เรื่องราวของผมที่กำลังจะเล่าเป็นเรื่องที่ผมเก็บไว้ในใจตลอดหลายวันที่ผ่านมา โดยที่ไม่รู้จะไปเล่าให้ใครฟัง
มันเป็นความเสียใจที่แก้ไม่ได้เพราะคำว่า "ไม่มีเวลากับไม่ได้สนใจ"
วันที่ผมขอแฟนผมเป็นแฟนมันเป็นวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 52 ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ปวส เช่นเดียวกันกับแฟนผมเรียน ปวส เหมือนกันแต่อยู่คนละแผนก
ตอนนั้นก็คบกันมีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ พอจบปวส ตัวผมเองทำงาน ส่วนแฟนผมเรียนต่อ ป.ตรี วันเสาร์ อาทิตย์
ซึ่งตอนนี้เอง ระยะห่างของเรา 2 คนก็เริ่มเกิดขึ้น เนื่องด้วยเวลา และสถานที่ตัวผมเองทำงานคนละจังหวัดกับแฟน
ระยะห่างเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การโทรหากันก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่การเจอหน้าักันไม่เหมือนเดิม
ซึ่งแต่ก่อนเจอหน้ากันทุกวันกลับกลายเป็น อาทิตย์ละครั้ง เดือนละ 2 ครั้ง จนกลายเป็นเดือนละครั้ง
แต่เราก็ยังคบกันอยู่เหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือแฟนผมเริ่มเก็บความน้อยใจที่ไม่ค่อยได้เจอไว้ในใจอย่างเงียบๆ
ซึ่งตัวผมเองนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะด้วยการทำงานที่หนักเพื่อที่จะเก็บเงินให้ได้เยอะที่สุด เพื่อที่จะขอแต่งงาน
ผมกับแฟนเคยคุยกันไว้ว่าพอเธอเรียนจบ ซัก 2 ปี จะได้แต่งงานกันจะได้เจอหน้ากันทุกวันละได้นอนกอดกันทุกคืน
ละแล้ววันที่ผมกับแฟนต้องเลิกกันมาถึง เพราะด้วยตัวแฟนผมนั้นมีเพื่อนเข้ามาตีสนิทและขอคบแฟนผม
ทั้งๆที่รู้ว่า แฟนผมมีแฟนอยู่แล้ว เค้าคนนั้นเริ่มเข้ามาแทนผมทีละน้อย ซึ่งตัวผมเองไม่รู้ละไม่ได้ใส่ใจ เพราะว่ามั่วแต่ทำงาน
ทำงานจนมากเกินไป ตลอด 2 ปีหลังที่ผ่านมา การโทรศัพท์จากคุยกันทุกวันกลายเป็น 3-4 วันต่อครั้ง
แฟนผมโทรมาผมก็มันจะบอกไปว่าไม่ว่าง ผมเริ่มวีนใส่แฟนผมเป็นทุกครั้งตอนคุยโทรศัพท์
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 หลังจากที่พาแฟนไปกินข้าวเสร็จมานั่งที่บ้านเธอ คุยอะไรเรื่อยเปื่อย แล้วเธอก็บอกผมโดยที่ผมไม่ได้นึกมาก่อนเลย
แฟน : (ทำหน้าเศร้าแล้วบอกว่า) เพื่อนเราโทรมาหาเราตลอดเลย เค้าขอเราเป็นแฟน
ผม : เอ้าจริงหรอ แล้วแกว่าไงละ (ผมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องตลกไม่ได้คิดอะไรมาก)
แฟน : เราก็บอกว่ามีแฟนแล้ว แต่เพื่อนบอกว่าเดี๋ยวจะรอ
ผม : ....... แล้วแกว่ายังไงละ
