พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม ต้องอาบัติปาราชิกข้อที่ ๒ (ทุติยปาราชิก กรรโชกทรัพย์) ขาดจากความเป็นพระภิกษุแล้ว...

กระทู้สนทนา
ในพระพุทธศาสนา
โทษที่เรียกว่า อาบัติ ที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระนั้นมีอยู่ ๔ ข้อคือ

เสพเมถุน ลักทรัพย์ตั้งแต่ ๕ มาสกขึ้นไป ฆ่ามนุษย์ และอวดอุตริมนุสสธรรมที่ไม่มีในตน

เมื่อพระรูปใดต้องอาบัติปาราชิกข้อใดข้อหนึ่งเข้าแล้ว
ขาดจากความเป็นพระทันที
ถ้ารู้ตัวแล้วเปลื้องผ้าเหลืองออกไปเป็นฆราวาส
ยังพอมีโอกาสได้สวรรค์และบรรลุมรรคผลเบื้องต้นได้
แต่ถ้ายังฝืนใส่ผ้าเหลือง หลอกชาวบ้านให้ศรัทธาว่าเป็นพระต่อไปแม้วันเดียว
จะห้ามสวรรค์ห้ามมรรคผลทางพระพุทธศาศาสนาตลอดไป

กรณีพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม
นำม็อบไปที่โรงแรมเอสซี แล้วเรียกค่าเสียหายจำนวน ๑๒๐,๐๐๐ บาท
เข้าข่าย กรรโชกทรัพย์ ตามองค์ความผิดของทุติยปาราชิกข้อที่ ๒ คือ ลักทรัพย์ตั้งแต่ราคาห้ามสกขึ้นไป
ความผิดสำเร็จเมื่อได้ทรัพย์นั้นมา

ปรากฏหลักฐาน ดังนี้

๑. การกรรโชกตามคลิปนี้...

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
๒. ความผิดสำเร็จเมื่อรับเงิน ตามภาพนี้....



ดังนั้น แม้จะยังไม่มีพระรูปใดปรับอาบัติปาราชิกกับพระสุวิทย์
แต่พระสุวิทย์ได้ขาดจากความเป็นพระเรียบร้อยแล้ว
แม้บวชอีกก็ไม่เป็นพระ

นับแต่นี้ จึงไม่มีพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม อีกต่อไป
มีแต่เพียงนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ
ตามหมายจับของทางราชการเท่านั้น

ปล. ความจริงแล้ว นายสุวิทย์คนนี้ หลอกลวงชาวบ้านมาตลอด
หลอกลวงประวัติของตน หลอกลวงอายุพรรษา
หลอกลวงว่าไม่อยากได้ตำแหน่ง ทั้งที่ความจริงแล้ว เอาเงินไปซื้อ แต่พระผู้ใหญ่ไม่เอาด้วย
หลอกลวงว่าลาออกจากตำแหน่งเอง ทั้งที่โดนปลด เพราะเอาเงินไปซื้อ
หลอกลวงว่าคุ้นเคยกับอดีตสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม แต่ความจริงไม่ใช่
หลอกลวงว่าอดีตสมเด็จพระสังฆราชทรงโปรด แต่ความจริงแอบอ้าง ของจริงไม่พูด ของพูดไม่จริง
และท้ายสุด หลอกลวงว่าเป็นพระ ทั้งที่ไม่ใช่พระ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่