ก่อนหน้านี้ได้เตือนเรื่องข้อผิดพลาดในการซื้อบ้านกันไปแล้ว วันนี้เจ้าของกระทู้มีเคล็ดลับในการซื้อบ้านมาบอกกันค่ะ
ซื้อรถก็มีวิธีการเลือกรถที่ดี ซื้อบ้านก็มีวิธีการเลือกบ้านที่ดี อย่างเคล็ดลับสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดเล็กน้อยที่ไม่ควรมองข้าม ลองมาดูว่าถ้าคุณจะซื้อบ้านใหม่ในวันนี้ คุณควรคิดถึงเรื่องอะไรบ้างที่สำคัญด้วย 10 เคล็ดลับต่อไปนี้
1.ทำเล ทำเล ทำเล
ทำเลอย่างไหนจึงจะถือว่าได้ทำเลดี เริ่มจากทำเลของหมู่บ้านก่อนละกัน ทำเลดีสำหรับผู้อยู่อาศัยแปลว่าทำเลที่เดินทางสะดวก มีระบบขนส่งสาธารณะ ใกล้สาธารณูปโภค สาธารณูปการต่างๆ อยู่ในทำเลที่สามารถไปยังสถานพยาบาลได้อย่างรวดเร็วยามเจ็บป่วย มีโรงเรียนสำหรับบุตรหลาน มีตลาดสำหรับจับจ่ายใช้สอย และทางที่ดีไม่ควรไกลจากสถานที่ทำงาน ข้อสุดท้ายอาจยากสักนิด แต่ให้อ้างอิงจากสถานที่ทำงานล่าสุดแล้วกัน เพราะจะซื้อบ้านได้ อย่างน้อยการงานต้องมั่นคงแล้ว
2.เงิน เงิน เงิน
งบประมาณเป็นเรื่องถัดมา แล้วงบประมาณเป็นเคล็ดลับอย่างไรน่ะหรือ งบเยอะก็ได้ของดีหน่อย งบน้อยก็ได้สินค้าที่มีทำเลและคุณภาพรองลงมา ดังนั้นก่อนซื้อบ้านให้พิจารณาเรื่องเงินเก็บ รายได้ และค่าใช้จ่ายให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน วิธีการประเมินเบื้องต้นก็คือ โดยทั่วไปธนาคารจะให้กู้ประมาณ 80% ของราคาบ้าน ดังนั้นคุณควรมีเงินเก็บประมาณ 20% ของราคาบ้าน (เงินดาวน์) หรืออย่างน้อยให้พิจารณาว่าเบื้องต้นคุณสามารถผ่อนดาวน์ได้แน่ๆ ก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะชัวร์เสมอไป เพราะเดี๋ยวนี้หลายโครงการให้ดาวน์น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ธนาคารไม่ปล่อยกู้
3.เลือกผู้ประกอบการที่ไว้ใจได้
“ซื้อบ้านไม่ได้บ้าน ซื้อคอนโดไม่ได้คอนโด” เพราะผู้ประกอบการมีปัญหาสร้างไม่เสร็จ เพราะขาดเงินทุน สถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ เนื่องจากยอดขายไม่ออก ดังนั้นเลือกๆกันสักหน่อยเถอะ ผู้ประกอบการที่อยู่มายาวนาน ไม่เคยมีปัญหาก็น่าจะได้รับความน่าเชื่อถือกว่าผู้ประกอบการรายใหม่ ผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็น่าจะมีความมั่นคงมากกว่าผู้ประกอบการนอกตลาด ที่สำคัญก็คือประสบการณ์ของผู้ประกอบการเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งเรื่องแบบบ้าน และการบริหารโครงการให้ลุล่วง
4.เลือกตำแหน่งบ้าน-คอนโด จากผังโครงการให้รอบคอบ
