาหลีชื่อ จุคทูกี ด้วยนะ”
“เย้ เราไปทำศัลยกรรมให้ตี๋ขึ้น แล้วเปลี่ยนสัญชาติเป็นเกาหลีตามกระแส K-Pop กันเถอะ!” เด็กทั้งห้องร้องพร้อมกัน
พวกเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าบัดนี้เส้นเลือดได้เดือดปึ๊ดขึ้นที่ขมับของคุณครูใจดีเสียแล้ว...
“ฮึ่ม... เจ้าพวกเด็กเหลือขอ” คุณครูครางพร้อมทั้งแผ่รังสีอำมหิต จนบรรยากาศในห้องเรียนแปรปรวน
“จงรับไปเถิด ท่าไม้ตายที่เจ็ด แปรงลบกระดาน ผลาญภูกระดึง!”
ฉับพลันนั้น แปรงลบกระดานที่วางอยู่หน้าครูก็บินฉวัดเฉวียนไปฟาดหัวเด็กนักเรียนทั้งชั้น เลือดกระฉูด นอนร้องโอดโอยกลาดเกลื่อน!
คุณครูเดินช้าๆไปกระชากคอเสื้อเด็กคนแรกที่กล้าพูดกวนตีนขึ้นมา
“บรรพบุรุษไทยรักษาแผ่นดินให้อยู่พวกแกก็ว่ากาก ชอบความป่าเถื่อนนักใช่มั้ย ...ได้เลยเดี๋ยวข้าจะเล่าประวัติศาสตร์ไทยเวอร์ชันฮาร์ดคอร์ให้ฟังเอง” (เด็กเลือดกบปาก หายใจไม่ออกเลยตอบโต้ไม่ได้)
“นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของอินเดีย...” คุณครูเอ่ย “มันชื่อว่ารัฐอัสสัม... ได้ยินไหมรัฐอัสสัม!”
“...รัฐอัสสัมของอินเดียเกี่ยวอะไรกับไทยล่ะครับ...” เด็กที่ถูกกระชากคอเสื้อครางพะงาบๆ
ครูเบ่งพลังขว้างเด็กนั้นปลิวไปทะลุกำแพง ตึกสั่น “ก็ไทยอาหมไงล่ะอ้ายพวกโง่! พวกแกนั่งลงซะ แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง!” เธอตวาด พวกเด็กจึงพากันคลานกลับมานั่งด้วยความหวาดกลัว
...คุณครูใจดีจึงเริ่มเล่า...
คำเตือน เรื่องนี้จัดอยู่ใน "เรท อ"
::: ::: :::
เรียนผู้อ่านทุกท่าน นี่เป็นสารคดีสงครามชุด The Wild Chronicles ตอน "อสุราอาหม" หากชื่นชอบสามารถกดไลค์เพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat นะครับ