ความเสียหายจากการตัดสินใจใช้ระบบสัญญาณกันขโมย ที่มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ... ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

เรื่องที่จะขอหารือนี้ เป็นประสบการณ์ตรงของดิฉัน  ซึ่งตัดสินใจใช้สินค้าที่มีบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายภายในประเทศ โดยยอมเสียค่าใช้จ่ายสูง เพราะต้องการ การสนับสนุนหลังการขาย เพียงเพราะจะได้ใช้เวลาของตนไปกับการทำมาหากินที่สุจริต และสร้างประโยชน์แก่สังคมตามโอกาสอำนวย แต่สิ่งที่ดิฉันได้รับ คือ เสียเงิน  เสียเวลา  เสียสุขภาพจิต เพียงเพราะต้องการคุณภาพชีวิต และต้องการความรับผิดชอบจากผู้ขาย ... เหตุมีดังนี้

30 พย 56 ดิฉันติดระบบสัญญาณกันขโมยบ้าน  ยี่ห้อ iConnect กับบริษัทเดอะ ยูนิค จำกัด สำนักงานอยู่ที่ถนนพัฒนาการ  ในราคา 44050 บาท เป็นบ้านเพิ่งสร้าง  เพิ่งเข้าอยู่อาศัย มีม่านกันแดด ทุกครั้งที่เปิดระบบใช้งาน จะปิดม่านทั้งหมด นั่นหมายความว่า อุปกรณ์ระบบจะทำงานโดยไม่ถูกแสงแดด ไม่มีลมพัดผ่าน  ไม่มีหยากไย่ และยังไม่เห็นจิ้งจกใด ๆ

ภายในสิบวันแรกของการใช้งานระบบ พบว่าอุปกรณ์ตัวหนึ่ง ทำงานผิดพลาด มีเสียงร้องโดยหาสาเหตุไม่พบ รวม 6 ครั้ง  ซึงบริษัทมาเปลี่ยนแผงวงจรภายในให้  และอุปกรณ์ตัวเดียวกันนี้  ต่อมาอีกสัปดาห์ มีปัญหาเรื่องถ่านหมดอายุ  และปัญหาถ่านนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวส่ง SMS เข้าเครื่องโทรศัพท์ของดิฉัน เกือบทุกชั่วโมง (ค่าใช้จ่าย SMS เป็นของลูกค้า)

ทุกครั้งที่สัญญาณดัง ดิฉันต้องออกจากที่ทำงาน ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ เพื่อกลับมาหาสาเหตุ    และที่ผ่านมา สาเหตุที่พบ คือระบบทำงานผิดพลาด

ความจุกจิกของระบบ สร้างความอึดอัดให้ดิฉันมาก เนื่องจากภาระหน้าที่ ไม่อำนวยให้เดินออกจากเวลางานได้อย่างไร้เงื่อนไข

เบื้องต้นรู้สึกเกรงใจเพื่อนบ้าน ที่ต้องตระหนกในเสียงดัง และความรู้สึกต่อมาคือหากเขาชินกับการทำงานผิด ๆ ของระบบ เสียงดังกล่าวจะมีประโยชน์ อะไรหากมีเหตุร้าย

ดังนั้น ในฐานะผู้บริโภค ดิฉันจึงร้องขอเอกสารแสดงความเสถียรของระบบจากบริษัท  ว่าระบบดังกล่าวที่ยอมรับได้ควรมีข้อผิดพลาดมากน้อยประการใด แต่บริษัทให้ได้ แต่เพียงว่าหากมีปัญหาให้แจ้ง และจะมาดูให้  นั่นแปลได้ว่า ลูกค้าต้องยอมรับภาระความเสียหายทุกประการ โดยปราศจากข้อต่อรอง

การเจราจาระหว่างบริษัทกับดิฉัน  ทำผ่านตัวกลาง คือ ผู้จัดการฝ่ายขาย สมมติชื่อ นาย ม (ซึ่งดิฉันพยายามให้การติดต่อเป็นไปในรูปบริษัท  โดยเขียนเป็นเอกสารทุกครั้ง แต่ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากบริษัท นอกจากการโทรศัพท์กับนาย ม)

ประมาณกลางเดือน มกราคม 2557 นาย ม บอกดิฉันว่า บริษัทยินดีรับคืนสินค้า โดยไม่หักค่าใช้จ่าย แต่ ต้องถอนคืนกลับทั้งหมดก่อน แล้วค่อยคืนเงินในภายหลัง  ซึ่งเบื้องต้นดิฉันบอกว่า เงินพร้อมเมื่อไร บอกมา แต่ไม่ได้รับการติดต่อ ใด ๆ จากบริษัท หรือ นาย ม อีกเลย

วันจันทร์ที่ 10 กพ 57 ดิฉันจึงโทรหา นาย ม ซึ่งยืนยันการรับคืนระบบ แต่ลูกค้าต้องยอมรับเงื่อนไขของบริษัท คือ ถอนคืนไปก่อน และค่อยรับเงินคืนภายหลัง  ในสัปดาห์นี้ นาย ม พร้อมมารับคืนสินค้าในวันพฤหัสบดที่ 13 กพ 57 ดิฉันตอบตกลง และเพื่อความมั่นใจ จึงเขียนเอกสารถึงบริษัท เพื่อให้บริษัทระบุชื่อพนักงานที่จะมาถอนระบบออก แต่ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากบริษัท เช่นเคย