การเลือกตำแหน่งบ้าน-คอนโดฯ ใหม่ จากผังโครงการทำให้เรามองเห็นภาพรวมทั้งหมดของโครงการที่เราจะซื้อ อาทิ ต้องการบ้านที่อยู่ด้านหน้าโครงการ บ้านติดสโมสร ติดสวน ติดสระว่ายน้ำ หรือบ้านในซอยตื้นๆ ทั้งนี้แต่ละตำแหน่งบ้านจะมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อาทิบ้านบริเวณหน้าโครงการมักเป็นถนนใหญ่ ใกล้ทางเข้าออกหมู่บ้าน แต่มักจะพลุกพล่าน บ้านติดสโมสร สวน หรือสระว่ายน้ำ จะสะดวกในการใช้สอยสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ แต่มักขาดความเป็นส่วนตัว เสียงดังจากผู้ใช้บริการ บ้านที่อยู่ในซอยตื้นๆ อาจได้เพื่อนบ้านน้อยหน่อย แต่สงบ รถเข้าออกน้อย
อาคารชุดก็เช่นเดียวกัน ห้องติดลิฟต์ ติดบันไดหนีไฟ มักสร้างความอุ่นใจให้ผู้ซื้อได้ในยามฉุกเฉินต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันเสียงจากลิฟต์ หรืออาจมีเจ้าของร่วมมาสูบบุรี่บริเวณทางหนีไฟบ่อยๆ ทำให้เราเกิดความไม่ไว้วางใจขึ้นมาได้
5.เลือกทิศที่ตั้งของหน้าบ้าน หรือหน้าต่างห้องชุด
ข้อนี้เป็นหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เป็นทิศทางฮวงจุ้ยอย่างที่หลายคนคิด พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกในตอนเช้า ตกทางฟากตะวันตกตอนเย็น ฉะนั้นใครอยากได้แดดตอนเช้าก็เลือกหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออก หรือเยื้องๆมาทางทิศเหนือก็ยังได้ ส่วนใครที่ชอบนอนตื่นสายไม่อยากให้แดมารบกวนแต่เช้าก็ให้เลือกทิศทางตรงกันข้ามคือหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก หรือเยื้องๆ ไปทางทิศใต้ ก็จะได้แดดเต็มๆ ในช่วงบ่ายถึงเย็น ชอบอย่างไหน เลือกอย่างนั้น
เดี๋ยวมาต่อ อีก 5 ข้อที่เหลือตอนบ่ายนะคะ
10 เคล็ดลับ วิธีการเลือกบ้านใหม่
ซื้อรถก็มีวิธีการเลือกรถที่ดี ซื้อบ้านก็มีวิธีการเลือกบ้านที่ดี อย่างเคล็ดลับสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดเล็กน้อยที่ไม่ควรมองข้าม ลองมาดูว่าถ้าคุณจะซื้อบ้านใหม่ในวันนี้ คุณควรคิดถึงเรื่องอะไรบ้างที่สำคัญด้วย 10 เคล็ดลับต่อไปนี้
1.ทำเล ทำเล ทำเล
ทำเลอย่างไหนจึงจะถือว่าได้ทำเลดี เริ่มจากทำเลของหมู่บ้านก่อนละกัน ทำเลดีสำหรับผู้อยู่อาศัยแปลว่าทำเลที่เดินทางสะดวก มีระบบขนส่งสาธารณะ ใกล้สาธารณูปโภค สาธารณูปการต่างๆ อยู่ในทำเลที่สามารถไปยังสถานพยาบาลได้อย่างรวดเร็วยามเจ็บป่วย มีโรงเรียนสำหรับบุตรหลาน มีตลาดสำหรับจับจ่ายใช้สอย และทางที่ดีไม่ควรไกลจากสถานที่ทำงาน ข้อสุดท้ายอาจยากสักนิด แต่ให้อ้างอิงจากสถานที่ทำงานล่าสุดแล้วกัน เพราะจะซื้อบ้านได้ อย่างน้อยการงานต้องมั่นคงแล้ว
2.เงิน เงิน เงิน
งบประมาณเป็นเรื่องถัดมา แล้วงบประมาณเป็นเคล็ดลับอย่างไรน่ะหรือ งบเยอะก็ได้ของดีหน่อย งบน้อยก็ได้สินค้าที่มีทำเลและคุณภาพรองลงมา ดังนั้นก่อนซื้อบ้านให้พิจารณาเรื่องเงินเก็บ รายได้ และค่าใช้จ่ายให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน วิธีการประเมินเบื้องต้นก็คือ โดยทั่วไปธนาคารจะให้กู้ประมาณ 80% ของราคาบ้าน ดังนั้นคุณควรมีเงินเก็บประมาณ 20% ของราคาบ้าน (เงินดาวน์) หรืออย่างน้อยให้พิจารณาว่าเบื้องต้นคุณสามารถผ่อนดาวน์ได้แน่ๆ ก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะชัวร์เสมอไป เพราะเดี๋ยวนี้หลายโครงการให้ดาวน์น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ธนาคารไม่ปล่อยกู้
