วานผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ
เรื่องราวอาจจะซับซ้อนนิดนึงนะคะ คือ น้าสาวกับน้าเขยแยกกันอยู่นานแล้ว แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่ากัน (น้าเขยเรียกได้ว่าตอนนี้แทบหมดตัวแล้ว และสร้างภาระให้น้าสาวมาตลอด)
เรื่องมีอยู่ว่า น้าเขยได้ไปซื้อบ้านไว้เมื่อ10กว่าปีที่แล้ว และผ่อนจ่ายเรื่อยๆ จนหลังๆอยู่ในสภาวะที่ผ่อนต่อไม่ได้เหลือที่ต้องจ่าย อีกประมาณ 5-6 แสนบาท (ตอนนี้บ้านมูลค่าประมาณ 1.6ล้าน) ทีนี้แบงค์เลยทำตามขั้นตอนต่างๆ จนตอนถึงชั้นศาลเรียกให้ไกล่เกลี่ยชำระหนี้ ทีนี้น้าสาวที่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า เลยต้องตกเป็นผู้ค้ำประกัน(หรือผู้กู้ร่วม ไม่แน่ใจอะค่ะ) แต่ต้องรับผิดชอบในหนี้สินนี้ด้วย
โดยศาลนัดรอบแรกให้ไกลเกลี่ยและไปดำเนินการกับแบงค์ให้เรียบร้อย และจะนัดติดตามผลรอบ 2 ในวันศุกร์ที่ 28 นี้ ซึ่งตอนนี้ทางน้าสาวกำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะ น้าเขยมัวแต่รอหาคนมาซื้อบ้านต่อแต่ยังหาไม่ได้ เลยไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร ซึ่งหากไม่ความคืบหน้าไปแจ้งศาลในรอบ 2 บ้านหลังนี้อาจจะตกเป็นของแบงค์ และเอาไปขายทอดต่อไป ยกเว้นแต่ว่าหากมีคนจะมาซื้อต่อและเอาสัญญามาให้ศาลดู ศาลก็อาจจะเลื่อนนัดให้ไปจัดการก่อน บ้านก็ยังไม่ถูกขายทอดต่อ>> อันนี้น้าสาวบอกมา
ตามขั้นตอนมันเป็นแบบนี้ใช่มั้ยคะ และการเอาสัญญาของคนที่จะซื้อต่อมาผ่อนผันมันทำได้จริงใช่มั้ยคะ
เพื่อไม่ให้บ้านหลุด เลยมีทางออกอยู่ 2 ทางคือ
1. น้าเขยบอกว่า ตอนนี้คนที่เช่าบ้านหลังนั้น อยากจจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองเลย เลยติดต่อกับน้าเขยไว้ ซึ่งหากให้เค้าทำสัญญายืนยันไว้ก่อน (คือสัญญาจะซื้อจะขายใช่รึเปล่าคะ) ก็น่าจะเอามายื่นต่อศาลขอเลื่อนเวลาได้ จากนั้นก็ให้เค้าไปจัดการกันเองต่อไป น้าสาวก็จะได้ไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบหนี้สินด้วย
>> ตอนนี้ น้าเขยกำลังติดต่อคนจะซื้ออยู่
ไม่แน่ใจว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างในการทำสัญญา และเค้าก็ไม่ได้มีสำเนาด้านหลังโฉนดที่ดินด้วย โฉนดตัวจริงอยู่กับแบงค์ค่ะ เหลืออีก 2-3 วัน จะทันมั้ย
2. หากข้อแรกไม่รอด วันพุธนี้น้าสาวอาจจะให้เราไปทำสัญญากับน้าเขยไปก่อนว่าจะซื้อบ้านหลังนี้ต่อจากน้าเขย(ใช่สัญญาจะซื้อจะขายป่าวคะ) เพื่อไปยื่นศาลขอเลื่อนการตัดสินกับแบงค์ไปก่อน โดยเราตกลงกับน้าเขยแค่จ่ายเงินที่ค้างกับแบงค์ให้เท่านั้น และจะให้โอนเกรรมสิทธิ์ป็นชื่อเราแทน อาจจะแบ่งเค้าสัก 2 -3 แสน เพราะสงสารน้าเขยที่จะหมดตัวแล้วจริงๆ (ที่จริงแอบรู้สึกว่าใจดีเกินไป เหอๆ) ... ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ใช้เป็นค่ารักษาของคนในครอบครัวที่อายุเยอะแล้ว
>>
ลักษณะนี้ทำได้มั้ยคะ และสัญญาที่จะทำกับน้าเขยจะทำต้องทำยังไงบ้าง ต้องมีข้อผูกมัดอะไรบ้างกันทางเค้าตุกติดอะค่ะ
** เขียนบรรยายยาวมาก ขออภัย เรื่องมันซับซ้อน และเขียนจากคำบอกเล่าของน้าสาว
เพราะฉะนั้นเลยอยากแน่ใจเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง สัญญาที่ควรทำ และคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายค่า
ตอนนี้น้าสาวกลุ้มใจมาก เราก็เป็นห่วง เค้าไม่มีทนาย และศาลก็นัดอีกไม่กี่วันนี้แล้ว .... ทำไงดี ๆ
*** อีกเรื่อง ถ้าจบ case นี้แล้วควรให้จดทะเบียนหย่ากันเลยดีมั้ยคะ ไม่งั้นเผื่อน้าขายไปทำธุรกรรมใดๆอีก น้าสาวอาจจะแย่ได้
ศาลนัดคุยรอบสองวันศุกร์นี้แล้ว ทำไงดีคะ