แฟน : นั่งคิดอยู่สักพัก......แล้วบอกว่าเค้ามีเวลาให้มากกว่าผม
ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกตัวเลยว่ามันกำลังจะมีอะไรเปรี่ยนแปลงไป เพราะแฟนผมไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน ผมเลยถามแฟนไปว่า
ผม : แกจะไม่หวั่นไหวใช่ไหมบอกเค้าหน่อยสิ
แฟน : นิ่งเงียบ.......เค้าไม่รู้ว่าเค้าจะทำยังไง
ผม : หน้าชา มือชาไปไหม สมองเหมือนหยุดการทำงาน
แฟมผมร้องไห้เข้ามากอดผมแล้วก็ขอโทษผม บอกว่าเค้าขอโทษที่ผิดสัญญาก่อน เค้ามีคนใหม่ก่อน เค้าขอโทษจริงๆ
ความคิดผมในตอนนั้นเดี๋ยวก่อน เพราะอะไรทำไมถึงเป็นแบบนี้ ไม่มีสาเหตุอะไรที่ต้องเลิกกันเลย ผมพิดตรงไหน ผมคิดอยู่ในใจ
ณ ตอนนั้นอารมณ์ผมโมโหมากที่รู้ว่าแฟนผมมีคนใหม่ ผมกลับบ้านเลย ปล่อยให้แฟนผมนั่งร้องไห้ไป
ผมกลับมาถึงบ้าน มานั่งคิดอยู่คนเดียว นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว ปิดโทรศัพท์ไม่รับรู้เรื่องราว คิดว่ายังไงก็ต้องไปเอาคืนกับผู้ชายให้ได้
พอตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับการหยุดงาน อารมณ์เหมือนไม่อยากทำอะไร สมองว่างเปล่าไม่หมด
คำถามแรกที่ผมถามกับตัวเอง มันจบแล้วหรอ มันเป็นเรื่องจริงหรอ ผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา พร้องเบอร์ที่ไม่ได้รับสาย 50 กว่าสาย
ซึ่งเป็นของแฟนผมทั้งหมด ผมเลยตัดสินในโทรไปหาเพื่อขอเหตุผล....กดเบอร์แล้วโทร....มันเ้ป็นการรอสายที่นานมาก
ผม : ทำอะไรอยู่หรอกินข้าวยัง (ผมทำน้ำเสียงให้ปรกติมากที่สุดทั้งๆที่อารมณ์ไปหมดแล้ว อยากจะร้องไห้)
แฟน : กินแล้ว พร้องทั้งเสียงร้องไห้
ผม : ผมกลั่นใจถาม เพราะอะไร
แฟน : (ร้องไห้หนักกว่าเดิม พูดจาไม่รู้เรื่อง) ไม่รู้เลยหรอเพราะอะไร
ผม : ..........ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันหรอ
แฟน : ใช่ งานสำคัญมากกว่าเราหรอ ไม่มีเวลาแม้จะโทรหาเลยหรอ
ผม : เค้าขอโทษ ที่เค้าไม่มีเวลาให้แกเลย แต่แกก็หน้าจะรู้นิว่าทำไม เค้าทำเพื่ออนาคตนะ ไว้เพื่อนได้อยู่กับแกไง
แฟน : (เงียบไปสัก 2 นาที) เค้าก็รู้ แต่เ้ค้าอยู่แบบไม่มีความสุขเลย แค่โทรมาหาเค้าก็ยังดี
ผม : เค้าขอโทษเค้าขอโอกาสได้ไหม นะต่อไปเค้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว
แฟน : .............(เงียบยาว พร้อมกับร้องไห้หนักมาก)
ผม : แกเค้าขอโทษจริงๆ ให้โอกาสเค้านะ นึกถึง 4 ปีที่เราอยู่ด้วยกันมาสิ เจออะไรมามากมาย
แฟน : ................