3.เลือกผู้ประกอบการที่ไว้ใจได้
“ซื้อบ้านไม่ได้บ้าน ซื้อคอนโดไม่ได้คอนโด” เพราะผู้ประกอบการมีปัญหาสร้างไม่เสร็จ เพราะขาดเงินทุน สถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ เนื่องจากยอดขายไม่ออก ดังนั้นเลือกๆกันสักหน่อยเถอะ ผู้ประกอบการที่อยู่มายาวนาน ไม่เคยมีปัญหาก็น่าจะได้รับความน่าเชื่อถือกว่าผู้ประกอบการรายใหม่ ผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ก็น่าจะมีความมั่นคงมากกว่าผู้ประกอบการนอกตลาด ที่สำคัญก็คือประสบการณ์ของผู้ประกอบการเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งเรื่องแบบบ้าน และการบริหารโครงการให้ลุล่วง
4.เลือกตำแหน่งบ้าน-คอนโด จากผังโครงการให้รอบคอบ
การเลือกตำแหน่งบ้าน-คอนโดฯ ใหม่ จากผังโครงการทำให้เรามองเห็นภาพรวมทั้งหมดของโครงการที่เราจะซื้อ อาทิ ต้องการบ้านที่อยู่ด้านหน้าโครงการ บ้านติดสโมสร ติดสวน ติดสระว่ายน้ำ หรือบ้านในซอยตื้นๆ ทั้งนี้แต่ละตำแหน่งบ้านจะมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป อาทิบ้านบริเวณหน้าโครงการมักเป็นถนนใหญ่ ใกล้ทางเข้าออกหมู่บ้าน แต่มักจะพลุกพล่าน บ้านติดสโมสร สวน หรือสระว่ายน้ำ จะสะดวกในการใช้สอยสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ แต่มักขาดความเป็นส่วนตัว เสียงดังจากผู้ใช้บริการ บ้านที่อยู่ในซอยตื้นๆ อาจได้เพื่อนบ้านน้อยหน่อย แต่สงบ รถเข้าออกน้อย
อาคารชุดก็เช่นเดียวกัน ห้องติดลิฟต์ ติดบันไดหนีไฟ มักสร้างความอุ่นใจให้ผู้ซื้อได้ในยามฉุกเฉินต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันเสียงจากลิฟต์ หรืออาจมีเจ้าของร่วมมาสูบบุรี่บริเวณทางหนีไฟบ่อยๆ ทำให้เราเกิดความไม่ไว้วางใจขึ้นมาได้
5.เลือกทิศที่ตั้งของหน้าบ้าน หรือหน้าต่างห้องชุด
ข้อนี้เป็นหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เป็นทิศทางฮวงจุ้ยอย่างที่หลายคนคิด พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกในตอนเช้า ตกทางฟากตะวันตกตอนเย็น ฉะนั้นใครอยากได้แดดตอนเช้าก็เลือกหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออก หรือเยื้องๆมาทางทิศเหนือก็ยังได้ ส่วนใครที่ชอบนอนตื่นสายไม่อยากให้แดมารบกวนแต่เช้าก็ให้เลือกทิศทางตรงกันข้ามคือหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก หรือเยื้องๆ ไปทางทิศใต้ ก็จะได้แดดเต็มๆ ในช่วงบ่ายถึงเย็น ชอบอย่างไหน เลือกอย่างนั้น
เดี๋ยวมาต่อ อีก 5 ข้อที่เหลือตอนบ่ายนะคะ