ประทับใจ กับพนักงานฟูจิ สาขาฟิวเจอร์รังสิต ชั้นใต้ดินมากค่ะ!!

ประทับใจ กับพนักงานฟูจิ สาขาฟิวเจอร์รังสิต ชั้นใต้ดินมากค่ะ

เรื่องอาจยาวหน่อยนะคะ

เรื่องเกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ อาทิตย์ที่ผ่านมานี่ค่ะ  เราไปเดินฟิวเจอร์กันในช่วงบ่าย และแวะเบิกเงินสดมา 4 หมื่น หลังจากนั้นก็มานั่งทานข้าวที่ฟูจิ ฟิวเจอร์รังสิต ชั้นใต้ดิน (ที่ฟิวมีฟูจิ 2 สาขาค่ะ) เวลาประมาณ 5 โมงเย็น  ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษค่ะ ทานเสร็จเกือบ 6 โมงเรียกเช็คบิล  แฟนควักเงินออกมาจ่าย บอกว่าวันนี้เขาออกเอง เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรค่ะ ทานเสร็จก็เดินเล่นซักพักแล้วกลับ   จนกระทั่ง  เช้าวันรุ่งขึ้น....แฟนจะออกไปทำงานทีนี้ล่ะงานงอกค่ะ  หากระเป๋าตังค์ไม่เจอ  ช่วยกันรื้อทั้งห้องก็ไม่เจอ  .........ชักเอะใจ........ หยิบกระเป๋าตังค์ออกมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่อ่ะ..... ตอนจ่ายเงินที่ฟูจิ .... แล้วจำได้มั้ยว่าหยิบแล้วเก็บกระเป๋าตังค์รึเปล่า   ทีนี้เค้าอึ้งไปเลยค่ะ  เค้าบอกว่า เค้าหยิบเงินออกมาจ่าย และคิดว่าจะรอตังค์ทอน จึงยังไม่เก็บกระเป๋าตังค์ และวางไว้บนเบาะนั่ง  แต่จำไม่ได้ว่า รับตังค์ทอนแล้วเก็บกระเป๋ารึเปล่า

เท่านั้นแหละ  ทีนี้ตาเหลือกเลยค่ะ เงินตั้ง 4 หมื่น สำหรับเรานี่มันไม่ใช่เงินน้อยๆ เลยค่ะ + กับเงินติดกระเป๋าที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือของเดือน ก็ราวสี่หมื่นห้า  ไม่รวมบัตรเอทีเอ็ม (ยังดีไม่พกบัตรเครดิต) บัตรประชาชน ใบขับขี่  เยอะแยะตาแป๊ะไก่ ในใจคิดว่าไม่ได้คืนแน่แล้ว เพราะตกที่นั่นแน่นอนรึเปล่าก็จำไม่ได้  เงินสดล้วนๆ  หยิบง่ายใช้คล่องแน่นอน  ทั้งเครียดทั้งปลง จะหาเงินที่ไหนมาแทนก้อนนี้  อาการหนักถึงกะหาข้อมูลไว้แล้วว่า ต้องไปแจ้งความที่ไหนเพื่อเอาใบแจ้งความไปทำบัตรใหม่  
รู้ตัวกันตอน 8 โมงค่ะ จะวิ่งไปห้าง ก็ยังไม่เปิด ได้แต่นั่งอดทนรอ จนห้างเปิด 11 โมงเผ่นไปถึงหน้าฟูจิ  
“ขอโทษนะคะ  เมื่อวานลืมกระเป๋าตังค์ไว้ค่ะ ไม่ทราบมีใครเก็บได้รึเปล่าคะ สีน้ำตาลค่ะ”
น้องพนักงาน นึกซักแป๊บ แล้วก็แบบ ซักครู่นะคะ แล้วหยิบสมุดปกอ่อนยุ่ยๆ ขึ้นมาหนึ่งเล่ม  แล้วเปิดรายการของหาย ก็มีกระเป๋าตังค์สีน้ำตาลรวมอยู่ด้วยจริงๆค่ะ  ทีนี้น้องๆพนักงานที่แคชเชียร์ก็บอกว่า
“อ๋อ กระเป๋าตังค์ใบนั้นไงพี่ ที่มีเงินใส่อยู่เยอะๆอ้ะ”
“เออๆ ใช่ ไม่รู้พี่อุ้ม(คิดว่าชื่อนี้นะคะ แบบว่าตอนนั้นหูอื้อตาลาย คล้ายจะเป็นลมค่ะเลยฟังไม่ถนัด) เขาเอาไปเก็บไว้ตรงไหน”  น้องๆเขาก็ช่วยกันค้นบริเวณแคชเชียร์ค่ะ ในที่สุดก็เจอ  เราตรวจเช็คของในกระเป๋าอยู่ครบทุกอย่างค่ะ ไม่ขาดแม้ซักใบ  โล่งเลยค่ะเหมือนยกภูเขาออกจากอก เราแทบจะตีลังกาอยู่หน้าร้านด้วยความดีใจจัด
“ขอโทษนะคะ พอดีเก็บได้เมื่อวานก็ตั้งใจจะโทรบอก แต่ในกระเป๋าไม่มีเบอร์ติดต่อเลยค่ะ”  น้องจะขอโทษทำไม๊ พี่แทบจะกระโดดกอดน้องเลยนะนั่นน่ะ
“ขอบคุณมากๆๆๆๆ ค่ะ ขอบคุณจริงๆ นึกว่าหายแน่แล้ว ขอบคุณมากนะคะ” วินาทีนั้น นึกคำพูดออกแค่นี้ค่ะ
น้องยิ้มให้แล้วบอกว่า  “ไม่เป็นไรค่ะ”  เราบอกขอบคุณอีกหลายครั้ง และไม่มีเวลาจะพูดอะไรได้มากกว่านี้ เพราะต้องรีบไปทำงานต่อ  วันรุ่งขึ้นก็คือวันนี้  เราโทรเข้าบริษัท ฟูจิ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ค่ะ  พนักงานที่รับสายดูหงุดหงิดอะไรซักอย่าง แต่เราก็ยังเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง และบอกเขาว่า อยากจะทำจดหมายขอบคุณ  และชื่นชมในความดีของพนักงานทุกคน ต้องทำอย่างไรบ้าง และส่งไปที่ไหนคะ  พนักงานที่รับสายตอบเราด้วยเสียงกึ่งจิกว่า (พยายามอนุมานว่าตัวเองหูแว่ว จริงๆน้องเขาอาจพูดด้วยเสียงไพเราะปานนกไนติงเกลอยู่)
พนง.    “ไม่เห็นต้องใส่ใจนี่คะ  มันเป็นหน้าที่ของพวกเค้าอยู่ละ จะมาชมทำไม”  เอิ่ม....
เรา       “ไม่เป็นไรค่ะ อยากทำให้จริงๆ”
พนง.     “งั้นก็เขียนๆ แล้วก็เอาไปส่งให้เขาเองแล้วกันค่ะ”  ห๊ะ...
เรา        “เอ่อ ยังไงนะคะ ให้ส่งไปที่ไหนนะคะ”  ทีนี้เหมือนเขาก็รำคาญเราค่ะ เลยบอกอิเมลล์มาว่าส่งไปที่ info@fuji.co.th
เราคิดว่า คำขอบคุณจะส่งไปถึงน้องๆพนักงาน หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจค่ะ เขาอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กมากจนลบจดหมายทิ้งเลยก็ได้ จึงมาโพสต์เล่าให้ฟังค่ะ  เราคิดว่าเมื่อคนทำดีเขาก็ควรได้รับการชื่นชมในความดีของเขาค่ะ  ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นหน้าที่หรือไม่  (จริงๆ ก็ไม่ใช่หน้าที่ของเขานะคะ ไอ้ดูแลทรัพย์สินลูกค้าด้วยเนี่ย)    ขอบคุณพนักงานฟูจิ ทุกคน ที่ฟิวเจอร์รังสิต จริงๆค่ะ  




