เรื่องมีอยู่ว่า น้องชายภรรยาผม เพิ่งได้งานใหม่ โดยงาน และ ตำแหน่งที่ได้ใหม่ปรับเรทจากเดิม แสนนิดๆ / เดือน เป็น 2 แสน / เดือน ที่ทำงานใหม่พยายามจีบเขาให้เข้าทำงานให้มานานพอควรแล้ว งานนี้เจ้านายใหม่ที่อยู่ ตปท. เคาะเองเลย สรุปได้เงินเดือนเพิ่มมาเกือบเท่าตัว
เมื่อคืน คุยๆกันเล่นๆ ผมยังบอกเขาว่าทำงานสบายกว่า ไม่ต้องเครียดเรื่องคนงาน หมุนเงิน หรือ คิดเรื่อง กำไร-ขาดทุน สิ้นเดือนก็รับเงินเดือนไป วันหยุดก็ลาพักร้อนหยุดยาวๆได้ ผมยังอิจฉาเลย ...... แต่น้องเขากลับบอกผมว่า ทำงานอย่างนี้ไม่รวยหรอก อย่างดีก็ได้เงินเดือนเท่านี้ ต้องผ่อนโน่น นี่ อีกเยอะแยะ ถ้าจะรวยจริงๆต้องทำธุรกิจมากกว่า ทำงานออฟฟิศ ก็เครียดเหมือนกันนะใครว่าไม่เครียด ว่าแล้วน้องก็ร่ายยาว ......ไหนจะ การเมืองภายใน office ไหนจะต้อง ดูสีหน้าเจ้านาย เบื่อที่จะทำงานให้กับคนอื่น เป็นเจ้านายตัวเองดีกว่าเยอะ ฯลฯ
จริงๆแล้วผมว่ามันก็มี ดี-เสีย คนละอย่างนะครับ แล้วแต่ว่าใครจะชอบที่จะทำงานแบบไหนมากกว่า ผมเลยลองมานั่งๆคิดต่อดูในสิ่งที่ผมไม่ชอบมากๆเลยกับการที่เป็นเจ้าของธุรกิจนะครับ ส่วนด้านของการทำงานออฟฟิศ ผมไม่มีข้อมูลคงต้องถามน้องมันดู เพื่อนๆลองไล่ดูก็ได้นะครับอาจจะตรง หรือ ไม่ตรงกับของใคร อันนี้แล้วแต่แนวคิดของแต่ละคนนะครับ ไม่ว่ากันนะ
1) การจ้างลูกน้อง หรือ คนที่จะมาช่วยงาน อันนี้ผมให้ขึ้น list อันดับหนึ่งในใจผมเลย จริงๆแต่ก่อน สัก 5 ปี ที่แล้วยังไม่แย่มากนะครับ แต่หลายๆปีมานี้ ผมมีปัญหาใน area นี้ มากที่สุดเลย ลูกน้องที่ไว้ใจได้จะเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ อยากจะได้เงินเร็วๆ ทำงานน้อยๆ ไล่ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ ผจก. ยัง แม่บ้าน เลยครับ ดังนั้น ท่านเจ้าของกิจการท่านใด มีทีมงานที่ดี และ ไม่ขาดแคลนผู้ช่วยในการทำงาน ขอให้ท่านจงดีใจว่าท่านโชคดีมากๆแล้วครับ ขอให้เก็บบุคลากรอันมีค่าของท่านไว้และเลี้ยงดูเขาไว้อย่างดีเถอะครับ แล้ว ท่านจะปวดหัวน้อยลงอย่างมาก
2) การที่ไม่สามารถหยุดไปไหนนานๆได้ อันนี้ผมให้เป็นอันดับสอง ในใจผมนะครับ แหะๆ ...... เพราะ การมีธุรกิจ ก็เหมือนกันการมีลูกเพิ่มอีก 4 - 5 คน เลยครับ แล้วคุณจะทิ้งธุรกิจคุณไปได้นานๆเหรอครับ โดยเฉพาะคนที่มีธุรกิจที่ทำค้าปลีกด้วยแบบผม จริงๆผมอยากจะเดินทางในช่วงที่ไม่ใช่เดือน เม.ย. หรือ ธ.ค. บ้าง น่ะครับ แต่ก็ไม่สามารถหยุดกิจการไปได้นานๆ เพราะ ไหนจะลูกน้อง ไหนจะลูกค้า ไหนจะต้องห่วง supplier ว่าจะคิดอย่างไรหากเราหยุดไปนานๆ (ร้านนี้มันหนีหรือเปล่า ?? ) แต่ปัจจุบันผมก็ทำใจได้ระดับหนึ่งแล้วนะครับ สงกรานต์ก็หยุดเลย 10 วัน ลูกน้อง ดีใจ หยุดนานดี...... แต่เรา(แอบ) เสียดายรายได้ ผมกับภรรยาตกลงกันว่าเราจะหยุดเพื่อไปชาร์จแบตฯ แม้ว่าตอนกลับมาเปิดร้านลูกค้าจะบ่นว่าเราปิดนาน แต่ก็แสดงว่าเรามีลูกค้าที่ยังคิดถึงเราอยู่ (คิดเข้าข้างตัวเองสุดๆ 555)