ผม : แกอีก 2 ปีเราก็จะได้แต่งงานด้วยกันแล้วนะตามที่สัญญา เค้าทำทุกอย่างเพื่อเรานะ
แฟน : ................ได้แต่ร้องไห้
ณ จุดนี้ผมรู้แล้วว่ามันไม่ทันแล้ว มันแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว จนคำที่แฟนผมพูดมาประโยคสุดท้าย
แฟน : เค้ากลัวเจ็บ กลัวแกทำเหมือนอีก แกรู้ไหมเค้าต้องอยู่คนเดียวมาตลอด เค้าเหงาแกรู้ไหม.......ปล่อยเราเถอะ เราจบกันแค่นี้เถอะ
(พร้อมกับเสียงร้องไห้ที่ดังมาก)
ผม : เค้าขอโอกาสได้ไหม ผมพูดแบบนี้เป็น สิบๆ รอบ
ผมรู้ตัวแล้วว่าเธอไม่มีทางกลับมา ผมตัดใจกดวางสายพร้อมกันกับน้ำที่ไหลออกมา ผมไม่เคยร้องไห้ให้เธอได้ยิน
ผมมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว ร้องทั่งวันร้องจนไม่มีน้ำตา จนเพื่อนเข้ามาที่ห้องเพราะว่าแปลกใจผมไม่ไปทำงานแล้วไม่โทรไปหา
ผมบอกกับเพื่อนไปตามตรง เพื่อนมันก็ปลอบใจตามภาษา ผมมาทำงานวันที่ 11 เพื่อที่จะลืม แต่ก็ไม่มีอะไีรดีขึ้นมา จนถึงวันนี้
ผมมานั่งคิดกับตัวเองตลอดว่าทำไมเธอถึงไปจากผม เพราะคำว่าเวลาหรือความไม่เอาใจใส่
ผมไม่โทษเธอเลยที่เธอเดินจากผมไป ผมไม่โทษแฟนใหม่เธอด้วยตอนที่เธอบอกเหตุผล
แฟนผมเป็นคนที่รักผมมากดูแลผมตลอดตอนที่เข้าโรงพยาบาลหรือตอนที่ผมไม่สบายใจ
แต่กลับเป็นผมเองที่ทำร้ายเธอโดยที่ผมไม่รู้ตัว ผมอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไข แต่มันก็เป็นเพียงเรื่องละเมอเผ้อฝัน
สุดท้ายแล้วผมอยากขอโทษเธอ ขอโทษจริงๆ
*สิ่งที่ผมเล่ามาให้ฟังทั้งหมดแค่อยากจะเตือนเพื่อนๆว่า บางสิ่งบางอย่างไม่มีโอกาสกลับไปแก้ไขได้
มันไม่มีประตูย้อนเวลา ที่จะทำให้เรากลับไปแกไขได้ การที่ได้อยู่กับคนที่คุณรักแล้วเค้ารักคุณ มันเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว
อย่าละเลยบางสิ่งบางอย่าง เอาใจเค้ามาใส่ใจเราให้มากๆ ไม่งั้นเราจะมานั่งเสียใจทีหลัง
4 ปี กับ 364 วัน จากคนที่เคยรัก กลายเป็นคนที่เคยรู้จัก
มันเป็นความเสียใจที่แก้ไม่ได้เพราะคำว่า "ไม่มีเวลากับไม่ได้สนใจ"
วันที่ผมขอแฟนผมเป็นแฟนมันเป็นวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 52 ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ปวส เช่นเดียวกันกับแฟนผมเรียน ปวส เหมือนกันแต่อยู่คนละแผนก
ตอนนั้นก็คบกันมีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องปกติ พอจบปวส ตัวผมเองทำงาน ส่วนแฟนผมเรียนต่อ ป.ตรี วันเสาร์ อาทิตย์
ซึ่งตอนนี้เอง ระยะห่างของเรา 2 คนก็เริ่มเกิดขึ้น เนื่องด้วยเวลา และสถานที่ตัวผมเองทำงานคนละจังหวัดกับแฟน
ระยะห่างเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การโทรหากันก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่การเจอหน้าักันไม่เหมือนเดิม
ซึ่งแต่ก่อนเจอหน้ากันทุกวันกลับกลายเป็น อาทิตย์ละครั้ง เดือนละ 2 ครั้ง จนกลายเป็นเดือนละครั้ง
แต่เราก็ยังคบกันอยู่เหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือแฟนผมเริ่มเก็บความน้อยใจที่ไม่ค่อยได้เจอไว้ในใจอย่างเงียบๆ
ซึ่งตัวผมเองนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะด้วยการทำงานที่หนักเพื่อที่จะเก็บเงินให้ได้เยอะที่สุด เพื่อที่จะขอแต่งงาน
ผมกับแฟนเคยคุยกันไว้ว่าพอเธอเรียนจบ ซัก 2 ปี จะได้แต่งงานกันจะได้เจอหน้ากันทุกวันละได้นอนกอดกันทุกคืน
ละแล้ววันที่ผมกับแฟนต้องเลิกกันมาถึง เพราะด้วยตัวแฟนผมนั้นมีเพื่อนเข้ามาตีสนิทและขอคบแฟนผม