*เพิ่มเติมแท๊กห้อง สีลม เพราะคิดว่า น่าจะเกี่ยวกับการจัดการค่ะ
*เพิ่มเติมเรื่องการตอบแทนค่ะ

เห็นมีหลายท่านถามว่า เราได้ตอบแทนน้องเขารึเปล่าค่ะ พอดีไม่ได้เล่าไว้ในเรื่องค่ะ

ตอนนั้นเราหยอดกระปุกทิปไป 1 พันค่ะ    
ทีแรกเราจะยื่นเงินสดให้กับมือ แต่รู้สึกไม่สบายใจ
กลัวน้องเขาหาว่าดูถูกน้ำใจเขารึเปล่า เลยหยอดกระปุกทิปไปแทนค่ะ  
ตอนเราไปคนที่เก็บของเราได้ไม่เข้ากะค่ะ  แต่ถ้าทุกคนไม่ช่วยกันดูแล
เราว่าเราคงได้คืนไม่ครบ ถ้ามีคนโลภซักคนทำเป็นว่ามีเจ้าของมารับไปแล้ว เราคงไม่ได้คืน
น้องเค้าน่ารักทุกคนจริงๆค่ะ

เราเข้าใจค่ะสำหรับท่านที่เข้าใจว่า เราตอบแทนน้อยไป เราก็ทราบว่าเราให้น้อยและเราก็ไม่ได้มีมากมายพอจะให้ค่ะ
เราจึงพยายามตอบแทนน้องเขาโดยการบอกถึงสิ่งที่น้องได้ทำให้เราค่ะ

สำหรับท่านที่ถามว่า ทำไมเราจึงพกเงินมากขนาดนั้น อาทิตย์ก่อนหน้า รถเราจอดอยู่เฉยๆ ติดไฟแดงค่ะ
ขณะที่ติดอยู่มาครึ่งนาทีแล้ว อยู่ๆก็มีรถอีกคันเบรกแตกซิ่งตู้มชนตุดรถเรา
แล้วรถเราไม่มีประกัน (อันนี้เราโง่เองค่ะ เพิ่งขับรถปีที่ 2 เข้าใจว่า พรบ. คือประกันชั้น 3 มารู้ว่าไม่ใช่เอาตอนชนนี่แหละ)  
คู่กรณีก็ไม่มีประกันค่ะ จึงขอผัดผ่อนเราว่าให้เราซ่อมรถเราก่อน
และเขาจะจ่ายเงินคืนให้ทั้งหมดในภายหลัง
เงินนั่น คือเงินที่เราจะเอาไปจ่ายอู่ซ่อมที่นัดวันจันทร์ค่ะ ส่วนใบสีขาวๆในภาพ นั่นคือใบแจ้งความที่คู่กรณียืนยันว่าจะชดใช้ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่