เมื่อก้างปลาทิ่มคอ มันแสนจะทรมานจริงๆ

กระทู้นี้ขอเล่าไว้เพื่อเป็นประสบการณ์นะคะ

เมื่อตอนเย็นวันพฤหัสเรามีปลาสลิดทอดเป็นกับข้าวตอนเย็น กินๆไปซักพักก็เริ่มรู้สึกเหมือนก้างติดคอ แต่ก็ยังไม่อะไรเท่าไหร่ ปกติก็จะหลุดไปเอง แต่พอผ่านไปมันยังไม่หลุด เปิด google เพิ่อนแท้มีไว้ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ถามปุ๊บ google ตอบว่า น้ำมะนาว ขนมปัง ข้าวเหนียว เท้าแมว(?) ช่วยเราได้

เราก็เอาเลยคะ กินข้าวเหนียวก่อน กลืนไปหลายก้อนก้างที่มันทิ่มคออยู่ก็ไม่หลุดซักที ค้นตู้เย็นหามะนาว จัดการบีบลงคอ เพื่อก้างปลาเราทนเปรี้ยวได้คะ ทำไป 2 รอบ กินข้าวเหนียวตาม ก้างนั่นก็ยังอยู่ ฮืออออ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว กินนู้น กินนี่ ยังไงก็ไม่หาย เลยคุยกับเพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อน google พรุ่งนี้คงต้องไปหาหมอแล้วละ

ในคินนั้นเวลากลืนน้ำลายเราเจ็บคอมากคะ ต้องสะกดจิตตัวเอง ไม่ให้กลืนอะไรลงคอ แอบมีความหวังเล็กๆว่าตื่นมาก้างปลานี้มันจะหายไป

ความหวังนั้นมันไม่เป็นผล T-T ตอนเช้ามายังคงเจ็บคอเหมือนเดิม เราเลยตัดสินใจไปหาหมอคะ แต่ว่าจะไปหาหมอไหนละ ที่จะคีบก้างปลาเราออกมาได้ ก็ไปคลินิกแถวบ้านก่อน พยาบาลบอกว่า ไม่มีอุปกรณ์ ในใจคิดเอาไงดีละตรู ถามเพื่อนเกิ้ลต่อ เพื่อนเกิ้ลว่าหมอฟันก็ได้นะ แต่เราคิดว่าหมอหู ตา คอ จมูก น่าจะชัวร์กว่า ก็จัดการถามเพื่อนเกิ้ลอีกรอบแถวบ้านมีมั้ย ปรากฏว่ามีจ้าคลินิกหู ตา คอ จมูก แต่ว่าเปิดตอนเย็น

ข้ามไปหาหมอเลย เข้าห้องไปพบคุณหมอเป็นผู้ชาย บอกหมอ ก้างปลาติดคอคะ ก็อ้าปากให้หมอดูตามระเบียบ ในใจคิดก้างออกจากคอตรูแน่ๆคราวนี้ หมอส่องครั้งแรก มองไม่เห็นก้าง อ่ะอีกครั้ง อ้าปากกว้างๆดึงลิ้น ก็ยังไม่เห็น ไอ้เรากลืนน้ำลายเอือกๆ มันยังเจ็บคออยู่เลยน้า หมอเลยว่าส่องกล่องละกันเพื่อความชัวร์ ในใจก็กลัวอะ ส่องกล่องเกิดมาไม่เคย หมอก็สอดสายไปในจมูกลงไปในคอ นี่เพื่อก้างปลาชั้นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ หมอส่องไป ก็ให้เราดูจอด้วย โอ้ววว ช่องคอตัวเอง มันช่าง....(อธิบายไม่ถูกเลย)  และแล้วหมอก็เจอ!!!! ก้างปลาที่มันทิ่มคอเราอยู่ แต่อยากจะบอกว่า มันทิ่มอยู่ส่วนไหนเราก็จำไม่ได้ จำได้แค่ว่าหมอบอกว่า มันอยู่ลึกมาก ถ้าเอาออกไม่ได้ต้องดมยา (โอ้ววว มายย ก๊อดดด) เรามาลองกันก่อน เผื่อไม่ต้องดมยา อ้าปากกว้างๆๆๆๆ แลบลิ้นยาวๆๆๆๆ ดึงลิ้นเยอะๆ ดึงให้มากที่สุด แล้วหมอก็แหย่เครื่องมือลงคอ ทำอยู่หลายรอบแต่เราไม่ไหวจริงๆคะ พอล้วงเข้าไปลึกก็จะอ้วก ...สุดท้ายเราต้องดมยาจริงๆซินะ T------------T ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก ให้พ่อมาคุย อายุปูนนี้ให้พ่อมาฟังด้วยอุ่นใจกว่า 555

