อีก2เดือนจะครบ12ปีที่ผมทำมาหากินมา จากเงิน3หมื่น
3หมื่น(เงินที่ได้มาจากลาภลอย)
โปรเจคที่ฝันมา1-2ปี ต้องทำแล้ว เราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้ น้องเรา แม่เรา ลำบาก อดๆอยากๆ เรามันอดได้ แต่เราทนเห็นคนที่เรารักเค้าอดไม่ได้ครับ มันเจ็บกว่าเราหิวซะอีก !
ตอนนั้นผมอายุ25ตอนปี2545
ผมเขียนโปรเจคในใจมา1-2ปี(ถ้าจะให้พูดให้ดูดี คงเรียกแผนธุรกิจ)
ได้แต่ฝันกลางวัน เพราะเราไม่มีเงินเลย ทุกบาทที่หาได้ คือเงินที่ผมโอนส่งให้น้องเรียนจนจบป.ตรี
ผมนั่งรถทัวร์เข้ากทมฯ
ผมไปเดินดูเค้าค้าขาย
คลองถม บ้านหม้อฯ
เราไม่เคยค้าขาย ไม่มีประสพการณ์อะไรเลย
เก็บเกี่ยวสิ่งที่เห็น กลับมาครุ่นคิดในสมอง
ไปเดินดูพวกปูผ้าขายแบกะดิน ร้านรวงเล็กน้อย ร้านค้าต่างๆ เค้าค้าขายกันยังไง...
กลับมาผมขี่มอไซร์หาเช่าร้าน สมบัติชิ้นเดียวคือมอไซร์เก่าๆคันนึง
ไม่รู้คิดอะไรนะ ไม่คิดเลย ใจมันบอกเดินต่อไปๆๆ
พอจ่ายเช่าร้านเสร็จ จ่ายมัดจำ ทาสี ร้านที่ว่างๆโล่งๆ
ไม่มีไรในร้านเลย (มีคนเคยถาม ขายอะไร) ผมก็ตอบไม่ได้ ผมจะทำ ไม่สนใจอะไร
มีของไม่กี่ชิ้น
น้องชายมาช่วยทาสี ผอมกันหมด ทั้งพี่ทั้งน้อง คนจนมันจะผอมๆ
เที่ยงคืนน้องนั่งทาสี ถามว่าหิวมั้ย ... ผมเปิดดูกระเป๋าเงิน
มีแบงค์20อยู่60-80บาท
อย่าว่าแต่ก๋วยเตี๋ยวเลยครับ มันแพงไป ตอนนั้นก๋วยเตี๋ยวชาม20เอง
งั้นกินมาม่าละกัน
พรุ่งนี้ยังพอมีซื้อแกงถุงมากินกับข้าวได้ ตอนนั้นแกงถุงละ20ครับ เท่าก๋วยเตี๋ยว แต่มันทำให้เราอิ่มได้นะ หุงข้าวซักหม้อ กินแกงถุงวัน2-3ถุง เราใช้เงินไม่ถึงร้อยบาทต่อวัน แต่เราอิ่มนะ มีแรงทำงาน
อดทน ขายของไป สู้ไป
นอนวันละ3-4ชม.ตื่นมาทำงานต่อ ผมทำงานอื่นไปด้วย รับงานมาทำ
ตื่นมาเปิดร้าน สมองไม่คิดอะไร ทำๆๆๆ ทำงานเสร็จตี5 กินมาม่าซักซองแล้วนอน (สารอาหารไม่ต้องพูดถึง)
ปีแรกๆ ตอนเช้าผมไปซื้ออะไรรู้มั้ยครับ...
ผมจะขี่มอไซไปร้านขายของชำใกล้ๆ ซื้อน้ำแข็ง5บาท กลับมาใส่กระติกเล็กๆ จนเจ้าของร้านชำคุ้น เจอหน้าก็ตักน้ำแข็ง5บาทใส่ถุงยื่นให้ทุกวัน
นั่นแหละ คือน้ำเย็นๆที่ผมจะกินได้ทั้งวัน ผมกินแบบนั้นอยู่นับปี น้ำเย็นๆที่พอจะให้คลายความเหน็ดเหนื่อย..
อีก2เดือนจะครบ12ปีแล้ว ที่ผมต่อสู้มา ในวันที่ลำบากที่สุด ตอนนั้นภาระเต็มบ่า ส่งน้องเรียน ทุกเดือน ไม่เคยขาด กลัวน้องอด กลัวน้องไม่มีเงินกินข้าวไปเรียนหนังสือ
ทุกวันนี้มีเกิน10ล้าน ผมไม่ลืมน้ำแข็ง5บาทที่กิน ในกระติกเล็กๆเลย มันหวนมากระตุกต่อมในสมอง มันเหมือนรีรันความทรงจำเก่าทุกครั้ง เวลาครบรอบปีต่างๆ ที่เราผ่านมันมาอะไรมาได้บ้าง ทั้งที่เราไม่น่าจะทำได้ มันขาดแคลนไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ดูเป็นคนไม่มีอนาคตเสียด้วยซ้ำในวันนั้น ...
อย่ากลัวครับ ถ้าเราขยัน อดทน ไม่มีคำว่าถอยในสมองเลย เหมือนเราเข้าสู่สนามรบ ตายก็จบ แพ้ก็ช่างมัน ไม่ตายก็สู้กันไำป.