เรื่องราวอาจจะซับซ้อนนิดนึงนะคะ คือ น้าสาวกับน้าเขยแยกกันอยู่นานแล้ว แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่ากัน (น้าเขยเรียกได้ว่าตอนนี้แทบหมดตัวแล้ว และสร้างภาระให้น้าสาวมาตลอด)
เรื่องมีอยู่ว่า น้าเขยได้ไปซื้อบ้านไว้เมื่อ10กว่าปีที่แล้ว และผ่อนจ่ายเรื่อยๆ จนหลังๆอยู่ในสภาวะที่ผ่อนต่อไม่ได้เหลือที่ต้องจ่าย อีกประมาณ 5-6 แสนบาท (ตอนนี้บ้านมูลค่าประมาณ 1.6ล้าน) ทีนี้แบงค์เลยทำตามขั้นตอนต่างๆ จนตอนถึงชั้นศาลเรียกให้ไกล่เกลี่ยชำระหนี้ ทีนี้น้าสาวที่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า เลยต้องตกเป็นผู้ค้ำประกัน(หรือผู้กู้ร่วม ไม่แน่ใจอะค่ะ) แต่ต้องรับผิดชอบในหนี้สินนี้ด้วย
โดยศาลนัดรอบแรกให้ไกลเกลี่ยและไปดำเนินการกับแบงค์ให้เรียบร้อย และจะนัดติดตามผลรอบ 2 ในวันศุกร์ที่ 28 นี้ ซึ่งตอนนี้ทางน้าสาวกำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะ น้าเขยมัวแต่รอหาคนมาซื้อบ้านต่อแต่ยังหาไม่ได้ เลยไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร ซึ่งหากไม่ความคืบหน้าไปแจ้งศาลในรอบ 2 บ้านหลังนี้อาจจะตกเป็นของแบงค์ และเอาไปขายทอดต่อไป ยกเว้นแต่ว่าหากมีคนจะมาซื้อต่อและเอาสัญญามาให้ศาลดู ศาลก็อาจจะเลื่อนนัดให้ไปจัดการก่อน บ้านก็ยังไม่ถูกขายทอดต่อ>> อันนี้น้าสาวบอกมา ตามขั้นตอนมันเป็นแบบนี้ใช่มั้ยคะ และการเอาสัญญาของคนที่จะซื้อต่อมาผ่อนผันมันทำได้จริงใช่มั้ยคะ
เพื่อไม่ให้บ้านหลุด เลยมีทางออกอยู่ 2 ทางคือ
1. น้าเขยบอกว่า ตอนนี้คนที่เช่าบ้านหลังนั้น อยากจจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองเลย เลยติดต่อกับน้าเขยไว้ ซึ่งหากให้เค้าทำสัญญายืนยันไว้ก่อน (คือสัญญาจะซื้อจะขายใช่รึเปล่าคะ) ก็น่าจะเอามายื่นต่อศาลขอเลื่อนเวลาได้ จากนั้นก็ให้เค้าไปจัดการกันเองต่อไป น้าสาวก็จะได้ไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบหนี้สินด้วย
>> ตอนนี้ น้าเขยกำลังติดต่อคนจะซื้ออยู่ ไม่แน่ใจว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างในการทำสัญญา และเค้าก็ไม่ได้มีสำเนาด้านหลังโฉนดที่ดินด้วย โฉนดตัวจริงอยู่กับแบงค์ค่ะ เหลืออีก 2-3 วัน จะทันมั้ย
2. หากข้อแรกไม่รอด วันพุธนี้น้าสาวอาจจะให้เราไปทำสัญญากับน้าเขยไปก่อนว่าจะซื้อบ้านหลังนี้ต่อจากน้าเขย(ใช่สัญญาจะซื้อจะขายป่าวคะ) เพื่อไปยื่นศาลขอเลื่อนการตัดสินกับแบงค์ไปก่อน โดยเราตกลงกับน้าเขยแค่จ่ายเงินที่ค้างกับแบงค์ให้เท่านั้น และจะให้โอนเกรรมสิทธิ์ป็นชื่อเราแทน อาจจะแบ่งเค้าสัก 2 -3 แสน เพราะสงสารน้าเขยที่จะหมดตัวแล้วจริงๆ (ที่จริงแอบรู้สึกว่าใจดีเกินไป เหอๆ) ... ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ใช้เป็นค่ารักษาของคนในครอบครัวที่อายุเยอะแล้ว
>> ลักษณะนี้ทำได้มั้ยคะ และสัญญาที่จะทำกับน้าเขยจะทำต้องทำยังไงบ้าง ต้องมีข้อผูกมัดอะไรบ้างกันทางเค้าตุกติดอะค่ะ
** เขียนบรรยายยาวมาก ขออภัย เรื่องมันซับซ้อน และเขียนจากคำบอกเล่าของน้าสาว เพราะฉะนั้นเลยอยากแน่ใจเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง สัญญาที่ควรทำ และคำแนะนำจากผู้รู้ทั้งหลายค่า
ตอนนี้น้าสาวกลุ้มใจมาก เราก็เป็นห่วง เค้าไม่มีทนาย และศาลก็นัดอีกไม่กี่วันนี้แล้ว .... ทำไงดี ๆ
*** อีกเรื่อง ถ้าจบ case นี้แล้วควรให้จดทะเบียนหย่ากันเลยดีมั้ยคะ ไม่งั้นเผื่อน้าขายไปทำธุรกรรมใดๆอีก น้าสาวอาจจะแย่ได้