ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมคุณ......นะครับ ที่เป็นผู้ที่แสวงหาคำตอบจากหลายทัศนะ สำหรับทัศนะที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ ขอให้ถือว่าเป็นอีกทัศนะหนึ่งก็แล้วกันนะครับ...


๑. วัดปากน้ำภาษีเจริญและวัดพระธรรมกายมีความสัมพันธ์กันโดยที่ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายครับ และภายหลังจากพระเทพญาณมหามุนีท่านได้อุปสมบทและบำเพ็ญสมณกิจอยู่ระยะหนึ่ง จึงได้กราบพระอุปัชฌาย์และได้มาสร้างวัดพระธรรมกายขึ้น เพื่อเป็นกำลังหนึ่งในการช่วยกันดำรงและเผยแผ่พระพุทธศาสนาครับ ถ้าจะยกตัวอย่าง ขออนุญาตยกตัวอย่างของหลวงพ่อชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถร) ซึ่งในภายหลังที่ได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และได้เล่าเรียนพระธรรมวินัยและกรรมฐานอยู่ระยะหนึ่ง จึงได้ไปสร้างวัดหนองป่าพงและวัดป่านานาชาติ เพื่อเป็นกำลังหนึ่งในการช่วยกันดำรงและเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเวลาต่อมา เป็นต้นครับ...



๒. เป็นเรื่องที่อาจเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันได้ ทั้งนี้ขึ้นกับมุมมองและทัศนคติที่มีต่อสิ่งนั้นๆ ครับ ซึ่งการที่ทางวัดพระธรรมกายได้รับเกียรติดังที่กล่าวมา ก็เป็นเพียงมุมมองหนึ่งที่ได้รับจากต่างประเทศครับ และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงวัดเดียวที่ได้รับเกียรตินี้ ยังมีอีกหลายแห่งครับ ยังมีสิ่งที่เราต้องร่วมแรงร่วมใจและช่วยกันอีกมากในงานพระศาสนาครับ



๓. อย่าเรียกว่าเอาบุญมาล่อ หรือเอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่เลยครับ เรียกว่า ชี้แจงให้แห่งถึงคุณและโทษดีกว่า เฉกเช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านทรงแสดงธรรมไปตามลำดับ ชี้คุณชี้โทษให้เห็น เพื่อให้ผู้ฟังละเว้นความชั่ว เพราะละอายและเกรงกลัวต่อบาป ทำความดี เพราะเห็นถึงอานิสงส์หรือผลแห่งการทำความดี และเป็นเหตุทำให้จิตผ่องใสในที่สุดครับ...



๔. พระพุทธศาสนาเถรวาทในประเทศไทย มีอยู่ ๒ นิกาย คือ “มหานิกาย” (ไม่ใช่ “มหายาน” นะครับ) ซึ่งวัดและพระภิกษุสงฆ์ ๙ ใน ๑๐ ส่วนของประเทศอยู่ในสังกัด มหานิกายนี้ และอีกนิกายหนึ่ง คือ “ธรรมยุติ” ครับ สำหรับวัดพระธรรมกายได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๒ ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๙๖ ตอนที่ ๑๕ เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๒ อยู่ในสังกัดของ “มหานิกาย” ครับ...



๕. การปฏิบัติสมาธิตามแบบที่วัดพระธรรมกายสอนอยู่นี้ มีการกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกรวมถึงคัมภีร์ที่รวบรวมเรื่องราวของการเจริญสมาธิอย่าง “วิสุทธิมรรค” ครับ โดยการทางวัดสอนให้นึกถึง “ดวงแก้ว” หรือ “แสงสว่าง” นั้น ท่านเรียกว่า “อาโลกสัญญา” หรือ “อาโลกกสิณ” ครับ ซึ่งวิธีการนี้มีอานิสงส์อยู่หลายประการ เช่น ในสมัยหนึ่ง พระมหาโมคคัลลานะ พระอัครสาวกเบื้องซ้าย ผู้เป็นเลิศด้านมีฤทธิ์มาก ก่อนที่ท่านจะบรรลุธรรม ท่านถูกความง่วงครอบงำ ในครั้งนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแนะนำ “อาโลกสัญญา” นี้ให้กับท่านครับ และต่อมาในภายหลังท่านก็ได้บรรลุธรรม นอกจากนี้ “อาโลกสัญญา” หรือ “อาโลกกสิณ” นี้ยังเหมาะสมกับบุคคลในทุกจริตอัธยาศัยครับ พูดง่ายๆ คือ เด็กก็สามารถปฏิบัติได้ ผู้ใหญ่ก็สามารถปฏิบัติได้ครับ....