น้ำแข็ง5บาท 12ปีก่อน.
3หมื่น(เงินที่ได้มาจากลาภลอย)
โปรเจคที่ฝันมา1-2ปี ต้องทำแล้ว เราจะอยู่แบบนี้ไม่ได้ น้องเรา แม่เรา ลำบาก อดๆอยากๆ เรามันอดได้ แต่เราทนเห็นคนที่เรารักเค้าอดไม่ได้ครับ มันเจ็บกว่าเราหิวซะอีก !
ตอนนั้นผมอายุ25ตอนปี2545
ผมเขียนโปรเจคในใจมา1-2ปี(ถ้าจะให้พูดให้ดูดี คงเรียกแผนธุรกิจ)
ได้แต่ฝันกลางวัน เพราะเราไม่มีเงินเลย ทุกบาทที่หาได้ คือเงินที่ผมโอนส่งให้น้องเรียนจนจบป.ตรี
ผมนั่งรถทัวร์เข้ากทมฯ
ผมไปเดินดูเค้าค้าขาย
คลองถม บ้านหม้อฯ
เราไม่เคยค้าขาย ไม่มีประสพการณ์อะไรเลย
เก็บเกี่ยวสิ่งที่เห็น กลับมาครุ่นคิดในสมอง
ไปเดินดูพวกปูผ้าขายแบกะดิน ร้านรวงเล็กน้อย ร้านค้าต่างๆ เค้าค้าขายกันยังไง...
กลับมาผมขี่มอไซร์หาเช่าร้าน สมบัติชิ้นเดียวคือมอไซร์เก่าๆคันนึง
ไม่รู้คิดอะไรนะ ไม่คิดเลย ใจมันบอกเดินต่อไปๆๆ
พอจ่ายเช่าร้านเสร็จ จ่ายมัดจำ ทาสี ร้านที่ว่างๆโล่งๆ
ไม่มีไรในร้านเลย (มีคนเคยถาม ขายอะไร) ผมก็ตอบไม่ได้ ผมจะทำ ไม่สนใจอะไร
มีของไม่กี่ชิ้น
น้องชายมาช่วยทาสี ผอมกันหมด ทั้งพี่ทั้งน้อง คนจนมันจะผอมๆ
เที่ยงคืนน้องนั่งทาสี ถามว่าหิวมั้ย ... ผมเปิดดูกระเป๋าเงิน
มีแบงค์20อยู่60-80บาท
อย่าว่าแต่ก๋วยเตี๋ยวเลยครับ มันแพงไป ตอนนั้นก๋วยเตี๋ยวชาม20เอง
งั้นกินมาม่าละกัน
พรุ่งนี้ยังพอมีซื้อแกงถุงมากินกับข้าวได้ ตอนนั้นแกงถุงละ20ครับ เท่าก๋วยเตี๋ยว แต่มันทำให้เราอิ่มได้นะ หุงข้าวซักหม้อ กินแกงถุงวัน2-3ถุง เราใช้เงินไม่ถึงร้อยบาทต่อวัน แต่เราอิ่มนะ มีแรงทำงาน
อดทน ขายของไป สู้ไป
นอนวันละ3-4ชม.ตื่นมาทำงานต่อ ผมทำงานอื่นไปด้วย รับงานมาทำ
ตื่นมาเปิดร้าน สมองไม่คิดอะไร ทำๆๆๆ ทำงานเสร็จตี5 กินมาม่าซักซองแล้วนอน (สารอาหารไม่ต้องพูดถึง)
ปีแรกๆ ตอนเช้าผมไปซื้ออะไรรู้มั้ยครับ...
ผมจะขี่มอไซไปร้านขายของชำใกล้ๆ ซื้อน้ำแข็ง5บาท กลับมาใส่กระติกเล็กๆ จนเจ้าของร้านชำคุ้น เจอหน้าก็ตักน้ำแข็ง5บาทใส่ถุงยื่นให้ทุกวัน
นั่นแหละ คือน้ำเย็นๆที่ผมจะกินได้ทั้งวัน ผมกินแบบนั้นอยู่นับปี น้ำเย็นๆที่พอจะให้คลายความเหน็ดเหนื่อย..
อีก2เดือนจะครบ12ปีแล้ว ที่ผมต่อสู้มา ในวันที่ลำบากที่สุด ตอนนั้นภาระเต็มบ่า ส่งน้องเรียน ทุกเดือน ไม่เคยขาด กลัวน้องอด กลัวน้องไม่มีเงินกินข้าวไปเรียนหนังสือ
ทุกวันนี้มีเกิน10ล้าน ผมไม่ลืมน้ำแข็ง5บาทที่กิน ในกระติกเล็กๆเลย มันหวนมากระตุกต่อมในสมอง มันเหมือนรีรันความทรงจำเก่าทุกครั้ง เวลาครบรอบปีต่างๆ ที่เราผ่านมันมาอะไรมาได้บ้าง ทั้งที่เราไม่น่าจะทำได้ มันขาดแคลนไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ดูเป็นคนไม่มีอนาคตเสียด้วยซ้ำในวันนั้น ...
อย่ากลัวครับ ถ้าเราขยัน อดทน ไม่มีคำว่าถอยในสมองเลย เหมือนเราเข้าสู่สนามรบ ตายก็จบ แพ้ก็ช่างมัน ไม่ตายก็สู้กันไำป.