เรื่องนี้ผมขอระบายนิดนึง เพราะมันไม่ไหวจริงๆ โดยจะอธิบายลำดับเหตุการณ์ ดังนี้

ผมเดินทางจากกรุงเทพไปฮ่องกงกับครอบครัวรวมทั้งหมด 4 คนโดยบินไฟล์ท CX 706 ในคืนวันที่ 11 ก.พ.57(เช้าวันที่ 12 ก.พ.57 เวลา 01.25น.) ผมได้ทำการ check-in online ตั้งแต่เวลา 16.00น. ซึ่งทุกคนทราบที่นั่งทั้งหมดแล้ว โดยได้ที่นั่ง 66D, E , F ,G เมื่อผมเดินทางไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่เวลา 23.00น. (ล่วงหน้าเวลาบิน 2 ชั่วโมงกว่า) โดยปกติผมจะไปถึงสนามบินก่อนเวลาประมาณนี้อยู่แล้ว เมื่อไปถึงสนามบินผมได้นำกระเป๋าไปโหลดที่เคาน์เตอร์ แล้วผมสอบถามพนักงานว่าผมสามารถเปลี่ยนที่นั่งได้มั้ย(ยายและน้องสาวผมอยากนั่งริมหน้าต่าง) ซึ่งพนักงานก็ตอบว่าตอนนี้มัน overbooking ไม่สามารถเปลี่ยนที่นั่งได้ ผมก็โอเคเพราะยังไงเราก็มีที่นั่งแน่นอนแล้ว ในขณะนั้นเองพนักงานที่เคาน์เตอร์ก็พูดเปรยๆว่า supervisor เค้าพยายามให้ผมบอกผู้โดยสารว่าให้ผู้โดยสาร deny seat ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมั่นใจว่าได้ที่นั่งมาแล้ว ผมก็ยืนรอ boarding pass แต่ก็ไม่ได้ซักที ผมก็เลยถามไปว่ามันเกิดปัญหาอะไร พนักงานก็อ้ำอึ้งเหมือนไม่รู้จะตอบอะไรเหมือนเกรงใจใครไม่กล้าออก boarding pass พนักงานก็เรียก supervisor เข้ามาอธิบาย

คำพูดแรกของ supervisor "ผมต้องขอโทษด้วยน่ะครับ ตอนนี้ไฟล์ทมัน overbook ทุกที่นั่งเต็มหมดแล้ว เพราะไฟล์ทก่อนหน้ายกเลิกเลยต้องเอาผู้โดยสารจากไฟล์ทที่ยกเลิกมารวมกัน แล้วให้ผมต้องบินไฟล์ทเช้า(8.20น.)เท่านั้น ขณะนั้นเวลา 23.30 น. ผมก็งงว่าเราทุกคนทราบที่นั่งหมดแล้วแต่ทำไมเป็นอย่างนั้นได้ sup ก็ได้เสนอว่าให้เอา food voucher คนละ 200 บาทให้ผมไปนั่งกินขนม น้ำ ชั้นล่างแล้วค่อยขึ้นมาใหม่เวลา 00.30น. ตอนนั้นผมชักสงสัยว่าทำไมคนอื่นเค้าเช็คอินได้ ไม่มีใครต้องมายืนรอแบบผม ถ้าผู้โดยสารท่านอื่นโดนยกเลิกก็ไม่น่าจะยอมได้ง่าย ผมได้ทิ้งเบอร์มือถือให้กับพนักงานที่เคาร์เตอร์ไว้เผื่อมีอะไรให้โทรแจ้งด่วนเลย ผมได้เดินออกมาจากเคาร์เตอร์แต่ไม่ได้ลงไปกินอะไรทั้งสิ้น ยืนดูสถานการณ์ และแล้วพนักงานก็โทรหาผมภายในเวลาไม่เกิน 5 นาทีจากที่เดินออกมาแล้วบอกผมว่า booking ของผมมีที่นั่งตั้งแต่ check-in online แล้วแต่ sup เค้าไม่ยอมให้ผมออกตั๋วโดยสารให้ เค้าตำแหน่งสูงกว่าผม ผมทำอะไรไม่ได้ (ในใจผมเริ่มทนไม่ไหวแล้ว มันเล่นอะไรกันเนี่ย)

