การตัดบาปกรรมทำพิธีไม่มีในพุทธศาสนา
การตัดเคราะห์กรรมของผู้ที่ประสบเหตุร้าย เสียเงิน เจ็บป่วย หรือต้องหย่าร้างกันเป็นต้น ชาวโลกมักถึอว่ามาจาก
เหตุภายนอก บางทีโทษผีสางนางไม้ จึงทำพิธีเซ่นเพื่อแก้ไข แม้เสียเงินมากก็แก้ไม่ได้
เหตุร้าย ทางพระพุทธศาสนาไม่ถือว่ามาจากเหตุภายนอก แต่ถือว่ามาจากเหตุภายใน คือ มาจากผลบาปที่ตนทำไว้
วิธีแก้เหตุร้าย ทางพระพุทธศาสนาให้ทำดีด้วยการปฏิบัติธรรมเคร่งครัดในมรรคมีองค์ ๘ หรือกล่าวโดยย่อ คือ
ศีล สมาธิ ปัญญา
โดยให้ผู้มีเคราะห์เพราะผลบาป ตั้งใจรักษาศีล (ศีล ๕ หรือ ๘) ทำสมาธิ (ทำใจให้สงบตั้งมั่น) มีปัญญา คือ
ความรู้จริง รู้อะไรถูกอะไรผิด ไม่ใช่ใครว่าอะไรก็ว่าตามเขาไป อย่างนี้ไม่ใช่ชาวพุทธ
การแก้เรื่องร้ายไม่ใช่ให้คนอื่นแก้ให้ ด้วยการรดน้ำมนต์ แก้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผลบาปไม่ใช่ติดอยู่ที่กาย แต่ติดอยู่
ที่ใจคนทำบาป เมื่อจะแก้ ตนต้องทำบุญกุศลเอง มิใช่ให้คนอื่นทำให้ ดั่งเราป่วย เราต้องกินยาเอง มิใช่ให้คนอื่นกินแทน
เราทำบาปเอง เราต้องรับผลบาปเอง
ดูตัวอย่างผลบาป พระมหาโมคคัลลานะเถระ มีฤทธิ์มาก ยังต้องรับผลบาปที่ท่านได้เคยทุบตีฆ่าพ่อแม่ ท่านได้ถูก
พวกโจรทุบตีเอา ทั้งที่พระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ก็ไม่ทรงตัดบาปกรรมนั้นให้ได้
หรือแม้แต่พระพุทธเจ้า เมื่อใกล้จะปรินิพพาน ยังทรงเป็นโรคปักขันธิกาพาธ (ถ่ายเป็นเลือด) เพราะบาปที่ทรงเคย
เป็นหมอ ได้ถ่ายยาให้แก่บุตรเศรษฐีแรงเกินไป (ตาย) จึงต้องทรงรับผลบาปในชาตินี้
การสะเดาะเคราะห์หรือการตัดบาปกรรมด้วยทำพิธีต่างๆที่เป็นพิธีภายนอก แก้ไม่ได้ เพราะบาปติดอยู่ที่ใจคนทำบาป
คนมีเคราะห์มีบาปต้องหยุดทำบาป เพื่อไม่ให้บาปส่งผลร้ายต่อไป แล้วตั้งใจทำบุญกุศลให้มาก ด้วยการรักษาศีล
ทำสมาธิ ปัญญา โดยไม่ต้องเสียเงินเลย นับเป็นการแก้บาปกรรม (เคราะห์ร้าย) ของเราได้ดีที่สุด
ที่มา : พระศรีอาริย์จะมาเมื่อไร และพระพุทธเจ้า ๙ พระองค์ รวบรวมเรียบเรียงโดย อ. จำเนียร ทรงฤกษ์
การตัดบาปกรรมทำพิธีไม่มีในพุทธศาสนา
การตัดเคราะห์กรรมของผู้ที่ประสบเหตุร้าย เสียเงิน เจ็บป่วย หรือต้องหย่าร้างกันเป็นต้น ชาวโลกมักถึอว่ามาจาก
เหตุภายนอก บางทีโทษผีสางนางไม้ จึงทำพิธีเซ่นเพื่อแก้ไข แม้เสียเงินมากก็แก้ไม่ได้
เหตุร้าย ทางพระพุทธศาสนาไม่ถือว่ามาจากเหตุภายนอก แต่ถือว่ามาจากเหตุภายใน คือ มาจากผลบาปที่ตนทำไว้
วิธีแก้เหตุร้าย ทางพระพุทธศาสนาให้ทำดีด้วยการปฏิบัติธรรมเคร่งครัดในมรรคมีองค์ ๘ หรือกล่าวโดยย่อ คือ
ศีล สมาธิ ปัญญา
โดยให้ผู้มีเคราะห์เพราะผลบาป ตั้งใจรักษาศีล (ศีล ๕ หรือ ๘) ทำสมาธิ (ทำใจให้สงบตั้งมั่น) มีปัญญา คือ
ความรู้จริง รู้อะไรถูกอะไรผิด ไม่ใช่ใครว่าอะไรก็ว่าตามเขาไป อย่างนี้ไม่ใช่ชาวพุทธ
การแก้เรื่องร้ายไม่ใช่ให้คนอื่นแก้ให้ ด้วยการรดน้ำมนต์ แก้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผลบาปไม่ใช่ติดอยู่ที่กาย แต่ติดอยู่
ที่ใจคนทำบาป เมื่อจะแก้ ตนต้องทำบุญกุศลเอง มิใช่ให้คนอื่นทำให้ ดั่งเราป่วย เราต้องกินยาเอง มิใช่ให้คนอื่นกินแทน
เราทำบาปเอง เราต้องรับผลบาปเอง
ดูตัวอย่างผลบาป พระมหาโมคคัลลานะเถระ มีฤทธิ์มาก ยังต้องรับผลบาปที่ท่านได้เคยทุบตีฆ่าพ่อแม่ ท่านได้ถูก
พวกโจรทุบตีเอา ทั้งที่พระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ก็ไม่ทรงตัดบาปกรรมนั้นให้ได้
หรือแม้แต่พระพุทธเจ้า เมื่อใกล้จะปรินิพพาน ยังทรงเป็นโรคปักขันธิกาพาธ (ถ่ายเป็นเลือด) เพราะบาปที่ทรงเคย
เป็นหมอ ได้ถ่ายยาให้แก่บุตรเศรษฐีแรงเกินไป (ตาย) จึงต้องทรงรับผลบาปในชาตินี้
การสะเดาะเคราะห์หรือการตัดบาปกรรมด้วยทำพิธีต่างๆที่เป็นพิธีภายนอก แก้ไม่ได้ เพราะบาปติดอยู่ที่ใจคนทำบาป
คนมีเคราะห์มีบาปต้องหยุดทำบาป เพื่อไม่ให้บาปส่งผลร้ายต่อไป แล้วตั้งใจทำบุญกุศลให้มาก ด้วยการรักษาศีล
ทำสมาธิ ปัญญา โดยไม่ต้องเสียเงินเลย นับเป็นการแก้บาปกรรม (เคราะห์ร้าย) ของเราได้ดีที่สุด
ที่มา : พระศรีอาริย์จะมาเมื่อไร และพระพุทธเจ้า ๙ พระองค์ รวบรวมเรียบเรียงโดย อ. จำเนียร ทรงฤกษ์