ทั้งๆที่รู้ว่า แฟนผมมีแฟนอยู่แล้ว เค้าคนนั้นเริ่มเข้ามาแทนผมทีละน้อย ซึ่งตัวผมเองไม่รู้ละไม่ได้ใส่ใจ เพราะว่ามั่วแต่ทำงาน
ทำงานจนมากเกินไป ตลอด 2 ปีหลังที่ผ่านมา การโทรศัพท์จากคุยกันทุกวันกลายเป็น 3-4 วันต่อครั้ง
แฟนผมโทรมาผมก็มันจะบอกไปว่าไม่ว่าง ผมเริ่มวีนใส่แฟนผมเป็นทุกครั้งตอนคุยโทรศัพท์
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 หลังจากที่พาแฟนไปกินข้าวเสร็จมานั่งที่บ้านเธอ คุยอะไรเรื่อยเปื่อย แล้วเธอก็บอกผมโดยที่ผมไม่ได้นึกมาก่อนเลย
แฟน : (ทำหน้าเศร้าแล้วบอกว่า) เพื่อนเราโทรมาหาเราตลอดเลย เค้าขอเราเป็นแฟน
ผม : เอ้าจริงหรอ แล้วแกว่าไงละ (ผมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องตลกไม่ได้คิดอะไรมาก)
แฟน : เราก็บอกว่ามีแฟนแล้ว แต่เพื่อนบอกว่าเดี๋ยวจะรอ
ผม : ....... แล้วแกว่ายังไงละ
แฟน : นั่งคิดอยู่สักพัก......แล้วบอกว่าเค้ามีเวลาให้มากกว่าผม
ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกตัวเลยว่ามันกำลังจะมีอะไรเปรี่ยนแปลงไป เพราะแฟนผมไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน ผมเลยถามแฟนไปว่า
ผม : แกจะไม่หวั่นไหวใช่ไหมบอกเค้าหน่อยสิ
แฟน : นิ่งเงียบ.......เค้าไม่รู้ว่าเค้าจะทำยังไง
ผม : หน้าชา มือชาไปไหม สมองเหมือนหยุดการทำงาน
แฟมผมร้องไห้เข้ามากอดผมแล้วก็ขอโทษผม บอกว่าเค้าขอโทษที่ผิดสัญญาก่อน เค้ามีคนใหม่ก่อน เค้าขอโทษจริงๆ
ความคิดผมในตอนนั้นเดี๋ยวก่อน เพราะอะไรทำไมถึงเป็นแบบนี้ ไม่มีสาเหตุอะไรที่ต้องเลิกกันเลย ผมพิดตรงไหน ผมคิดอยู่ในใจ
ณ ตอนนั้นอารมณ์ผมโมโหมากที่รู้ว่าแฟนผมมีคนใหม่ ผมกลับบ้านเลย ปล่อยให้แฟนผมนั่งร้องไห้ไป
ผมกลับมาถึงบ้าน มานั่งคิดอยู่คนเดียว นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว ปิดโทรศัพท์ไม่รับรู้เรื่องราว คิดว่ายังไงก็ต้องไปเอาคืนกับผู้ชายให้ได้
พอตอนเช้าผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับการหยุดงาน อารมณ์เหมือนไม่อยากทำอะไร สมองว่างเปล่าไม่หมด
คำถามแรกที่ผมถามกับตัวเอง มันจบแล้วหรอ มันเป็นเรื่องจริงหรอ ผมเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา พร้องเบอร์ที่ไม่ได้รับสาย 50 กว่าสาย
ซึ่งเป็นของแฟนผมทั้งหมด ผมเลยตัดสินในโทรไปหาเพื่อขอเหตุผล....กดเบอร์แล้วโทร....มันเ้ป็นการรอสายที่นานมาก
ผม : ทำอะไรอยู่หรอกินข้าวยัง (ผมทำน้ำเสียงให้ปรกติมากที่สุดทั้งๆที่อารมณ์ไปหมดแล้ว อยากจะร้องไห้)
แฟน : กินแล้ว พร้องทั้งเสียงร้องไห้
ผม : ผมกลั่นใจถาม เพราะอะไร
แฟน : (ร้องไห้หนักกว่าเดิม พูดจาไม่รู้เรื่อง) ไม่รู้เลยหรอเพราะอะไร
ผม : ..........ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันหรอ
แฟน : ใช่ งานสำคัญมากกว่าเราหรอ ไม่มีเวลาแม้จะโทรหาเลยหรอ
ผม : เค้าขอโทษ ที่เค้าไม่มีเวลาให้แกเลย แต่แกก็หน้าจะรู้นิว่าทำไม เค้าทำเพื่ออนาคตนะ ไว้เพื่อนได้อยู่กับแกไง
แฟน : (เงียบไปสัก 2 นาที) เค้าก็รู้ แต่เ้ค้าอยู่แบบไม่มีความสุขเลย แค่โทรมาหาเค้าก็ยังดี
ผม : เค้าขอโทษเค้าขอโอกาสได้ไหม นะต่อไปเค้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว
แฟน : .............(เงียบยาว พร้อมกับร้องไห้หนักมาก)
ผม : แกเค้าขอโทษจริงๆ ให้โอกาสเค้านะ นึกถึง 4 ปีที่เราอยู่ด้วยกันมาสิ เจออะไรมามากมาย
แฟน : ................