ขณะนั้นเวลา 23.40น. พอผมวางสายจากพนักงานผมก็เดินเข้าไปหา sup เองเลยเพื่อที่จะสอบถามเหตุผลว่าทำไม sup ก็เริ่มเสนอเงื่อนไข
โดยเงื่อนไขแรก คือ จะหาที่พักให้ใกล้สนามบินที่สุด (ผมไม่ยอม) ผมเริ่มเสียงแข็งว่าต้องไปไฟล์ทนี้เท่านั้น
เงื่อนไขที่สอง คือ ให้ผมไปไฟล์ทนี้คนเดียว อีก 3 คนไปไฟล์ทเช้า (ผมไม่เอาอยู่แล้ว ยืนยันคำเดิม)
เงื่อนไขที่สาม คือ ให้ไปได้ 2 คน ส่วนอีก 2 คนไปไฟล์ทเช้าโดย upgrade ที่นั่งเป็น business (ผมเริ่มไม่พอใจตกลงที่นั่งมันเหลือหนิ มันตุกติกอะไรว่ะ)
เงื่อนไขทั้งหมดผมรับไม่ได้เพราะรู้ว่าตอนนี้โดน sup หลอกอยู่ ผมเลยพูดไปว่า "ผมต้องบินไฟล์ทนี้เท่านั้นและต้องเดินทางพร้อมกันทั้ง 4 คน ผมยอมนั่งแยกกันก็ได้ถ้าที่นั่งเต็ม คุณมีหน้าที่จัดการให้ผม ผมไม่รับเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น (ถ้าเป็นเรื่องที่เร่งด่วนจิงจัง sup น่าจะต้องทำอะไรสักอย่างมากกว่าเดินไปมาคุยเล่นกับพนักงานหลายคนหน้าเคาน์เตอร์) ตอนนั้นในใจคิดว่าถ้าผมได้ที่นั่งที่ผม book ไว้ตั้งแต่แรก แสดงว่า sup หลอกเราตั้งแต่ต้น ไม่พอ sup ยังบอกให้ผมมาเช็คอินที่เคาน์เตอร์เวลา 00.40น. ใหม่อีก

เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงเวลา 00.15น. ผู้โดยสารหน้าเคาน์เตอร์ไม่มีเลย เหลือแต่กลุ่มผมกลุ่มเดียว ผมเลยเดินเข้าไปด้วยอารมณ์ไม่ไหวแล้ว ผมเลยตะโกนดังๆถามว่าจะเอายังไงกับผม จะออกตั๋วให้ผมได้รึยัง เล่นอะไรกันอยู่ ผมไม่สนุก ผมอยู่ตรงนี้เกือบ 2 ชั่วโมงจะไม่ให้ผมเข้าไปเดินซื้อของด้านในเลยรึไง เมื่อ sup เห็นผมอารมณ์ไม่ดีแล้วเริ่มโวยวาย sup ก็สั่งให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ออกตั๋วให้โดยใช้คำว่า "ปล่อยไป 4 คนเลย" ผมถามอีกครั้งว่าตกลงที่นั่งเหมือนเดิมมั้ย เค้าตอบว่า "นั่งแยกเป็น 2 คู่ แยกกัน" ปรากฏว่าตั๋วที่ได้นั่งเรียงกันตามที่ได้ check-in online มาจากบ้าน ตอนนั้นเวลา 01.00น. เคาน์เตอร์ต้องบัตร fast lane ให้ผ่าน ตม. แบบเร่งด่วน โดยผมต้องวิ่งไปขึ้นเครื่องเป็น 4 คนสุดท้าย(final call) แต่ sup พูดคำเดียวว่า "ผมขอโทษครับ" ยิ่งไปกว่านั้นที่นั่งในเครื่องว่างมากกว่า 10 ที่นั่ง ที่สำคัญไฟล์ทก่อนหน้านั้นไม่ได้ถูก cancel อย่างที่ sup บอกผม(ผมเช็คแล้ว)

จากเหตุการณ์นี้ sup หลอกผมจนวินาทีสุดท้าย อยากเตือนเพื่อนๆที่อ่านกระทู้นี้ถ้าเจอเหตุการณ์แบบผมให้ยืนยันคำเดิม อย่ารับข้อเสนอใดๆ สิ่งสำคัญควร check-in online ไปก่อนดีกว่า(ขณะผมทำไปก่อนยังโดนแบบนี้เลย) รับไม่ได้กับการกระทำของสายการบินระดับนี้