ตอนนี้คิดออกแค่นี้ก่อน ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ ไว้มาต่อใหม่
ระหว่างงานประจำ 200K / เดือน กับ ธุรกิจส่วนตัว หากรายได้พอๆกัน แบบไหนจะดีกว่ากัน
เมื่อคืน คุยๆกันเล่นๆ ผมยังบอกเขาว่าทำงานสบายกว่า ไม่ต้องเครียดเรื่องคนงาน หมุนเงิน หรือ คิดเรื่อง กำไร-ขาดทุน สิ้นเดือนก็รับเงินเดือนไป วันหยุดก็ลาพักร้อนหยุดยาวๆได้ ผมยังอิจฉาเลย ...... แต่น้องเขากลับบอกผมว่า ทำงานอย่างนี้ไม่รวยหรอก อย่างดีก็ได้เงินเดือนเท่านี้ ต้องผ่อนโน่น นี่ อีกเยอะแยะ ถ้าจะรวยจริงๆต้องทำธุรกิจมากกว่า ทำงานออฟฟิศ ก็เครียดเหมือนกันนะใครว่าไม่เครียด ว่าแล้วน้องก็ร่ายยาว ......ไหนจะ การเมืองภายใน office ไหนจะต้อง ดูสีหน้าเจ้านาย เบื่อที่จะทำงานให้กับคนอื่น เป็นเจ้านายตัวเองดีกว่าเยอะ ฯลฯ
จริงๆแล้วผมว่ามันก็มี ดี-เสีย คนละอย่างนะครับ แล้วแต่ว่าใครจะชอบที่จะทำงานแบบไหนมากกว่า ผมเลยลองมานั่งๆคิดต่อดูในสิ่งที่ผมไม่ชอบมากๆเลยกับการที่เป็นเจ้าของธุรกิจนะครับ ส่วนด้านของการทำงานออฟฟิศ ผมไม่มีข้อมูลคงต้องถามน้องมันดู เพื่อนๆลองไล่ดูก็ได้นะครับอาจจะตรง หรือ ไม่ตรงกับของใคร อันนี้แล้วแต่แนวคิดของแต่ละคนนะครับ ไม่ว่ากันนะ
1) การจ้างลูกน้อง หรือ คนที่จะมาช่วยงาน อันนี้ผมให้ขึ้น list อันดับหนึ่งในใจผมเลย จริงๆแต่ก่อน สัก 5 ปี ที่แล้วยังไม่แย่มากนะครับ แต่หลายๆปีมานี้ ผมมีปัญหาใน area นี้ มากที่สุดเลย ลูกน้องที่ไว้ใจได้จะเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ อยากจะได้เงินเร็วๆ ทำงานน้อยๆ ไล่ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ ผจก. ยัง แม่บ้าน เลยครับ ดังนั้น ท่านเจ้าของกิจการท่านใด มีทีมงานที่ดี และ ไม่ขาดแคลนผู้ช่วยในการทำงาน ขอให้ท่านจงดีใจว่าท่านโชคดีมากๆแล้วครับ ขอให้เก็บบุคลากรอันมีค่าของท่านไว้และเลี้ยงดูเขาไว้อย่างดีเถอะครับ แล้ว ท่านจะปวดหัวน้อยลงอย่างมาก
2) การที่ไม่สามารถหยุดไปไหนนานๆได้ อันนี้ผมให้เป็นอันดับสอง ในใจผมนะครับ แหะๆ ...... เพราะ การมีธุรกิจ ก็เหมือนกันการมีลูกเพิ่มอีก 4 - 5 คน เลยครับ แล้วคุณจะทิ้งธุรกิจคุณไปได้นานๆเหรอครับ โดยเฉพาะคนที่มีธุรกิจที่ทำค้าปลีกด้วยแบบผม จริงๆผมอยากจะเดินทางในช่วงที่ไม่ใช่เดือน เม.ย. หรือ ธ.ค. บ้าง น่ะครับ แต่ก็ไม่สามารถหยุดกิจการไปได้นานๆ เพราะ ไหนจะลูกน้อง ไหนจะลูกค้า ไหนจะต้องห่วง supplier ว่าจะคิดอย่างไรหากเราหยุดไปนานๆ (ร้านนี้มันหนีหรือเปล่า ?? ) แต่ปัจจุบันผมก็ทำใจได้ระดับหนึ่งแล้วนะครับ สงกรานต์ก็หยุดเลย 10 วัน ลูกน้อง ดีใจ หยุดนานดี...... แต่เรา(แอบ) เสียดายรายได้ ผมกับภรรยาตกลงกันว่าเราจะหยุดเพื่อไปชาร์จแบตฯ แม้ว่าตอนกลับมาเปิดร้านลูกค้าจะบ่นว่าเราปิดนาน แต่ก็แสดงว่าเรามีลูกค้าที่ยังคิดถึงเราอยู่ (คิดเข้าข้างตัวเองสุดๆ 555)
ตอนนี้คิดออกแค่นี้ก่อน ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ ไว้มาต่อใหม่