ผม : แกอีก 2 ปีเราก็จะได้แต่งงานด้วยกันแล้วนะตามที่สัญญา เค้าทำทุกอย่างเพื่อเรานะ
แฟน : ................ได้แต่ร้องไห้
ณ จุดนี้ผมรู้แล้วว่ามันไม่ทันแล้ว มันแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว จนคำที่แฟนผมพูดมาประโยคสุดท้าย
แฟน : เค้ากลัวเจ็บ กลัวแกทำเหมือนอีก แกรู้ไหมเค้าต้องอยู่คนเดียวมาตลอด เค้าเหงาแกรู้ไหม.......ปล่อยเราเถอะ เราจบกันแค่นี้เถอะ
(พร้อมกับเสียงร้องไห้ที่ดังมาก)
ผม : เค้าขอโอกาสได้ไหม ผมพูดแบบนี้เป็น สิบๆ รอบ
ผมรู้ตัวแล้วว่าเธอไม่มีทางกลับมา ผมตัดใจกดวางสายพร้อมกันกับน้ำที่ไหลออกมา ผมไม่เคยร้องไห้ให้เธอได้ยิน
ผมมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียว ร้องทั่งวันร้องจนไม่มีน้ำตา จนเพื่อนเข้ามาที่ห้องเพราะว่าแปลกใจผมไม่ไปทำงานแล้วไม่โทรไปหา
ผมบอกกับเพื่อนไปตามตรง เพื่อนมันก็ปลอบใจตามภาษา ผมมาทำงานวันที่ 11 เพื่อที่จะลืม แต่ก็ไม่มีอะไีรดีขึ้นมา จนถึงวันนี้
ผมมานั่งคิดกับตัวเองตลอดว่าทำไมเธอถึงไปจากผม เพราะคำว่าเวลาหรือความไม่เอาใจใส่
ผมไม่โทษเธอเลยที่เธอเดินจากผมไป ผมไม่โทษแฟนใหม่เธอด้วยตอนที่เธอบอกเหตุผล
แฟนผมเป็นคนที่รักผมมากดูแลผมตลอดตอนที่เข้าโรงพยาบาลหรือตอนที่ผมไม่สบายใจ
แต่กลับเป็นผมเองที่ทำร้ายเธอโดยที่ผมไม่รู้ตัว ผมอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไข แต่มันก็เป็นเพียงเรื่องละเมอเผ้อฝัน
สุดท้ายแล้วผมอยากขอโทษเธอ ขอโทษจริงๆ
*สิ่งที่ผมเล่ามาให้ฟังทั้งหมดแค่อยากจะเตือนเพื่อนๆว่า บางสิ่งบางอย่างไม่มีโอกาสกลับไปแก้ไขได้
มันไม่มีประตูย้อนเวลา ที่จะทำให้เรากลับไปแกไขได้ การที่ได้อยู่กับคนที่คุณรักแล้วเค้ารักคุณ มันเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว
อย่าละเลยบางสิ่งบางอย่าง เอาใจเค้ามาใส่ใจเราให้มากๆ ไม่งั้นเราจะมานั่งเสียใจทีหลัง