วันพุธที่ 12 กพ 57 นาย ม บอกดิฉันว่า บริษัทไม่รับคืนแล้ว และให้ นาย ม รับผิดชอบกรณีนี้เอง  ซึ่งในท้ายสุดของการเจรจา (ดิฉันพยายามโทรเข้าบริษัทหลายครั้ง แต่พนักงานรับสายบอกว่า ผู้มีอำนาจระบุว่าให้ดิฉันติดต่อ นาย ม โดยตรง) นาย ม บอกดิฉันว่าสามารถผ่อนชำระให้ดิฉันได้เดือนละ 500 บาท ซึ่งดิฉันไม่ยอมรับ และเสนอว่า หากบริษัทปัดความรับผิดให้เขา ให้นาย ม พูดคุยกับริษัท ให้ บริษัทจ่ายเงินคืนลูกค้าก่อน  และให้ นาย ม ผ่อนชำระ กับบริษัท โดยตรง ซึ่งเขารับปากจะโทรบอกดิฉันภายในวันจันทร์ที่ 17 กพ 57 แต่ขณะที่เขียนนี้  ดิฉันก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากเขา รวมถึงการที่เขาไม่รับโทรศัพท์ดิฉันด้วย

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กพ 57 มีอุปกรณ์ตัวจับสัญญาณฟ้องการทำงานผิด เพิ่มอีก (นับรวมตัวเดิม เป็น 2 ตัว)

ดังนั้นในคืนวันอาทิตย์ที่ 16 กพ 57 ดิฉันจึงเขียนเอกสาร แจ้งบริษัทใน 2 กรณี คือ (1) นาย ม ระบุว่า บริษัทให้เขารับผิดชอบเพียงผู้เดียว (2) มีอุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณทำงานผิดพลาด เพิ่มอีก 1 ตัว และเช่นเดิม ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากบริษัท

บทสรุป ลูกค้าคือดิฉัน ชำระเงินสดทุกบาท เกือบครึ่งแสน เพื่อต้องทนอยู่กับระบบที่ทำงาน ตามเงื่อนไขของบริษัท  โดยขณะนี้ต้องถอนอุปกรณ์ตัวหนึ่งออกจากระบบ เพราะมันจะส่ง SMS เข้าโทรศัพท์ตัวเองตลอดเวลาให้เปลี่ยนถ่าน  และจำต้องปิดระบบ เพราะหากเปิดใช้งาน อุปกรณ์ที่ทำงานผิดอีกตัวล่าสุดจะ ร้องโดยไม่มีสาเหตุ (ความผิดลาดของอุปกรณ์ตัวล่าสุด แจ้ง 16/2 แต่ไม่มีการรับรู้ใด ๆ จากบริษัท)
  
การติดต่อในขณะนี้  การติดต่อทางเอกสารไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากบริษัท หากโทรเข้าบริษัท พนักงานรับสายระบุไม่มีคนอยู่ภายในสำนักงาน นาย ม ซึ่งบริษัทระบุให้ลูกค้าติดต่อไม่ยอมติดต่อกลับและไม่รับสาย

หมายเหตุ พร้อมมีเอกสารการติดต่อทั้งหมดกับบริษัทเพื่อแสดง

ข้อปรึกษาค่ะ ในฐานะผู้บริโภค ที่จำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพอย่างสุจริต และต้องการใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ดิฉันควรจัดการอย่างไรคะ


********************************************************************************************************************************************************************************************************
UPDATE
5 มีนาคม 2557
ขณะนี้ ผู้บริหารบริษัท เดอะ ยูนิค จำกัด ที่จำหน่ายสินค้า iConnect ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับกรณีนี้แล้ว ขอขอบพระคุณ และขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ และขอขอบคุณพื้นที่ในพันทิป
*******************************************************************************************************************************************************************************************************
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ขอขอบพระคุณสำหรับทุกข้อความตอบรับ มีข้อมูลเพิ่มค่ะ

เพิ่งได้โทรศัพท์ (18/2) จากนาย ม ว่าจะมาเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวที่แจ้ง False ล่าสุด (แจ้งเมื่อ16/2)  กระทั่งถึงบัดนี้ บริษัทก็หลีกเลี่ยงการตอบเอกสารกับดิฉันเป็นหลักฐาน แต่กล้าที่จะให้นาย ม ระบุตนในเอกสารว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทติดต่อมายังดิฉํนเอง ทั้งที่ นาย ม เป็นบุคคลในเหตุการณ์ที่ผ่านมา ที่แสดงว่าเขาไม่สามารถปฏิบัติตามคำพูดใด ๆ ของเขา และอีกประการหนึ่ง ลูกค้าอย่างดิฉันสัมผัสได้ว่า บริษัทที่เขาทำงานด้วยนั้น ทำเสมือนหนึ่ง เลือกที่จะร่วมรู้ หรือเลือกที่จะไม่ร่วมรับรู้ ในข้อตกลงระหว่างลูกค้ากับเขา

ยกตัวอย่าง การที่นาย ม บอกรับคืนสินค้า แต่ที่สุดบอกบริษัทไม่รับ และ นาย ม ก็บอกว่าหากให้เขารับผิดชอบ เขาจะรับถอนสินค้าคืน และจะขอผ่อนให้ดิฉันเดือนละ 500 บาท  ...  ลองคิดดูสิคะ ไม่ต้องคิดดอกเบี้ย ต้องใช้เวลาถึง 89 เดือน   ... ??? ... เงื่อนไขแบบนี้ มีลูกค้าท่านใดในจักรวาล รับได้บ้าง และ ท่านคิดว่าเป็นท่าน จะทนใช้สินค้า และร่วมอยู่ในสัญญาต่าง ๆ กับบริษัทนี้อีกต่อไปหรือไม่คะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่