จีนจะมาเป็นมหาอำนาจแทนสหรัฐจริงๆหรือ แต่ดูจากสถิติจำนวนงานวิจัยแล้วไม่น่าใช่นะ ?

ถ้าดู gdp อัตราการขยายตัวแล้ว อนาคตจีนน่าจะ ศก ใหญ่กว่า สหรัฐแน่นอน ในอีกไม่กีปี
แต่การจะดูว่ามหาอำนาจไหมดูแค่ ศก อย่างเดียวไม่ได้ เพราะอนาคตจีนอาจเกิด middle income trap
หรือดูข่าวในทีวีได้ไหม ดูข่าวก็ไม่ได้ เพราะเราเห็นภาพแค่บางส่วนไม่ใช่ทั้งหมด และภาพบางส่วนนั้นก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของทั้งหมด
อย่างเช่นการพัมนาด้านอวกาศของจีน ผมมองว่าเป็นการโฆษณา
โปรปากานดา ประกาศศักดามากกว่า ส่วนการวิจัยน่าจะเป็นเรื่องสำคัญรองลงมา

แล้วอย่างนั้นดูที่อะไรหล่ะ

ผมคิดว่าดูทีจำนวนงานวิจัยดีกว่า เพราะวิทยาศาสตร์คือรากฐานที่จำเป็นและสำคัญสำหรับการเป็นมหาอำนาจในโลกปัจจุบัน
ไม่ใช่ใครมีมวลมหาประชาชนเยอะกว่าแล้วมาตีกันแบบสงครามสมัยก่อน  


Fig. 1

ว้าวดูภาพแรกจีนมีผลงานวิจัยเป็นอันดับสองของโลกเลย เก่งไม่เบานะนี่ แต่ก็ยังห่างจากที่หนึ่งพอสมควร แต่ดูอัตราการเพิ่มขึ้นของงานวิจัยในแต่ละปี จีนก็น่ากลัวใช่ย่อยแฮะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ที่คุณ Mr.Feynman นำเสนอมาก็น่าสนใจดีอยู่ครับ ที่วัดโดยสถิติผลงานวิจัย แต่การจัดอันดับ Power ทั้ง Small Power (ประเทศด้อยอำนาจ)

Middle Power (ประเทศอำนาจปานกลาง) Great Power (ประเทศมหาอำนาจ) หรือแม้แต่ Superpower (ประเทศอภิมหาอำนาจ)

เค้ามี Indicators และ Characteristics ที่วัดได้แน่นอนอยู่แล้วครับ นั่นคือ

1. อำนาจทางทหาร
2. อำนาจทางเศรษฐกิจ
3. อำนาจทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ซึ่งประเทศมหาอำนาจหมายถึงประเทศที่มีอำนาจเหล่านี้เหนือประเทศอื่นๆ จนทำให้เกิด Impact ไปทั่วโลกจากสิ่งที่ประเทศมหาอำนาจกระทำใน

ทุกๆด้าน และสามารถกำหนดทิศทางของโลกได้ครับ ตัวอย่างเช่น อำนาจทางเศรษฐกิจหมายถึง การที่ภาวะเศรษกิจในประเทศมหาอำนาจมีผลต่อ

ภาวะเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆที่อยู่ภายใต้อำนาจนั้นครับ (Super > Great > Middle > Small) ในขณะที่ภาวะทางเศรษกิจของประเทศใต้อำนาจ

ไม่มีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศมหาอำนาจได้ พูดง่ายๆก็คือ ประเทศเหล่านั้นไม่สามารถกำหนดทิศทางเศรษฐกิจโลกได้ครับ

เหตุเพราะความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มันไม่ Significant พอที่จะขับเคลื่อนหรือชี้นำภาพรวมเศรษฐกิจโลกได้ครับ

ซึ่งการที่จะวัดและจัดอันดับ Power ของแต่ละประเทศสามารถทำได้โดยวัด Power in International Relations ครับ และเครื่องชี้วัดเหล่านี้เป็น

Quantitative Measurement ด้วยครับ เช่น Comprehensive National Power Index จะบอกเลยว่าประเทศหนึ่งๆมี Power อยู่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับ

ประเทศอื่นๆ จึงทำให้สามารถจัดเรียงเป็นลำดับได้เลยครับ ซึ่งตอนนี้ China เป็น Great Power ในขณะที่ The U.S. เป็น Superpower ครับ

ผมขอพูดในส่วนของ Economic Power แล้วกันนะครับ องค์ประกอบอื่นผมเองไม่สันทัดนัก รอผู้รู้มาเสริมละกันนะครับ

คือว่าตามทฤษฎี Convergence แล้วเนี่ย Economic Growth เป็น Increasing Function แบบ Logarithmic Growth ครับ นั่นหมายความว่า

มันแสดง Diminishing Return ครับ บ่งบอกว่าประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสูงแล้วจะมีแนวโน้มชะลอตัว และมีอัตราการเติบโตน้อยลง

จนเกือบจะคงที่ๆค่าใดค่าหนึ่งครับ ในขณะที่ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำ จะมีอัตราการเติบโตมากขึ้นในแต่ละปีครับ จนท้ายที่สุดทั้งสอง

ประเทศจะโตเท่ากัน (ในทางเศรษฐศาสตร์) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Convergence Theory จะสัมฤทธิ์ผลก็ต่อเมื่อทั้งสองประเทศอยู่ใน Steady State เดียวกัน

ซึ่งเป็นการยากที่จะปรับ Steady State ของประเทศหนึ่งในเท่ากับของอีกประเทศหนึ่ง เพราะนั่นหมายถึง เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค

พฤติกรรมการลงทุน พฤติกรรมการออม ฯลฯ ของคนทั้งประเทศใหม่หมดครับ ก็คิดว่าคงยากสำหรับจีนอยู่ที่จะยกระดับตัวเองให้เท่าสหรัฐอเมริกา

ตัวอย่างเช่น ถ้าวันนึงจีนได้เป็นประเทศอภิมหาอำนาจ (Superpower) เหมือนอเมริกา ถึงตอนนั้นอเมริกาก็อาจจะเป็น โคตรอภิมหึมามหาอำนาจ

ไปแล้วก็ได้ (ไม่มีหรอก ผมตั้งเอง ฮ่าๆๆ) แต่ๆๆๆๆ มันก็มีข้อยกเว้นครับ ไม่ใช่ว่าไม่มีวันที่จีนจะโค่นอเมริกาได้ เราจำได้มั๊ยครับว่าเกิดอะไรขึ้น

กับมหาอำนาจเก่า (Original Great Power) อย่างอังกฤษ นั่นล่ะครับ ถ้าไม่เกิดอะไรร้ายแรงกับอเมริกา มันก็ยังก็ดำเนินไปแบบนี้เรื่อยๆครับ

จีนจะยังคงตามหลังอเมริกา และไม่สามารถมาแทนที่อเมริกาได้ครับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่