หมอมีตัวเลือกให้เราคะ จะทำที่ไหนโรงพยาบาลเอกชนที่หมอทำอยู่หรือที่ไหนก็ได้ เราถามหมอเอกชนเท่าไหร่คะ หมอบอกว่า 7-80000 บาท ได้ยินแล้วช็อคกว่าเดิม ก้างปลา 1 ก้างเกือบแสน อีกทางเลือกโรงพยาบาลรัฐบาล ถ้าจะให้หมอทำให้ก็ไปโรงพยาบาลxx ตอนคืนนี้ ดมยาพรุ่งนี้ อะไรจะรวดเร็วขนาดนั้น หรือจะทำที่อื่นก็ได้ แล้วหมอก็เขียนใบส่งตัวให้คะ ตอนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปที่ไหน แต่หมอให้รีบทำ เพราะว่ากลัวเป็นหนอง เดินออกมาแบบมึนๆจ่ายไป 500 บาท



ใบที่หมอเขียนให้คะ ใครดูออกบ้างว่าก้างไปติดอยู่ตรงไหน ?

เรากลับมาบ้านนี่สมองตื้อไปหมด ก้างปลาติดคอ ต้องดมยา ต้องนอนโรงพยาบาลเลยเหรอ ???????????  แต่ก็เก็บเสื้อผ้านู้นนั่นนี่ก่อน เผื่อเอาไว้ เราเลือกไปโรงพยาบาลอีกที่ ต้องไปใต้ดิน ฝ่ามวลมหาประชาชนไป ไปถึงก็ยื่นใบส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ดู พอเจ้าหน้าที่ดู ก็บอกว่าผู้ป่วยมาทางนี้คะ (ก้างติดคอเป็นผู้ป่วยเลย) จากนั้นเราก็นั่งคอยอย่างเดียวค่ะ มีหมอดูใบส่งตัวเรา แล้วคุยกันว่า มันเข้าไปอยู่ลึกขนาดนี้ได้ยังไง แล้วก็โทรหาคุณหมอเฉพาะทาง เราก็ได้แต่คอยต่อไป เพราะหมอติดผ่าตัดอยู่

ผ่านไปชั่วโมงนึงได้ คุณหมอก็มา ก็ถามๆว่าเราตรวจยังไง ที่ไหน ก็ขอดูอีกทีเผื่อไม่ต้องดมยา แล้วก็จัดการฉีดยาเข้าจมูก สอดกล้องเหมือนเดิม แล้วหมอก็บอกว่า ก้างมันขยับขึ้นมานิดนึง น่าจะเอาออกได้ จะให้ดมยามันก็ไม่ใช่เรื่อง จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาทรมานแล้วคะ มีคุณหมอ 2 คนมารุมเราอยู่ พ่นยาชาลงคอ สอดกล้อง อ้าปากให้กว้างที่สุด แลบลิ้นและดึงลิ้นให้ยาวววววที่สุด แต่แบบพอเวลาเครื่องมือลงไปในคอ มันก็จะอ้วกคะ ลองกันอยู่หลายรอบ มีจังหวะนึงเหมือนจะคีบก้างได้ละ เราได้ยินเสียงแก๊บ แต่ว่าก้างไม่หลุด ฮืออออออ แล้วก็ทำแบบนี้อีกหลายรอบ เรานี่อยากร้องไห้ ขอดมยาเถอะ อารมณ์นั้นไม่ไหวแล้ว แต่คุณหมอยังไม่ยอมแพ้ ไปส่องกล้องแบบที่ต่อภาพมาหน้าจอน่าจะง่ายกว่า เลยย้ายไปอีกที่คะ เราก็เริ่มตื่นเต้น มือเย็น บอกหมอขอยาชาเยอะๆเลย จะพยายามช่วยดึงลิ้นมายาวๆไม่ขยับ(แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน) จนสุดท้าย หมอก็คีบก้างออกมาได้ !!!!! วินาทีที่เห็นก้างนี่ อยากจะกรีดร้อง ดีใจที่สุด เธอออกไปจากคอชั้นแล้วววววว ทั้งเราและหมอต่างก็ดีใจคะ พยายามอยู่เป็นชั่วโมง >_<



ก้างปลาเจ้าปัญหา หมอให้มาเป็นที่ระลึก 555

หมอบอกว่าโชคดีด้วยค่ะ ที่ก้างขยับขึ้นมานิดนึงจากตอนที่ตรวจที่คลินิก เลยทำให้มีโอกาสที่จะคีบได้ ถ้ายังอยู่ที่เดิมคงต้องดมยาจริงๆ

ครั้งนี้ก็เป็นประสบการณ์ให้เราจริงๆคะ ต่อไปจะกินอะไรต้องระวังมากกว่านี้แล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่